ลอสแอนเจลิส

ลอสแอนเจลิส 23 ก.พ.- พายุหิมะหลายลูกพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในสหรัฐเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีหิมะตกหนักเป็นอุปสรรคต่อการจราจรเป็นวงกว้าง ขณะที่บางพื้นที่กลับมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นอย่างผิดปกติ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐพยากรณ์ว่า พายุหิมะรุนแรงจะทำให้มีหิมะตกหนาถึง 60 เซนติเมตรตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐไปจนถึงเกรตส์เลกส์ ซึ่งเป็นพื้นที่กลุ่มทะเลสาบทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้ต้องระงับเที่ยวบินและคนจำนวนมากไม่มีไฟฟ้าใช้ สำนักงานฯ ได้ประกาศเตือนหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ แม้แต่พื้นที่ที่ปกติแล้วจะมีแดดจัดใกล้นครลอสแอนเจลิส โดยเฉพาะรัฐมินนิโซตา ทางตอนเหนือของสหรัฐที่คาดว่าจะมีหิมะตก 2 รอบ เพราะพายุฤดูหนาวครั้งใหญ่ ประกอบกับมีกระแสลมกระโชกแรง 55-75 กิโลเมตร ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ข้อมูลของไฟลต์อะแวร์ดอทคอม (Flightaware.com) เผยว่า นับจนถึงเวลา 00:00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล สหรัฐยกเลิกเที่ยวบินรวมแล้วมากกว่า 1,550 เที่ยว ขณะที่เว็บไซต์พาวเวอร์เอาเทจดอทยูเอส (Poweroutage.us) ระบุว่า มีสถานที่ประมาณ 280,000 แห่งทั่วสหรัฐไม่มีไฟฟ้าใช้ ครึ่งหนึ่งอยู่ในรัฐมิชิแกน อย่างไรก็ดี ในขณะที่ฝั่งตะวันตกและตอนเหนือของสหรัฐเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็น หลายพื้นที่ของที่ราบตอนเหนือและตอนกลางอาจมีลมเย็นจัดติดลบ 34 องศาเซลเซียส ฝั่งตะวันออกของสหรัฐกลับจะมีอากาศอุ่นผิดปกติ พื้นที่แถบหุบเขาโอไฮโอและตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 4 องศาเซลเซียส คล้ายกับอุณหภูมิช่วงเดือนมิถุนายน ทั้งที่ยังเป็นเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

ลอสแอนเจลิส 31 ส.ค.- ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐกำลังเผชิญคลื่นความร้อนอันตราย คาดว่าอุณหภูมิจะสูงจัดต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า ทั้งที่เพิ่งเผชิญฝนตกหนักในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐพยากรณ์ว่า ย่านชานเมืองนครลอสแอนเจลิสที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่นอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียสหรือ 112 องศาฟาเรนไฮต์ เนื่องจากเกิดปรากฏการณ์โดมความร้อนปกคลุมในหลายพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเนวาดา และรัฐแอริโซนา คาดว่าสภาพอากาศร้อนจนเป็นอันตรายจะต่อเนื่องไปตลอดทั้งสัปดาห์ โดยอาจต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์หน้าเป็นอย่างน้อย เสี่ยงทำให้คนล้มป่วยเพราะความร้อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ทำงานหรือมีกิจกรรมกลางแจ้ง พื้นที่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียมักเผชิญคลื่นความร้อนในเดือนกันยายน แต่อุณหภูมิที่สูงกว่า 100 องศาฟาเรนไฮต์ถือว่าร้อนแม้แต่กับพื้นที่ที่มีแดดจัดอยู่เสมอ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ภาวะโลกร้อนที่ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังทำให้สภาพอากาศแปรปรวนทางธรรมชาติมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น คลื่นความร้อนมีความร้อนมากขึ้นและรุนแรงขึ้น พายุทำให้มีฝนตกหนักมากขึ้นและเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ลอสแอนเจลิส 24 ก.ค.- คลื่นความร้อนที่กำลังแผ่ปกคลุมสหรัฐในเวลานี้อาจทำให้ภูมิภาคตอนกลางและตะวันออกเฉียงเหนือต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้เสี่ยงเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้น สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐเตือนว่า วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่ราบทางตอนกลางของสหรัฐอาจจะมีอุณหภูมิสูงสุดช่วงกลางวันลบสถิติระดับศตวรรษ และอาจจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างวันสูงที่สุดเช่นเดียวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าเขตมหานครทางตอนกลางของสหรัฐอย่างดัลลัส โอคลาโฮมา จะมีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาเซลเซียสในช่วง 5 ข้างหน้าเป็นอย่างน้อย ขณะที่หลายเมืองริมฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่นครบอสตันลงมาจนถึงเมืองฟิลาเดลเฟียและกรุงวอชิงตันได้ประกาศเหตุฉุกเฉินด้านความร้อนแล้ว และเปิดศูนย์ให้ความเย็นให้แก่ชุมชนเสี่ยง เช่น คนไร้บ้าน คนที่บ้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ แม้แต่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือริมมหาสมุทรแปซิฟิกที่ปกติแล้วมีอากาศเย็นสบายก็จะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติเป็นเวลาหลายวันในช่วง 90 วันข้างหน้า ขณะเดียวกันคลื่นความร้อนยังทำให้เกิดไฟป่าเพิ่มขึ้น เช่น ไฟป่าโอ๊คไฟร์ (Oak Fire) ที่เกิดขึ้นใกล้อุทยานแห่งชาติโยเซมิตีในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันศุกร์ ไฟลามอย่างรวดเร็วเผาพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 150 ไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 16,387 ไร่ ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง สำนักงานป้องกันป่าไม้และไฟป่าแจ้งว่า จนถึงเที่ยงวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นยังไม่สามารถควบคุมไฟได้เลย ไฟโหมไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนและปกป้องโครงสร้างที่จำเป็น นักดับเพลิงมากกว่า 400 คน กำลังต่อสู้กับไฟป่าโดยมีเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำช่วยควบคุมไฟ หนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสไทมส์รายงานว่า กลุ่มควันจากไฟป่าสูงขึ้นไปในอากาศถึง 30,000 ฟุต หรือราว 9.14 กิโลเมตร พร้อมกับอ้างเจ้าหน้าที่ว่า […]