พบรังสีสูงผิดปกติที่สนามเพลาะรัสเซียขุดในเชอร์โนบิล
เชอร์โนบิล 10 เม.ย.- บริษัทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของทางการยูเครนเผยว่า ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีสูงผิดปกติในบริเวณที่กองกำลังรัสเซียขุดสนามเพลาะภายในเขตหวงห้ามของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่เกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ร้ายแรงที่สุดในโลกเมื่อปี 2529 นายเปโตร โคติน ผู้บริหารของเอเนอร์ฮัวตอม บริษัทบริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของทางการยูเครน เผยผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า ได้เดินทางพร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญไปยังพื้นที่บางส่วนในเรดฟอเรสต์ ซึ่งกินพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล และอยู่ภายในเขตหวงห้ามรัศมี 30 กิโลเมตร ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีสูงผิดปกติในบริเวณที่กองกำลังรัสเซียขุดสนามเพลาะและพยายามสร้างป้อมปราการ ตัวชี้วัดพบว่า กัมมันตภาพรังสีภายนอกร่างกายสูงกว่าปกติ 10-15 เท่า และมีความเป็นไปได้ว่ากัมมันตภาพรังสีภายในร่างกายที่ได้รับจากการสัมผัสดินปนเปื้อนอาจสูงกว่าปกติถึง 160 เท่า นายโคตินอธิบายเพิ่มเติมว่า หนึ่งในกัมมันตภาพรังสีภายในร่างกายคือ รังสีอัลฟาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แตกตัวกระจัดกระจายในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดในปี 2529 เศษเชื้อเพลิงเหล่านี้อยู่ลึกลงไปในดิน 40-80 เซนติเมตรในช่วงที่กลุ่มผู้ยึดครองขุดสนามเพลาะ และเมื่อเข้าไปในร่างกายจะส่งผลรุนแรงกว่ารังสีแกมมาและเบตา ดังนั้นกลุ่มยึดครองที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเกือบ 30 วัน จึงน่าจะได้รับรังสีในปริมาณที่ร้ายแรง ขณะเดียวกันเอเนอร์ฮัวตอมแถลงว่า กองกำลังรัสเซียที่ยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลได้ขโมยข้าวของและทำลายสำนักงานและห้องทดลองปฏิบัติการของสถาบันเพื่อความปลอดภัยนิวเคลียร์ด้วย.-สำนักข่าวไทย