จับมายาชนดะ

กทม.22 ธ.ค.- ตำรวจ สน.ทองหล่อ นัด 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุคนขับเมายาไอซ์ขับรถฝ่าด่านไปชนรถคันอื่นเสียหายกว่า 40 คัน ใน 3 ท้องที่ คุยค่าเสียหาย เฉพาะ สน.ทองหล่อรถเสียหาย 31 คัน และมีการแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหาจากที่แจ้งไป 4 ข้อหา พันตำรวจเอกขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ได้นัด 4 ฝ่าย คือฝ่ายนายจ้างของนายเอกพจน์ ยศศิริ ผู้ต้องหาเมายาไอซ์ ขับฝ่าด่านชนกลางกรุง มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เสียหายกว่า 40 คัน เหตุเกิดช่วงเที่ยงวานนี้(20ธ.ค.) รวมถึงนัดฝ่ายประกันภัยคือ บริษัทสินมั่นคง และผู้เสียหาย มาหารือร่วมกับพนักงานสอบสวน เพื่อเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี ซึ่งในพื้นที่ สน.ทองหล่อ มีรถยนต์เสียหายมากที่สุด 31 คัน เป็นรถยนต์ 29 คัน,รถจักรยานยนต์ 2 คัน คู่กรณีเกือบทั้งหมด มาแจ้งความและให้ปากคำไว้เบื้องต้นแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทชัยภิวัฒน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนายจ้างของผู้ต้องหา ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นสาม ทุนประกัน 600,000 บาท ขณะที่มูลค่าความเสียหายของรถ 31 คันในพื้นที่ สน.ทองหล่อ รวมกว่า 2,000,000 บาท ส่วนต่าง 1,400,000 บาท จะเจรจากับนายจ้างผู้ต้องหา ให้ช่วยจ่ายชดเชยให้ฝ่ายคู่กรณี ที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าบริษัทประกัน อาจไม่จ่ายหากคนขับเมายาเสพติดนั้น พันตำรวจเอกขจรพงศ์ กล่าวว่า ประกันภัยคุ้มครอง ขอผู้เสียหายสบายใจได้ หากส่วนต่างกว่า 1,400,000 นายจ้างไม่จ่าย ผู้เสียหายสามารถดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหาย รายใดประสงค์ที่จะฟ้องแพ่งเรียกค่าตกใจหรือค่าทำขวัญจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พันตำรวจเอกขจรพงศ์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหายังถูกควบคุมอยู่ที่ สน.ทองหล่อ พรุ่งนี้(23 ธ.ค.) จะนำตัวไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และฝ่าฝืนสัญญาณมือเจ้าพนักงาน จากที่แจ้งไปแล้ว 4 ข้อหา คือ เสพยาเสพติด,มียาเสพติดไว้ในครอบครอง, ขับรถยนต์โดยประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหาย และขับรถหลบหนีโดยไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเจ้าพนักงาน นอกจากนี้กำลังพิจารณาตั้งข้อหา จำหน่ายยาไอซ์ โดยจะพิจารณาจากจำนวนที่ครอบครอง มีรายงานว่า ในพื้นที่ของ สน.มักกะสัน มีรถได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ 10 คัน และ สน.พญาไท 2 คัน และจากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหาเพิ่งทำงานกับบริษัทฯนี้ได้ 2 เดือน เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย