ไอโอซีหนุนนักมวยแอลจีเรีย-ไต้หวัน

ปารีส 4 ส.ค. – โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี (IOC) แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า อิมาน เคลิฟ นักชกชาวแอลจีเรีย และหลิน ยู่-ถิง นักชกชาวไต้หวัน เป็นผู้หญิงที่มีสิทธิทุกกรณีในการแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 นายบาคเปิดแถลงข่าวว่า นักชกทั้ง 2 คน เป็นผู้หญิงที่มีสิทธิทุกกรณีในการแข่งขัน แม้ว่าถูกตั้งคำถามเรื่องเพศจนบดบังการแข่งขันกีฬาของพวกเธอ และว่าไอโอซีต้องการให้การชกมวยเป็นกีฬาในโอลิมปิกต่อไป เนื่องจากมีความสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ด้อยโอกาส แต่จำเป็นต้องตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาดูแล หลังจากไอโอซีริบสถานภาพของสมาคมมวยสากลนานาชาติ หรือไอบา (IBA) ในฐานะองค์กรดูแลการแข่งขันชกมวยในโอลิมปิกเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการบริหาร และไอโอซีได้เข้าดูแลการแข่งขันชกมวยโอลิมปิก ปารีส 2024 แทน คาลิฟ วัย 25 ปี และหลินวัย 28 ปี ได้รับสิทธิลงแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปารีสปีนี้ แม้ว่าถูกตัดสิทธิร่วมแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกหรือเวิลด์แชมเปียนชิปเมื่อปี 2566 เพราะไม่ผ่านกฏระเบียบของไอบาที่ห้ามนักกีฬาที่มีโครโมโซมเอ็กซ์วาย (XY) ซึ่งเป็นโครโมโซมเพศชาย แข่งขันในกีฬาประเภทหญิง ไอโอซีระบุว่า การที่ไอบาตัดสิทธิพวกเธอตามอำเภอใจเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ผู้มีชื่อเสียงหลายคนแสดงความไม่พอใจที่นักชกทั้ง 2 คนได้เข้าแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้.-810(814).-สำนักข่าวไทย

ผู้นำไต้หวันหนุนนักชกหญิงที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับเพศสภาพ

ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันและอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน แสดงท่าทีในวันนี้ให้การสนับสนุนนักชกหญิงของไต้หวัน หลิน ยู่-ถิง (Lin Yu-ting) ซึ่งเคยตกเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับเพศสภาพ

Made in Thailand แดนไทยเท่ : “ท้าวมหาพรหม” ต้นแบบไทยสู่ไต้หวัน

Made in Thailand แดนไทยเท่ จะพาไปชมเรื่องราวของ ท้าวมหาพรหมแยกราชประสงค์ ที่ไม่ได้รับความนิยมแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังดังไกลไปถึงไต้หวัน

จีนย้ำซัมมิตเอเชียตะวันออกต้องเดินในทางที่ถูกต้อง

เวียงจันทน์ 28 ก.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศจีนย้ำต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ สปป.ลาวเมื่อวันเสาร์ว่า ควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง และปกป้องความเป็นธรรมสากล สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นกรรมการในกรมการเมืองของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวปราศรัยต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส (EAS) ครั้งที่ 14 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ว่า สถานการณ์นานาชาติในขณะนี้เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและความโกลาหล ประเด็นร้อนทวีความร้อนแรงและยากที่จะแก้ไข อีเอเอสจึงควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง ส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความร่วมมือ ส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาคในระยะยาว และปกป้องความเป็นธรรมสากล นายหวังกล่าวว่า จีนขอเสนอ 4 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่นำโดยอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ไม่ปล่อยให้ประเทศนอกกลุ่มสร้างกลุ่มย่อยขึ้นมาสร้างความแตกแยก ประเด็นที่ 2 คือ การปฏิบัติตามระเบียบภูมิภาค ไม่ปล่อยให้มีประเทศใดใช้กฎเพื่อประโยชน์ของตนเองตามอำเภอใจ ประเด็นที่ 3 คือ การร่วมกันผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก เพราะการแยกและทำลายห่วงโซ่อุปทานและการตั้งกำแพงการค้ามีแต่จะทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคย่ำแย่ ประเด็นสุดท้าย คือ การรักษาสมดุลของความมั่นคงทางการเมืองกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รัฐมนรีต่างประเทศจีนถือโอกาสนี้ย้ำเรื่องไต้หวันว่า เป็นเรื่องภายในของจีนทั้งสิ้น กลุ่มภายนอกไม่มีสิทธิแทรกแซง ย้ำเรื่องจุดยืนที่จริงจังของจีนในทะเลจีนใต้ และจุดยืนของจีนที่จะส่งเสริมการหยุดยิงและการใช้วิถีทางการเมืองแก้ไขความขัดแย้งในกรณีปาเลสไตน์และวิกฤตยูเครน.-814.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันอพยพคนบนเรือที่เกยตื้นเพราะไต้ฝุ่น “แคมี”

