เกาหลีใต้ร้อง “ไอเออีเอ” ปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้อง ไอเออีเอ ช่วยปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ ระหว่างพบปะกับ ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้อง ไอเออีเอ ช่วยปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ ระหว่างพบปะกับ ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
มอสโก 7 ก.ย. – รัสเซียขอให้สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนที่อยู่ในรายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครอง แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องการให้ไอเออีเออธิบายเกี่ยวกับประเด็นใด นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของทางการรัสเซียว่า รัฐบาลรัสเซียขอให้ไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ในรายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย เขาไม่ขอระบุว่าเป็นประเด็นใดบ้าง แต่ได้ยื่นคำร้องขอให้ชี้แจงรายละเอียดไปยังผู้อำนวยการของไอเออีเอแล้ว ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานอ้างคำพูดนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศรัสเซียที่กล่าวหาชาติตะวันตกว่ากดดันภารกิจตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของไอเออีเอ รัสเซียได้ให้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับที่มาของการระดมยิงโจมตีให้แก่ไอเออีเอ และรู้สึกข้องใจว่า ทำไมไอเออีเอจึงไม่ระบุในรายงานว่ายูเครนเป็นผู้ก่อเหตุยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย นางซาคาโรวายังอ้างว่า ยูเครนได้ก่อเหตุยิงโจมตีพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐและชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี ยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย และกล่าวหารัสเซียว่าเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์อันตรายไว้ในโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียระบุว่าไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ ไอเออีเอได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ระบุว่า การระดมยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาจทำให้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอย่างไร้ขีดจำกัด และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 7 ก.ย. – รายงานของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า การระดมยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียอาจทำให้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอย่างไร้ขีดจำกัด และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัย รายงานของไอเออีเอที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารระบุว่า เจ้าหน้าที่ชาวยูเครน 907 คนที่ทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียต้องเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างหนักขณะทำงานภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ควรมีสิทธิได้พบปะกับครอบครัวและทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ขณะที่การระดมยิงต่อเนื่องของรัสเซียกับยูเครนยังไม่ได้ถึงขั้นทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน แต่ก็ทำให้เป็นภัยต่อความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่หายนะด้านกัมมันตภาพรังสีอย่างมีนัยสำคัญ ไอเออีเอยังเรียกร้องให้มีการจัดทำข้อตกลงชั่วคราวโดยด่วนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการทางทหาร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเห็นพ้องในข้อตกลงที่กำหนดให้โรงไฟฟ้าซาปอริชเชียเป็นเขตปลอดภัยทางนิวเคลียร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งยังเตือนว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และการสู้รบในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นภัยต่อระบบป้องกันของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และเรียกร้องให้กองทัพรัสเซียเคลื่อนย้ายยานพาหนะทางทหารที่อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัยออกจากเขตโรงไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขารู้สึกพอใจกับรายงานดังกล่าวของไอเออีเอที่ระบุถึงประเด็นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย การกดดันเจ้าหน้าที่ชาวยูเครน และการยึดครองทางทหารของรัสเซียอย่างชัดเจน ทั้งยังระบุว่า เขาจะสนับสนุนเรื่องการกำหนดให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นพื้นที่ปลอดภัย ถ้าการทำเช่นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 5 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนระบุว่า รัฐบาลยูเครนกำลังรอรายงานจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เกี่ยวกับสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครอง ทั้งยังกล่าวว่า ภารกิจของไอเออีเอไม่มีประสิทธิภาพ นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ยูเครนไม่ทราบเลยว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ไอเออีเอเข้าไปตรวจสอบมีความปกติหรือไม่ ทั้งในด้านความปลอดภัย ระบบระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ สวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนในโรงไฟฟ้า และขั้นตอนการทำงาน เพราะยูเครนยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าภารกิจของไอเออีเอไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง นายโปโดเลียกยังกล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียควรเป็นการตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์และเทคโนโลยีวิศวกรรมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่ทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซีย ซึ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ไม่มีทางประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องแน่นอน ก่อนหน้านี้ นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการของไอเออีเอ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า ไอเออีเอได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้มากขึ้นหลังลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้า และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบยังคงอยู่ที่โรงไฟฟ้าต่อไป. -สำนักข่าวไทย
