วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : กัมพูชาปลุกเร้าชาตินิยมกลบเกลื่อนปมหนุนสแกมเมอร์?

กัมพูชา 16 มิ.ย. – ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะนี้มีสมมติฐานหนึ่งที่มาแรง คือความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นปัญหาภายใน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลกัมพูชาพัวพันกับอาชญากรรม ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก วันนี้.-สำนักข่าวไทย

ทางออก “ไทย-กัมพูชา” กรณียึดมาตราส่วนแผนที่คนละแบบ

16 มิ.ย. – การยึดมาตราส่วนแผนที่คนละแบบ ระหว่างไทยกับกัมพูชา คือ 1 : 50,000 และ 1 : 200,000 ซึ่งถูกกัมพูชานำมากล่าวอ้าง และมีการวิจารณ์ว่า อาจทำให้ไทยเสียพื้นที่ให้กัมพูชา วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตราส่วน แผนที่ทั้ง 2 แบบนี้กับ อาจารย์ ดร.ชวิศ ศรีมณี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ .-สำนักข่าวไทย

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

แนะรัฐบาลปรับการทำงานเข้มขึ้น แก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย. – “นพดล” แนะรัฐบาลปรับการทำงานให้เข้มขึ้น ควรดำเนินมาตรการเพิ่ม 4 เรื่องเพื่อแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาที่กำลังมีการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี ที่พนมเปญในขณะนี้และในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ กัมพูชาจะยื่นเรื่อง 3 ปราสาทและ 1 พื้นที่ไปศาลโลกนั้น ตนติดตามการทำงานของรัฐบาลมาสักพัก และขอเสนอให้เพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาและการสื่อสารข้อมูลกับประชาชน รวมทั้งการเตรียมการต่อสู้ทั้งทางกฎหมายและทางการเมืองระหว่างประเทศ ตั้งแต่เนิ่นๆ เพิ่มเติมจากที่ไทยได้ยืนยันจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของไทย และเน้นการเจรจาตามกรอบเอ็มโอยู 43 แบบทวิภาคีและการประกาศชัดเจนไปแล้วว่าไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกและจะไม่ไปศาลโลก นายนพดล กล่าวต่อว่า ในการดำเนินงานด้านต่างประเทศในสถานการณ์นี้ ตนเห็นว่าควรจะดำเนินการเพิ่มเติมใน 4 เรื่อง “ตนเห็นว่าทิศทางใหญ่ที่รัฐบาลยึดมั่นในการเจรจาสองฝ่ายตามกรอบเอ็มยู 43 และการยืนยันไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก เป็นทิศทางใหญ่ที่ชัดเจน แต่ขณะเดียวกันมันมีรายละเอียด และข้อมูลระหว่างทางที่รัฐบาลจะต้องปรับการทำงานให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนที่ทำงานเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป.-316-สำนักข่าวไทย

ย้ำรัฐบาลไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ตัดสินปัญหาเขตแดนไทย

