เก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนลำน้ำกระบุรี หาสารก่อมลพิษ

ระนอง 5 มิ.ย. – หลายหน่วยงานลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำ-ตะกอน ลำน้ำกระบุรี จุดที่น้ำจากคลองกระนัยไหลมารวมกับน้ำขุ่นข้นจากคลองยูง ประเทศเมียนมา เพื่อหาสารก่อมลพิษ ผลพวงจากการทำเหมืองแร่ในฝั่งจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ทำให้สภาพแม่น้ำกระบุรี มีสีแดงขุ่น สร้างความหวาดวิตกให้กับชาวบ้าน ล่าสุด หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง เข้าเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินในลำคลองกระนัยและแม่น้ำกระบุรี ต.ปากจั่น อ.กระบุรี ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากคลองกระนัยไหลมารวมกับน้ำขุ่นข้นจากคลองยูง ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่ นางสาวปริเมษ เจริญนพคุณ ผู้อำนวยการส่วนการจัดการคุณภาพน้ำ อากาศและเสียง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 (จ.ภูเก็ต) กล่าวว่า ได้เก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดิน 3 จุด คือ ในลำคลองกระนัย ซึ่งเป็นลำคลองย่อยในฝั่งไทยที่ไม่โดนผลกระทบน้ำแดงขุ่นจากเมียนมา ในลำน้ำกระบุรี ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากลำคลองกระนัยไหลมารวมกับลำคลองยูงจากเมียนมาเรียบร้อยแล้ว และในลำคลองยูงก่อนจะไหลลงมารวมกับลำคลองกระนัย หลังจากนั้นจะไปเก็บตัวอย่างน้ำประปาของตำบลแล้วส่งตัวอย่างทั้งหมดไปตรวจต่อไป โดยจะพยายามให้ได้ผลออกมาก่อนการประชุมร่วม TBC ระนอง-เกาะสอง เพื่อพูดคุยและหาทางแก้ไขปัญหา จากการสังเกตพบว่า น้ำในลำคลองดีขึ้นกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แหล่งข่าวระบุว่าหลังจากมีการนำเสนอข่าวความเดือดร้อนของประชาชนและตำรวจระนองได้อายัดแร่จากเมียนมาจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้เรือบรรทุกแร่จากเมียนมาไม่กล้ามาเทียบท่าและเหมืองแร่ในจังหวัดเกาะสอง ได้หยุดดำเนินการชั่วคราวไปราว 1 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

จากเหมืองแร่ในเมียนมาสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมระนอง

ระนอง 30 พ.ค. – การทำเหมืองแร่ในเมียนมา ตรงข้ามชายแดน จ.ระนอง กำลังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของลำน้ำกระบุรี และวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ฝั่งไทย ซึ่งนับวันผลกระทบมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น สวนทางกับการแก้ปัญหาที่ดูเหมือนยังไร้ทางออก.-สำนักข่าวไทย

ดินตะกอนเหมืองแร่ฝั่งเมียนมา ก่อมลพิษลำน้ำกระบุรี จ.ระนอง

ระนอง 29 พ.ค. – น้ำสีขุ่นข้นคล้ายโคลน นานกว่า 2 ปี ผลกระทบการปล่อยดินตะกอนจากการทำเหมืองแร่ฝั่งเมียนมา ลงสู่ลำน้ำกระบุรี จ.ระนอง กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ชาวชุมชน เพราะลำน้ำกระบุรี ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่สำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวชุมชนมายาวนาน ชาวบ้านร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือมานานกว่า 2 ปี แต่ไม่เป็นผล สภาพแม่น้ำกระบุรี ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา ทางฝั่ง จ.ระนอง อยู่ในสภาพสีแดงขุ่น ส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำของ อ.กระบุรี โดยนางนฤมล บุญช่วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ นำทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าสภาพสีน้ำที่เปลี่ยนไปจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เวลานี้เป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่ในฝั่งเมียนมา ที่มีการปล่อยตะกอนดินเลนลงสู่แม่น้ำกระบุรี โดยไม่มีการควบคุม ทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กระบุรี ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบต่อวิถีการใช้ชีวิต ภาคการเกษตร และภาคการท่องเที่ยว ที่สำคัญยังเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศริมชายฝั่ง โดยปัญหานี้ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงต่อเนื่อง และกังวลว่าระยะยาวลำน้ำกระบุรี อาจต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางน้ำไม่ต่างจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ที่กำลังเผชิญปัญหาจากการทำเหมืองแร่ทองคำ อยู่ในเวลานี้ วันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ทีมข่าวสำนักข่าวไทยจะเจาะลึกถึงประเด็นความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น […]

...