เคียฟ 4 ก.ย.- โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนและใหญ่ที่สุดของยุโรปถูกตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายมาจากภายนอกอีกครั้ง และเป็นกระแสไฟฟ้าจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้าย ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) แจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียถูกตัดกระแสไฟฟ้าจ่ายมาจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้าย ขณะนี้มีเตาปฏิกรณ์เดินเครื่องอยู่เพียงเครื่องเดียวจากทั้งหมด 6 เครื่อง โดยต้องผลิตไฟฟ้าเพื่อให้การเดินเครื่องที่โรงไฟฟ้าเป็นไปอย่างปลอดภัย และเพื่อการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนและภาคธุรกิจ คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี และมีบางคนยังคงอยู่ที่โรงไฟฟ้าเพื่อรอไอเออีเอออกรายงานในอีกไม่กี่วัน ด้านโรงไฟฟ้าแถลงว่า ปิดเตาปฏิกรณ์เครื่องที่ 5 เนื่องจากกองกำลังรัสเซียยังคงยิงถล่มโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และไฟฟ้าจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจ่ายให้แก่เตาปฏิกรณ์ 2 เครื่องพร้อมกัน รัสเซียยึดโรงไฟฟ้าแห่งนี้เมื่อต้นเดือนมีนาคมหลังจากเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยที่ยังให้บุคลากรชาวยูเครนดูแลการเดินเครื่อง และได้กลายเป็นจุดปะทะหลักของทั้งสองฝ่ายที่ต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่ายิงถล่มโรงไฟฟ้า สัปดาห์ที่แล้วโรงไฟฟ้าซาปอริชเชียถูกตัดออกจากระบบจ่ายไฟฟ้าระดับประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องครั้งแรกในปี 2528 ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วยูเครน เนื่องจากผลิตไฟฟ้าได้ถึงครึ่งหนึ่งของไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วประเทศ และผลิตไฟฟ้าได้กว่า 1 ใน 5 ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 2 ก.ย. – คณะผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ลงพื้นที่ครั้งแรกเพื่อตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครองแล้ว และจะยังคงปักหลักอยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวต่อไป นายราฟาเอล กรอสซี หัวหน้าไอเออีเอ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ความสมบูรณ์ด้านกายภาพของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียถูก “ละเมิดหลายครั้ง” ทั้งยังกล่าวในขณะที่เดินทางกลับถึงดินแดนที่ยูเครนยึดครองว่า คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอจะไม่เดินทางไปไหนทั้งนั้น และจะปักหลักอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเออยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวกี่คนและเป็นเวลานานเท่าใด ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอได้เดินทางไปถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียภายใต้การคุ้มกันของทหารรัสเซีย หลังเกิดเหตุโจมตีขึ้นจนทำให้การเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด โดยรัสเซียกับยูเครนต่างกล่าวโทษว่าต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า มีคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอราว 8-12 คนอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ขณะที่อีเนอร์โกอะตอม (Energoatom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของยูเครน ระบุว่า มีคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอ 5 คนอยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเพื่อประเมินสภาพของโรงไฟฟ้าและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนของโรงไฟฟ้าที่ตกอยู่ใต้การควบคุมของรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า เขาหวังว่าคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอจะสรุปผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม แต่รู้สึกเสียใจที่ไม่มีนักข่าวต่างประเทศร่วมเดินทางไปกับคณะผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย
คณะเจ้าหน้าที่ไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ มีกำหนดจะเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย (Zaporizhzhia) ทางใต้ของยูเครนในวันนี้
คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ ออกเดินทางจากกรุงเคียฟ ของยูเครแล้วในวันนี้เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย (Zaporizhzhia) เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
เตหะราน 29 ส.ค.- ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน เตือนในวันนี้ว่า อิหร่านจะไม่ฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับมหาอำนาจ หากคณะผู้ตรวจสอบนานาชาติยังไม่ยุติการตรวจสอบอนุภาคยูเรเนียมที่พบในโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ประธานาธิบดีไรซีเปิดแถลงข่าวเนื่องในวันดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่ชะงักงันไปตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้นถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงในปี 2561 หากไม่มีการแก้ไขประเด็นความปลอดภัยที่ทบวงการพลังงานปรมาณูสากลหรือไอเออีเอ (IAEA) ใช้เรียกกรณีพบอนุภาคของยูเรเนียมที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านและเรียกร้องให้อิหร่านชี้แจง ประธานาธิบดีอิหร่านยังได้ใช้โอกาสนี้กล่าวถึงอิสราเอลที่ต้องสงสัยว่าโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านหลายแห่ง และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์คนสำคัญของอิหร่านว่า หากอิสราเอลคิดจะทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ระบอบไซออนนิสต์ของอิสราเอลก็จะไม่เหลือซาก สหรัฐ ชาติตะวันตกและไอเออีเอระบุว่า อิหร่านดำเนินโครงการอาวุธนิวเคลียร์จนถึงปี 2546 ขณะที่อิหร่านยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่เคยคิดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เป็นภาคีสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านต้องชี้แจงเรื่องคณะผู้ตรวจสอบพบอนุภาคของยูเรเนียมที่โรงงานนิวเคลียร์ และให้การรับรองว่าไม่ได้นำยูเรเนียมไปใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ไอเออีเอตำหนิอิหร่านในเดือนมิถุนายนที่ไม่ชี้แจงเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย
