รัสเซีย

เคียฟ 19 ส.ค. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า เขารู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอร์ริชเชียที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครน นายกูเตอร์เรสกล่าวในระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ในเมืองลวีฟเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอร์ริชเชียก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่ประธานาธิบดีแอร์โดอาน เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกับนายกูเตอร์เรส และหวั่นเกรงว่าอาจเกิดหายนะขึ้นเหมือนกับภัยพิบัติเชอร์โนบิลเมื่อปี 2529 ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นการพบกันครั้งแรกของประธานาธิบดีเซเลนสกีกับนายกูเตอร์เรส นับตั้งแต่ที่เลขาธิการยูเอ็นเดินทางเยือนยูเครนในเดือนเมษายน และมีการยิงจรวดโจมตีกรุงเคียฟในระหว่างนั้น บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอร์ริชเชียตกอยู่ท่ามกลางดงกระสุนปืนใหญ่ในสมรภูมิรบดุเดือดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งต่างฝ่ายต่างโยนความผิดใส่กันไปมาในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวก่อนเริ่มการประชุมสุดยอดในครั้งนี้ว่า รัสเซียจงใจโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอร์ริชเชีย ทั้งนี้ รัสเซียถูกกล่าวหาว่าต้องการเปลี่ยนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ให้เป็นฐานทัพ จนทำให้นายกูเตอร์เรส ประธานาธิบดีเซเลนสกี และประธานาธิบดีแอร์โดอาน ต้องออกมาเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากเขตโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

เนปิดอว์ 18 ส.ค. – โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ระบุว่า เมียนมาวางแผนนำเข้าน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตาจากรัสเซีย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันและราคาน้ำมันแพงในประเทศ นายซอ มิน ตัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงวันนี้ว่า เมียนมาได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียที่มีคุณภาพดีและราคาเหมาะสม หลังพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้หารือเรื่องการนำเข้าน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตาจากรัสเซียในระหว่างเดินทางเยือนรัสเซียในเดือนกรกฎาคม โดยจะนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียผ่านสิงคโปร์ นอกจากนี้ รัฐบาลทหารเมียนมากำลังพิจารณาการขุดเจาะสำรวจน้ำมันในประเทศร่วมกับรัสเซียและจีนอีกด้วย ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ของทางการเมียนมาได้เผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้ว่า กองทัพเมียนมาได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดซื้อน้ำมันรัสเซียที่มีหัวหน้าเป็นบุคคลใกล้ชิดของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เพื่อทำหน้าที่ดูแลการสั่งซื้อ นำเข้า และขนส่งน้ำมันในราคาที่เหมาะสมตามความต้องการของเมียนมา โดยคาดว่าจะเริ่มนำเข้าน้ำมันได้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ เมียนมากำลังประสบปัญหาราคาน้ำมันแพงและขาดแคลนไฟฟ้า จนทำให้กองทัพเมียนมาต้องหาทางนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำมาใช้ผลิตกระแสไฟในโรงไฟฟ้าได้ ขณะที่ราคาน้ำมันในเมียนมาพุ่งสูงถึงลิตรละ 2,300-2,700 จ๊าด (39-46 บาท) ซึ่งทำสถิติพุ่งสูงถึง 350% นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ทั้งนี้ เมียนมายังคงรักษาความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับรัสเซียในขณะที่เมียนมาถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรจากเหตุรัฐประหารและสถานการณ์รุนแรงในประเทศ ส่วนรัสเซียถูกคว่ำบาตรจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครน ซึ่งรัสเซียระบุว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 17 ส.ค. – รัสเซียกล่าวหาว่าเหตุระเบิดคลังกระสุนที่ฐานทัพแห่งหนึ่งบนคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันอังคารเป็นฝีมือของกลุ่มก่อวินาศกรรม ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวเป็นนัยว่า ยูเครนได้วางกลยุทธ์ทำลายฐานทัพเพื่อตัดกำลังรุกรานของรัสเซีย กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า เหตุระเบิดคลังกระสุนที่ฐานทัพแห่งหนึ่งบนคาบสมุทรไครเมีย ที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนรัสเซี่ยในปี 2557 เป็นฝีมือของกลุ่มก่อวินาศกรรม โดยที่คาบสมุทรไครเมียเป็นฐานทัพสำคัญของกองกำลังรัสเซียทางตอนใต้ของยูเครนและเป็นที่ตั้งของกองเรือในทะเลดำ ขณะที่ยูเครนไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นฝีมือของตน แต่นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวกับหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษว่า ยูเครนได้วางกลยุทธ์ทำลายคลังกระสุน เส้นทางขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ หรือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารอื่น ๆ เพื่อสร้างความปั่นป่วนในกองทัพรัสเซีย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้เตือนชาวยูเครนให้อยู่ห่างจากฐานทัพและคลังกระสุนของรัสเซีย เหตุระเบิดบนคาบสมุทรไครเมียอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ซึ่งรวมถึงความไร้ประสิทธิภาพในการป้องกันของรัสเซีย แต่การระเบิดคลังกระสุน ฐานทัพ อาวุทยุทโธปกรณ์ และระบบโลจิสติกส์ของรัสเซีย จะช่วยรักษาชีวิตของประชาชนยูเครนได้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 16 ส.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน และการคาดการณ์ของสื่อต่าง ๆ ที่ว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธเคมีในสถานการณ์ขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวในงานประชุมความมั่นคงระหว่างประเทศที่กรุงมอสโกในวันนี้ว่า ถ้ามองในแง่การทหาร รัสเซียไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะเป้าหมายหลักของการใช้อาวุธนิวเคลียร์คือการป้องกันการโจมตีจากอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งยังระบุว่า สื่อต่าง ๆ มักคาดการณ์ในเชิงกล่าวหารัสเซียว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หรืออาวุธเคมี โจมตียูเครนในปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ แต่สิ่งที่สื่อคาดการณ์ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น นายชอยกูยังกล่าวหาว่า สหรัฐกับอังกฤษเป็นผู้วางแผนปฏิบัติการทางทหารของยูเครน จากการที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ได้สั่งเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออกหลายครั้งจนผิดสังเกต  ทั้งยังระบุว่า การหารือเรื่องขยายเวลาสนธิสัญญาลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ (New Start Treaty) เพื่อควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐกับรัสเซียต้องอาศัยภาระผูกพันซึ่งกันและกัน แต่สถานการณ์ในตอนนี้เป็นไปได้ยากที่จะทำเช่นนั้น อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวจะยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2569.-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่ในไครเมียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเผยว่า เกิดระเบิดที่โกดังเก็บกระสุนในวันนี้ มีผู้บาดเจ็บ 2 คน และกระทบต่อการเดินรถไฟระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับพื้นที่ทางใต้ของยูเครนและรัสเซีย