ไทเป 28 ก.ค.- หน่วยตรวจการณ์ชายฝั่งของไต้หวันอพยพลูกเรือขึ้นจากเรือขนส่งสินค้า 2 ลำที่เกยชายฝั่งเพราะไต้ฝุ่นแคมี (Gaemi) ที่พัดขึ้นฝั่งไต้หวัน และยังคงค้นหาเรือติดธงชาติแทนซาเนียที่อับปาง ไต้ฝุ่นแคมีพัดผ่านไต้หวันเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม โดยมีความเร็วลมกระโชกสูงสุด 227 กิโลเมตร ทำให้เรือขนส่งสินค้าติดธงแทนซาเนียอับปางนอกชายฝั่งทางใต้ และมีเรือขนส่งสินค้าเกยตื้นอีก 8 ลำ รัฐมนตรีสภากิจการทางทะเลของไต้หวันที่ดูแลหน่วยตรวจการณ์ชายฝั่งเผยว่า ไม่เคยมีเรือสินค้าเกยตื้นเพราะไต้ฝุ่นจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัยต่อไป.-810(814).-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ปลื้ม “วีซ่าฟรี” นักท่องเที่ยวไต้หวัน-อินเดียทำสถิติสูงสุด

นายกฯ ปลื้มนโยบาย “วีซ่าฟรี” เห็นผลแล้ว หลังนักท่องเที่ยวไต้หวัน-อินเดีย ทำสถิติสูงสุด มีแนวโน้มจะสูงกว่าปี 2019 ขอภาคท่องเที่ยวเตรียมตัวให้พร้อม

ไต้ฝุ่น “แคมี” พัดขึ้นฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีน

ไต้ฝุ่น “แคมี” พัดขึ้นฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีนช่วงค่ำวานนี้ ขณะที่ชาวบ้านในกรุงมะนิลาของฟิลิปินส์ ช่วยกันพากันทำความสะอาดบ้านเรือนครั้งใหญ่ หลังเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วม

ไต้หวันน้ำท่วมหนักจากไต้ฝุ่น “แคมี”

ไต้ฝุ่น “แคมี” ที่พัดขึ้นฝั่งไต้หวันเมื่อคืนนี้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ กระทบการจราจรอย่างหนัก ทำให้เรือสินค้าอับปาง ส่วนที่ฟิลิปปินส์น้ำลดแล้ว แต่มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 10 คน

ไต้ฝุ่น “แคมี” ถล่มไต้หวัน

ไต้ฝุ่น “แคมี” พัดขึ้นชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันเมื่อคืนนี้ รุนแรงสุดในรอบ 8 ปี ส่งผลกระทบอย่างหนัก ก่อนจะเคลื่อนขึ้นฝั่งจีนในวันนี้