เวียนนา 29 ส.ค. – นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ระบุว่าเขากำลังเดินทางไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียของยูเครนในสัปดาห์นี้ หลังโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตกอยู่ในสมรภูมิรบดุเดือด ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรอสซี ระบุผ่านทวิตเตอร์ในวันนี้ว่า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ทีมงานด้านการช่วยเหลือและสนับสนุนซาปอริชเชียของไอเออีเอ กำลังออกเดินทางไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และจะเดินทางถึงโรงไฟฟ้าดังกล่าวในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นายกรอสซียังได้โพสต์รูปภาพที่มีตัวเขาพร้อมทีมงานอีก 13 คนสวมหมวกแก๊ปและเสื้อกั๊กที่มีตราสัญลักษณ์ของไอเออีเอ ทั้งนี้ นายกรอสซีได้ออกมาเรียกร้องเป็นเวลานานหลายเดือนเพื่อขอเดินทางไปเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย พร้อมทั้งเตือนว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดหายนะทางนิวเคลียร์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 6 เครื่อง ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองเพียงไม่นานหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และตกเป็นสมรภูมิด่านรบแนวหน้าระหว่างรัสเซียกับยูเครนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังกล่าวโทษกันไปมาว่าแต่ละฝ่ายเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในพื้นที่รอบโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเอเนอร์โฮดาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นซาปอริชเชีย ก่อนหน้านี้ อีเนอร์โกอะตอม (energoatom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เผยเมื่อวันเสาร์ว่า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียมีความเสี่ยงที่จะเกิดรังสีรั่วไหลและไฟไหม้จากการโจมตี ขณะที่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกร้องให้ยุติกิจกรรมทางทหารในสมรภูมิรบที่อยู่รอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้. -สำนักข่าวไทย
เคียฟ 16 ส.ค.- ยูเครนเรียกร้องให้ประชาคมโลกประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ พร้อมกับย้ำเรื่องความเสี่ยงและหายนะที่จะเกิดขึ้นจากการที่มีการยิงครั้งใหม่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกร้องเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาให้ประชาคมโลกคว่ำบาตรอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของรัสเซียครั้งใหม่ เพราะหากการกระทำของรัสเซียก่อให้เกิดหายนะ ผลที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่ยังนิ่งเฉยอยู่จนถึงขณะนี้ หากประชาคมโลกไม่แสดงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็แสดงว่าโลกได้พ่ายแพ้แล้ว เจ้าหน้าที่ในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ แคว้นซาปอริชเชียของยูเครนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียเผยเมื่อวันจันทร์ว่า มีลูกปืนใหญ่จากปืนใหญ่วิถีโค้งเอ็ม 777 ที่ผลิตในสหรัฐยิงใส่พื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียและย่านที่อยู่อาศัยจำนวน 25 ลูกในช่วง 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียอ้างทางการเมืองเอเนอร์โอดาที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียว่า กองกำลังยูเครนได้ระดมยิงถล่มใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ ด้านทางการเขตนิโคโปลที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำของเมืองเอเนอร์โฮดาและยังอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนแย้งว่า กองกำลังรัสเซียเป็นฝ่ายยิงโดยพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นฝีมือของยูเครน โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเรื่องการทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียยังสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย รัสเซียพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้คณะผู้เชี่ยวชาญของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) สามารถเดินทางไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และประเมินอย่างเป็นจริงต่อการกระทำที่ก่อความเสียหายของฝั่งยูเครน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายควบคุมอาวุธและการแพร่กระจายนิวเคลียร์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียในเวลาต่อมาว่า เป็นการอันตรายเกินไปที่จะให้คณะของไอเออีเอเดินทางผ่านกรุงเคียฟเพื่อไปสำรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว เพราะต้องผ่านแนวหน้าที่กำลังมีการสู้รบ.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 14 สค.- ยูเครนประกาศว่า กำลังเล็งเล่นงานทหารรัสเซียที่ยิงใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียหรือใช้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นฐานในการยิง ด้านกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) เรียกร้องรัสเซียถอนกำลังพลออกจากโรงฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้ ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันว่า ก่อเหตุยิงที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวซึ่งอยู่ในเมืองซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และถูกทหารรัสเซียยึดได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม หลังจากเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยที่ยังให้บุคลากรยูเครนทำงานอยู่ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนบันทึกคลิปเมื่อคืนวันเสาร์ว่า ทหารรัสเซียทุกนายที่ยิงใส่หรือใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียเป็นที่กำบัง ขอให้รู้ไว้ว่าได้ตกเป็นเป้าหมายพิเศษของหน่วยข่าวกรอง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และกองทัพของยูเครนแล้ว พร้อมกับย้ำข้อกล่าวหาเรื่องรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เป็นเครื่องมือในการขู่กรรโชก ด้านนายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนทวีตผ่านทวิตเตอร์กล่าวหารัสเซียว่า ยิงถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในส่วนที่ผลิตไฟฟ้าป้อนพื้นที่ทางใต้ของยูเครน หวังตัดขาดยูเครนกับโรงไฟฟ้าแล้วโทษว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน กลุ่มจี 7 เรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังพลออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ หลังจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) ที่ต้องการเข้าไปตรวจสอบเตือนว่า หากไม่มีการหยุดยิงอาจเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์จากการที่บ่อเก็บเชื้อเพลิงใช้แล้วหรือเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหาย ด้านนายอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้กำหนดเขตปลอดทหารรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย.-สำนักข่าวไทย