WHO

สธ.14 ต.ค.-องค์การอนามัยโลก ชื่นชมไทยเป็นแบบอย่างในการควบคุมโรคโควิด-19 ถอดบทเรียน องค์ความรู้ในการควบคุมโรคนี้ไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานทางระบาดวิทยาให้กับนานาประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย แถลงข่าวถอดบทเรียนร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ในการปฎิบัติงานด้านสาธารณสุขเพื่อตอบสนองตาอสถานการณ์โรคโควิด -19 ในประเทศไทย โดยองค์การอนามัยโลกชื่นชมประเทศไทยในด้านภาวะผู้นำที่เข้มแข็งในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด บนพื้นฐานข้อมูลและหลักฐานทางวิชาการรวมถึงการแก้ไขปัญหากระจายทรัพยากรให้ทุกคนเข้าถึงการบริหารจัดการผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วและการมีทีมสอบสวนโรคทุกพื้นที่กว่า 1,000 ทีม จึงทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ทั้งนี้ ยังได้ย้ำว่าบทเรียนการแก้ไขปัญหาโควิดของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยและสถานการณ์ในขณะนั้นสิ่งสำคัญที่ยังไม่ควรละเลยและประมาทไม่ได้ต้องปฏิบัติอย่างเสมอคือการสวมหน้ากากอนามัยมันล้างมือและมีเว้น ระยะห่างเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นพ.แดเนียล กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุขจะนำไปปรับใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเชิงระบาดวิทยาและเชื่อมโยงกับนานาประเทศเพื่อเป็นแบบอย่างขณะเดียวกันมีความสนใจที่จะต้องการรับข้อมูลจากกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นอินโดนีเซียซึ่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่แตกต่างกันและพบว่าแก้ไขปัญหาได้ดี.-สำนักข่าวไทย

กทม.21ส.ค.-กทม.เข้มมาตรการเฝ้าระวัง-ป้องกัน-ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่อง หลังองค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลคนหนุ่มสาว เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้เชื้อแพร่กระจาย พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.) เปิดเผยถึงกรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความกังวล คนหนุ่มสาววัย 20-40 ปี เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่กระจาย เนื่องจากหลายคนเป็นผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว เป็นอันตรายต่อประชากรกลุ่มเสี่ยง ว่า กทม.ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขต ตำรวจ ทหาร ร่วมจัดทีมผู้พิทักษ์ “ไทยชนะ” เข้าตรวจติดตามสถานประกอบการต่าง ๆ ให้เข้มงวดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงและสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง สำนักการแพทย์ กทม.ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล 4 เหล่าทัพ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ศึกษาแห่งประเทศไทย โดยประชุมหารือร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ส่วนการบริหารจัดการกรณีเกิดสถานการณ์แพร่ระบาด ปัจจุบันได้จัดเตียงพร้อมรองรับผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 2,471 เตียง รวมถึงเตรียมพร้อมห้อง ICU ความดันลบ ห้องแยกเดี่ยวความดันลบและหอผู้ป่วยสำหรับดูแลผู้ป่วย โรคโควิด-19 ด้วย ขณะเดียวกันได้บริหารจัดการด้านยา […]