ไต้ฝุ่น “แคมี” ทวีความแรงขณะเคลื่อนใกล้ไต้หวัน

อี๋หลาน 24 ก.ค.- ไต้ฝุ่นแคมี (Gaemi) ทวีกำลังแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวใกล้ไต้หวัน คาดว่าจะขึ้นฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันในเย็นวันนี้ และจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 8 ปี เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาไต้หวันยกสถานะไต้ฝุ่นแคมีเป็นไต้ฝุ่นรุนแรง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นายกรัฐมนตรีจั๋ว หรงไท่ กล่าวในการประชุมศูนย์รับมือเหตุฉุกเฉินในวันนี้ว่า ช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง ทั้งนี้คาดว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้ไต้หวันมีฝนตกหนักมากถึง 1,800 มิลลิเมตรในพื้นที่เทือกเขาทางตอนกลางและตอนใต้ กระทรวงกลาโหมส่งทหาร 29,000 นายเตรียมพร้อมบรรเทาภัยพิบัติ รัฐบาลไต้หวันอพยพประชาชนมากกว่า 2,000 คนออกจากพื้นที่เทือกเขาที่มีคนอาศัยอยู่เบาบาง เนื่องจากเสี่ยงเกิดดินโคลนถล่มจากฝนตกหนักมาก กระทรวงคมนาคมแจ้งยกเลิกเที่ยวบินในประเทศเกือบทั้งหมด และยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ 201 เที่ยว ขณะที่บริการเดินรถไฟทั้งหมดจะงดตั้งแต่เที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ยกเว้นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมเหนือจรดใต้จะให้บริการอย่างจำกัด เทศมณฑลอี๋หลานที่คาดว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งเป็นแห่งแรก ถนนหนทางและร้านรวงเงียบเหงาเพราะผู้คนพากันหลบภัย ท่ามกลางกระแสลมแรงและฝนที่ตกหนักขึ้น.-814.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันเตรียมรับมือพายุ “แคมี”

ไต้หวันเตรียมความพร้อมในวันนี้ ก่อนที่พายุไต้ฝุ่น “แคมี” (Gaemi) จะพัดขึ้นฝั่ง โดยตลาดการเงินปิดทำการ รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุด เที่ยวบินถูกยกเลิกและกองทัพสั่งการให้ทหารเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ หลังจากมีการคาดหมายว่า พายุลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักและลมพัดแรง

“ทรัมป์” ชี้ไต้หวันควรจ่ายค่าคุ้มครองให้สหรัฐ

นิวยอร์ก 17 ก.ค.- โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังหาเสียงเพื่อเป็นผู้นำอีกสมัยแสดงความเห็นว่า ไต้หวันควรจ่ายค่าคุ้มครองให้แก่สหรัฐ เนื่องจากไต้หวันไม่ได้ให้สิ่งใดตอบแทนสหรัฐเลย นิตยสารบลูมเบิร์ก บิสซิเนสวีคได้สัมภาษณ์ทรัมป์เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนและนำบทสัมภาษณ์มาเผยแพร่เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้จักคนไต้หวันเป็นอย่างดี และให้เกียรติคนไต้หวันอย่างมาก เขาคิดว่า ในเมื่อไต้หวันแย่งธุรกิจชิปของสหรัฐไปหมด ไต้หวันก็ควรจ่ายค่าคุ้มครองให้แก่สหรัฐ เพราะว่าไปแล้วสหรัฐก็ไม่ต่างจากบริษัทประกันภัย แต่ไต้หวันไม่ได้จ่ายสิ่งใดให้แก่สหรัฐเลย สหรัฐเป็นผู้สนับสนุนบนเวทีโลกรายสำคัญและผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ให้แก่ไต้หวัน เพราะมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องทำให้ไต้หวันมีหนทางปกป้องตนเอง แต่ไม่มีข้อตกลงด้านกลาโหมอย่างเป็นทางการระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีจั๋ว หรงไท่ ของไต้หวันตอบข้อถามสื่อเรื่องบทสัมภาษณ์ของทรัมป์ว่า ไต้หวันและสหรัฐมีความสัมพันธ์อันดี แม้ว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ และว่าไต้หวันได้เดินหน้าเสริมสร้างงบประมาณด้านกลาโหมให้แข็งแกร่ง และแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก โดยเต็มใจที่จะแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปกป้องตนเองและรับประกันด้านความปลอดภัยให้แก่ตนเอง.-814.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6 92
...