ดินถล่ม

ไซโคลน”เฟนญาล” (Fengal) ที่พัดถล่มตอนใต้ของอินเดียทำให้ดินถล่มหลายแห่ง

จาการ์ตา 29 พ.ย.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียเร่งค้นหาผู้สูญหายจากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในจังหวัดสุมาตราเหนือ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 คน โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ติดอยู่ในรถมินิบัสที่ถูกฝังอยู่ใต้โคลน เจ้าหน้าที่กู้ภัยลุยกองดินโคลนมหาศาลและเศษซากต้นไม้ที่หักโค่น เพื่อค้นหาผู้โดยสารที่ติดอยู่ในรถมินิบัสที่ถูกฝังอยู่ในโคลนและเหยื่อรายอื่น ๆ หลังจากเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในจังหวัดสุมาตราเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 27 คน บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน โดยฝนตกหนักในสุมาตราเหนือตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มใน 4 เขต ถนนหลายสายได้รับความเสียหาย ไม่สามารถสัญจรได้เพราะกองดินโคลนและท่อนไม้ขนาดใหญ่กีดขวางอยู่ ฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองเมดาน เมืองเอกของจังหวัดสุมาตราเหนือด้วย ส่งผลให้การลงคะแนนเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในหน่วยเลือกตั้งบางแห่ง ต้องเลื่อนออกไป โดยปกติ ฤดูฝนในอินโดนีเซียระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคมของทุกปี จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโดนถล่มบ่อยครั้ง ซึ่งคาดว่า สภาพอากาศรุนแรงในอินโดนีเซียจะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้ทั่วประเทศจะมีฝนตกมากขึ้น.-815(814).-สำนักข่าวไทย

สุมาตราเหนือ 26 พ.ย. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มในจังหวัดสุมาตราเหนือ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน โฆษกสำนักงานภัยพิบัติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 11 คนจากเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุมาตราเหนือ และมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากน้ำท่วมฉับพลันในเขตเดลิ เซอร์ดัง สถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มเกิดขึ้นหลังจากมีฝนตกอย่างหนักเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยราว 100 คนพร้อมด้วยตำรวจและทหารเริ่มการค้นหาผู้ที่ยังสูญหายอยู่ 7 คนอีกครั้งในวันนี้ หลังจากต้องหยุดพักไปเนื่องจากเผชิญอุปสรรคจากฝนที่ยังตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย โดยได้นำเครื่องจักรกลหนักเข้ามาช่วยในการค้นหาผู้สูญหายด้วย และจะค้นหาไปจนถึงวันเสาร์สิ้นเดือนนี้ เหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มครั้งนี้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชน มัสยิด และนาข้าว นอกจากนี้ยังตัดขาดถนนซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านหลายแห่ง  สำนักงานภัยพิบัติได้ออกตำเตือนประชาชนในจังหวัดสุมาตราเหนือให้เตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมระลอกใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากจะมีฝนตกหนักตามมาอีกในช่วงสัปดาห์หน้า.-816(814).-สำนักข่าวไทย

กาฐมาณฑุ 2 ต.ค.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเนปาลเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่ประสบภัยจากน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เนปาลมีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วันเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา อันเป็นผลจากพายุในอ่าวเบงกอล เป็นฝนตกหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงกาฐมาณฑุที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยท่ามกลางความเสียหายอย่างหนักที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือนประชาชนและถนนหนทาง รัฐบาลเนปาลแจ้งเมื่อวานนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 224 คน รับบาดเจ็บ 158 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 24 คน โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 16 แห่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ลดลง มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลถูกตำหนิอย่างหนักที่รับมือล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดเหตุดินถล่มมีคนเสียชีวิต 30 กว่าคน และทำให้ยวดยานจำนวนมากติดค้างอยู่หลายชั่วโมง ทั้งที่จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียง 16 กิโลเมตรเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เนปาลสั่งปิดโรงเรียนเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากดินถล่มและน้ำท่วม ที่เป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักเป็นเวลา 2 วันทั่วประเทศ ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 129 รายและสูญหายอีก 62 ราย

จาการ์ตา 27 ก.ย.- เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน จากเหตุเหมืองทองคำเถื่อนพังถล่มในจังหวัดสุมาตราตะวันตก หลังจากเกิดดินถล่มเพราะฝนตกหนัก หัวหน้าสำนักงานภัยพิบัติจังหวัดสุมาตราตะวันตกเผยว่า เหมืองทองคำเถื่อนพังถล่ม หลังจากเกิดดินถล่มเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี อันเป็นผลจากฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงในการเดินลัดเลาะไปจนถึงจุดเกิดเหตุ เนื่องจากไม่มีถนนเข้าถึง ผู้ประสบเหตุเป็นชาวบ้านที่เข้าไปขุดหาทองคำอย่างผิดกฎหมาย คาดว่าช่วงเกิดเหตุมีคนอยู่ในเหมืองประมาณ 25 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 15 คน ได้รับบาดเจ็บ 3 คน และยังหาตัวไม่พบ 7 คน การทำเหมืองเถื่อนขนาดเล็กเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในอินโดนีเซียบ่อยครั้ง ทางการยากจะควบคุมได้ทั่วถึง เนื่องจากทรัพยากรที่เป็นแร่ธาตุมักอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและยากแก่การเข้าถึง.-814.สำนักข่าวไทย

โตเกียว 26 ก.ย. – ยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มเพราะฝนตกหนักในจังหวัดอิชิกาวะ ทางภาคกลางของญี่ปุ่น เพิ่มเป็น 11 คนแล้ว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุดเป็นชาย พบศพบริเวณชายฝั่งของเมืองวาจิมะเมื่อบ่ายวานนี้  หลังจากในช่วงเช้าวันเดียวกันพบศพสตรีคนหนึ่งใกล้แม่น้ำในเมืองเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมดินถล่มในจังหวัดอิชิกาวะเกิดจากฝนตกหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้แม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยที่เมืองวาจิมะมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 9 คน และที่เมืองซูซุอีก 2 คน ข้อมูลของจังหวัดอิชิกาวะระบุว่ายังมีผู้สูญหายอีก 2 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน และมีผู้ที่ยังติดต่อไม่ได้อีกจำนวนหนึ่ง.-816(814).-สำนักข่าวไทย