พรรคเพื่อไทย 15 มิ.ย. – รองโฆษกเพื่อไทย ย้ำรัฐบาลไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ตัดสินปัญหาเขตแดนไทย ยืนยันกัมพูชาขึ้นคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความยินยอมจากไทย นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาว่า เราขอย้ำว่าแนวทางคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เป็นกลไกที่เราเลือกใช้เพื่อการเจรจาอย่างสันติ โดยมีหลักการเคารพในอธิปไตยซึ่งกันและกัน แต่ในการประชุมครั้งนี้ ยังไม่สามารถนำไปสู่ข้อยุติอย่างถาวรได้ แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของทั้ง 2 ฝ่ายในการใช้เวทีนี้ในการเจรตาแทนการใช้ความรุนแรง นายพายุ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้สนับสนุนการประชุม JBC ต่อไป เพราะปลอดภัยที่สุดในการแก้ไขปัญหาชายแดน และหวังว่า จะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ของสองประเทศให้กลับมาไปสู่สถานการณ์เดิมเหมือนในปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์มีเสถียรภาพ รัฐบาลไทยพยายามเตรียมการ ไว้ทุกด้านล่วงหน้า เพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคงทางพลังงาน ทางระบบเศรษฐกิจ จึงเป็นการบริหารที่รอบคอบ “ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลที่หนักแน่นต่อการยั่วยุ และยึดมั่นในการคลี่คลายความขัดแย้งอย่างสันติ ยึดมั่นในการแนวทางการเจรจาแบบทวิภาคี และ ย้ำว่าเราไม่ยอมรับการใช้เขตอำนาจศาลโลก มาตัดสินปัญหาเขตแดนของประเทศไทย ซึ่งต้องย้ำอีกครั้งว่ากระบวนการศาลระหว่างประเทศ จะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากประเทศไทย” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุ ส่วนที่กัมพูชายื่นต่อศาลโลกไปแล้วนั้น นายพายุ กล่าวว่าก็เป็นท่าทีที่เขาแสดงออกมาโดยตลอด ในส่วนของพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้พูดคุยกัน ถึงเรื่องนี้ในวันนี้ แต่ในรายละเอียด […]

ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดข้อเท็จจริงปมพิพาทชายแดน

กทม. 15 มิ.ย. – โฆษกไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดข้อเท็จจริงปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งชี้แจงทูตทุกประเทศ แสดงเหตุผลใช้แนวทาง JBC แก้ไขปัญหากับนานาชาติ ชี้หากปล่อยสถานการณ์เลยเถิด ไทยส่อเสียที่ยืนบนเวทีโลก นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนในระดับนานาชาติ แทนการแถลงข่าวหรือแถลงการณ์ ที่เน้นเพียงการสื่อสารในประเทศ เช่นที่เคยมีมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นคนละสถานการณ์และคนละบริบท พร้อมระบุว่าสถานการณ์มีแนวโน้ม จะบานปลายหากรัฐบาลยังขาดการวางแผนด้านการต่างประเทศอย่างมีระบบและกล้าแสดงท่าทีอย่างชัดเจน โฆษกพรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า แถลงการณ์ที่รัฐบาลควรจัดทำจะประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทับซ้อนในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเน้นย้ำในหลักการว่ากัมพูชา รุกล้ำอธิปไตยของไทยจำนวนกี่ครั้ง เข้ามาในพื้นที่ตรงจุดใดบ้าง ตลอดจนการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเหตุผลที่ประเทศไทยไม่สามารถนำกรณีนี้เข้าสู่กลไกของศาลโลกได้ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาคมระหว่างประเทศ ที่กัมพูชา พยายามดึงประชาคมโลกมากดดันไทย นายปริเยศ ยังได้ตั้งคำถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อประสานกับคณะทูตต่างประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ทั้งที่กองทัพได้ดำเนินการเชิญทูตจากกองทัพต่างชาติมาชี้แจงแล้ว ซึ่งแตกต่างกับการทำงานของฝ่ายการเมืองอย่างมาก อีกทั้งการแถลงการณ์แบบทางการยังไม่มีเนื้อหาสำคัญใดที่อธิบายถึงเหตุผลที่ไทยไม่เลือกใช้กลไกศาลโลกในกรณีนี้เลย โฆษกพรรคยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีควรเร่งประสานการหารือกับประเทศที่แสดงเจตจำนงเข้ามามีบทบาทในประเด็นนี้ ได้แก่ ประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ประเทศจีนที่มีแผนซ้อมรบร่วมกับกัมพูชาก่อนหน้านี้ รวมถึงฝรั่งเศสที่แสดงตัวพร้อมจะเป็นตัวกลางในการเจรจา ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงทิศทางและความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ และเป็นปัญหาของสองประเทศที่สามารถบริหารจัดการได้ในระดับทวิภาคี.-319-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ช่องบก-ตรวจหลุมหลบภัย