มอสโก 15 ส.ค. – รัสเซียเปิดตัวโมเดลสถานีอวกาศที่วางแผนสร้างขึ้นเองเป็นครั้งแรกในงานจัดแสดงอุตสาหกรรมทางทหารที่จัดขึ้นนอกกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติ หรือไอเอสเอส องค์การอวกาศสหพันธ์รัสเซีย หรือรอสคอสมอส เปิดตัวโมเดลสถานีอวกาศที่รัสเซียวางแผนสร้างขึ้นเอง หรือที่สื่อของทางการรัสเซียมักเรียกกันว่า ‘รอสส์’ (ROSS) ในงานจัดแสดงอุตสาหกรรมทางทหาร ‘อาร์มี-2022’ (Army-2022) ที่จัดขึ้นนอกกรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ รอสคอสมอสระบุในแถลงการณ์ว่า ภารกิจสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่ของรัสเซียจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ แต่ไม่ได้เปิดเผยวันที่แน่นอน ระยะแรกจะเป็นการส่งโมดูล 4 โมดูลขึ้นไปเริ่มปฏิบัติการ ส่วนระยะที่สองจะส่งโมดูลที่เหลืออีก 2 โมดูลและชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อการทำงานของนักบินอวกาศสูงสุด 4 คน นอกจากนี้ สถานีอวกาศแห่งใหม่ของรัสเซียจะช่วยให้นักบินอวกาศมองเห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการติดตามและเฝ้าระวัง ในขณะเดียวกัน สื่อของทางการรัสเซียคาดการณ์ว่า รัสเซียจะเริ่มเข้าสู่แผนสร้างสถานีอวกาศระยะแรกในช่วงปี 2568-2569 และจะเสร็จสิ้นกระบวนการสร้างระยะแรกภายในปี 2573 จากนั้น จะเริ่มแผนระยะสองและระยะสุดท้ายในปี 2573-2578 ก่อนหน้านี้ นายยูริ บอริซอฟ ผู้อำนวยการรอสคอสมอส ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในเดือนกรกฎาคม เผยว่า รัสเซียจะถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติหลังปี 2567  แต่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ […]

เปียงยาง 15 ส.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย บอกกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือจะขยายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์ร่วมกัน สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายคิมเนื่องในวันประกาศอิสรภาพของเกาหลีเหนือ ซึ่งตรงกับวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี ว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกันมากยิ่งขึ้น และจะช่วยกันสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เคซีเอ็นเอยังระบุว่า นายคิมได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีปูตินเช่นกัน ข้อความในจดหมายระบุว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และยุทธวิธี การสนับสนุน และความสามัคคี ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียได้บรรลุถึงระดับใหม่ โดยที่ทั้งสองประเทศจะช่วยกันกำจัดภัยคุกคามและการยั่วยุจากกองกำลังทหารที่เป็นศัตรู อย่างไรก็ดี นายคิมไม่ได้ระบุว่ามีประเทศใดที่เป็นศัตรู แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้คำนี้เรียกสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศในเดือนกรกฎาคมรับรองสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ซึ่งประธานาธิบดีปูตินลงนามรับรองเอกราชเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ทางการเกาหลีเหนือยังเล็งที่จะส่งแรงงานเกาหลีเหนือไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยเรื่องการก่อสร้างและการใช้แรงงานอื่น ๆ อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย