อิหร่าน

เตหะราน 5 ต.ค. – เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.7 ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านในวันนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 276 คน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.7 ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเมืองโควีในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันตกของอิหร่าน ราว 11.6 กิโลเมตร และมีระดับความลึก 10 กิโลเมตร ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานอ้างเจ้าหน้าที่การแพทย์ท้องถิ่นที่ระบุว่า ขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างน้อย 276 คน ในจำนวนนี้ มี 68 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการกระดูกหักเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยธรณีศาสตร์ของเยอรมนี (GFZ) รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.5 บริเวณพรมแดนอาร์เมเนีย อาร์เซอร์ไบจาน และอิหร่าน. -สำนักข่าวไทย

เตหะราน 28 ก.ย. – อิหร่าน ฮิวแมน ไรต์ส หรือไอเอชอาร์ องค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่านที่มีสำนักงานในนอร์เวย์ ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ชุมนุมอย่างน้อย 76 คนจากเหตุชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 11 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุหญิงไม่สวมฮิญาบเสียชีวิตขณะถูกตำรวจอิหร่านควบคุมตัว ไอเอชอาร์ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ประท้วงอย่างน้อย 76 คน พร้อมกล่าวหาเจ้าหน้าที่อิหร่านว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุและใช้กระสุนจริงปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงจับกุมประชาชนหลายร้อยคน ในจำนวนนี้ มีนักข่าว 20 คนรวมอยู่ด้วย ขณะที่สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เหตุประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงอิหร่านหลายนาย พร้อมทั้งกล่าวโทษผู้ชุมนุมว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผู้อำนวยการของไอเอชอาร์ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเสี่ยงต่อการถูกทรมานและควบคุมตัวอย่างโหดร้ายทารุณ การยิงกระสุนจริงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมถือเป็นการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยกันปกป้องสิทธิของประชาชนอิหร่าน ขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างมากจากการที่อิหร่านใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม และเรียกร้องให้อิหร่านเคารพสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสันติ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ เหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านได้ขยายวงกว้างไปกว่า 80 เมืองและชุมชนทั่วประเทศนับตั้งแต่มีการจัดงานศพของมาห์ซา อามินี เมื่อวันที่ 17 กันยายน ก่อนหน้านี้ มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน […]

นิวยอร์ก 23 ก.ย. – คริสเตียน แอแมนพัวร์ นักข่าวชาวอังกฤษเชื้อสายอิหร่านและหัวหน้าผู้ดำเนินรายการข่าวต่างประเทศของซีเอ็นเอ็น เผยว่า ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน ได้ยกเลิกนัดสัมภาษณ์ส่วนตัวกับเธอกะทันหัน หลังจากที่เธอปฏิเสธคำขอของประธานาธิบดีอิหร่านที่ต้องการให้เธอสวมฮิญาบขณะสัมภาษณ์ แอแมนพัวร์เผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐว่า เธอได้เตรียมพร้อมที่จะสัมภาษณ์ประธานาธิบดีไรซีเมื่อวันพุธ ซึ่งจัดขึ้นนอกเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แต่ผู้ช่วยของประธานาธิบดีอิหร่านได้แจ้งให้เธอสวมฮิญาบขณะสัมภาษณ์ เนื่องจากรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ประท้วงในอิหร่าน อย่างไรก็ดี เธอได้ปฏิเสธการสวมฮิญาบโดยสุภาพ เนื่องจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวจัดขึ้นในนครนิวยอร์กของสหรัฐ ซึ่งไม่มีกฎหมายหรือขนบธรรมเนียมที่กำหนดให้สตรีต้องสวมฮิญาบ แอแมนพัวร์ยังเผยว่า ไม่เคยมีประธานาธิบดีอิหร่านคนใดขอให้เธอสวมฮิญาบในขณะที่ให้สัมภาษณ์กับเธอนอกอิหร่านมาก่อน เธอจึงไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดที่คาดไม่ถึงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ แอแมนพัวร์ยังได้โพสต์ภาพในทวิตเตอร์ที่แสดงให้เห็นตัวเธอที่ไม่สวมฮิญาบกำลังนั่งอยู่กับเก้าอี้ว่างอีกตัว ซึ่งเป็นเก้าอี้ของประธานาธิบดีไรซี ขณะนี้ อิหร่านกำลังเกิดเหตุประท้วงเป็นวงกว้างที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบสัปดาห์นับตั้งแต่ มาชา อามีนี หญิงอิหร่าน วัย 22 ปี เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังถูกตำรวจศีลธรรมอิหร่านควบคุมตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนในความผิดฐานไม่สวมฮิญาบที่เป็นการละเมิดกฎการแต่งกายตามหลักศาสนา.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 15 ก.ย. – อิหร่านได้ลงนามในบันทึกพันธกรณีเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือเอสซีโอ ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านกำลังหาทางแก้ปัญหาถูกทำให้โดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ นายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวในวันนี้ว่า อิหร่านได้ลงนามในบันทึกพันธกรณีเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรของเอสซีโอ ซึ่งจะทำให้อิหร่านก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การขนส่ง และพลังงานที่หลากหลาย ขณะที่สื่อท้องถิ่นของอิหร่านรายงานว่า ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน กำลังเดินทางเยือนเมืองซามาร์กันด์ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหมของอุซเบกิสถานในวันนี้เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของเอสซีโอ และคาดว่าประธานาธิบดีไรซีจะได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ส่วนรองเลขาธิการของเอสซีโอกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียที่รายงานเรื่องการลงนามในบันทึกดังกล่าวด้วยว่า อิหร่านจะสามารถเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของเอสซีโอได้ แม้อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งเพื่อให้ได้รับสถานะสมาชิกถาวร เอสซีโอเป็นองค์การความร่วมมือที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2544 ประกอบด้วยรัสเซีย จีน และ 4 สาธารณรัฐในเอเชียกลาง ได้แก่ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน คีร์กิซสถาน และทาจิกิสถาน โดยมีอินเดียและปากีสถานเข้าร่วมในปี 2560 และมีอุดมการณ์เพื่อคานอำนาจของชาติตะวันตกในภูมิภาคดังกล่าว ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอิหร่านได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ปี 2561 หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ซึ่งรวมถึงรัสเซียกับจีน. […]