อุบลราชธานี 15 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ลงพื้นที่หมู่บ้านโดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ติดตามสถานการณ์ ให้กำลังใจชาวบ้าน และสำรวจหลุมหลบภัยให้พร้อมใช้งาน บรรยากาศเช้าวันนี้ ในพื้นที่ติดกับช่องบก หมู่บ้านโดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสำรวจหลุมหลบภัยเพื่อตรวจสภาพให้พร้อมใช้งานตลอดเวลารวมไปถึงให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า เดินทางมาในวันนี้เพื่อตรวจหลุมหลบภัยที่โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ และปรับพื้นที่ให้สามารถใช้งานได้จริง เช่น การปรับสภาพอุโมงค์ด้วยการปูหญ้าเทียม และเดินทางมาให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ รวมถึงพาภาคธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของอุบลราชธานีเดินทางมาดูพื้นที่ว่าเตรียมความพร้อมและพื้นที่ไม่ได้มีความน่ากลัวและยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่วันนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้อำเภอน้ำยืน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้เหตุการณ์ในพื้นที่ยังปกติ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการยื่นฟ้องต่อศาลโลกของกัมพูชา ในพื้นที่ข้อพิพาท โดย 1 ใน 4 ของพื้นที่ มีช่องบก แต่ชาวบ้านยังดำเนินชีวิตปกติ และบางส่วนให้ข้อมูลว่าจะรอติดตามสรุปผลการประชุม JBC ในช่วงเย็นวันนี้ด้วย.– 716– สำนักข่าวไทย

ประชุม JBC

นายกฯ ขอบคุณทีมเจรจา JBC มั่นใจจะหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ชาติ

14 มิ.ย. – นายกฯ ติดตามการประชุม JBC ให้กำลังใจผู้แทนไทยและทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง แนะยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าในการประชุมตลอดวันนี้ และได้รับรายงานความคืบหน้าประชุม JBC ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพที่กรุงพนมเปญ ฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย ร่วมหารือกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา   ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้เริ่มหารือกลุ่มเล็ก ก่อนประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นด้านเทคนิคที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC และคาดว่าจะมีการประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (อาทิตย์ที่ 15 มิ.ย.) ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า บรรยากาศในการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเชื่อว่าการพูดคุยกันจะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคตได้ กลไก JBC ที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาระหว่างกันได้อย่างดี […]

อุเทนถวาย เร่งผลิตบังเกอร์ส่งไปชายแดนไทย-กัมพูชา

13 มิ.ย. – อุเทนถวาย เร่งผลิตบังเกอร์และหลุมหลบภัยเคลื่อนที่มอบให้ทหาร-โรงเรียน และชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ขณะที่ชาวกัมพูชาฝั่งสระแก้ว ยังสนุกสนานกับละครไทย นายศุภชัย ลิ้มพิพัฒน์โสภณ นายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย สมัยที่ 25 นำคณะศิษย์เก่า มอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภค ให้พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ที่ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อนำไปกระจายให้ทหารและกำลังพลตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทั้งเร่งผลิต “บลูบังเกอร์” นวัตกรรมใหม่ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ผลิตเป็น “บลูบังเกอร์” โดยคำว่า “บลู” หมายถึงอุเทนถวาย ส่วน “บังเกอร์” จะเป็นวัสดุที่คล้ายท่อ HDPE มีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 16 มม. ถึง 1,600 มม. แต่เสริมใยเหล็กป้องกันอาวุธได้ น้ำหนักเบา แบกย้ายเคลื่อนที่ได้สะดวก คุณสมบัติสำคัญ […]

ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ

สระแก้ว 12 มิ.ย. – ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบด้วยกระสุนจริง พร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยกองกำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.ร.12) กองพันที่ 2 ได้ทำการจัดการฝึกยิงอาวุธประจำกายของกำลังพล ด้วยกระสุนจริง บริเวณพื้นที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อยกระดับความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายของแต่ละบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ และการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการเพิ่มทักษะและความแม่นยำในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประจำอยู่กับแต่ละกำลังพล หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีทุกเวลาเพื่อความสงบสุขของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

1 6 7 8 9 10
...