หาดทรายน้อย

ประจวบคีรีขันธ์ 1 พ.ค.- พ่อเมืองประจวบฯ ห่วงประชาชนวิตกข่าวนักท่องเที่ยวถูกฉลามกัดอีกที่หัวหิน กำชับ จนท.เร่งหาข้อเท็จจริง ด้าน ผอ.อนุรักษ์ชายฝั่งทะเลฯ เผยแพทย์อนามัยยืนยันบาดแผลไม่ใช่จากฉลาม  นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาดทรายน้อย อ.หัวหิน เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกรายถูกสัตว์ทะเลกัด จากก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวถูกกัดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกและป้องกันผลกระทบด้านท่องเที่ยว จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อมูลให้ชัดเจน และดูแลความปลอดภัย นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยเขาเต่ายืนยันหลักฐานจากบันทึกการตรวจผู้ป่วย เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวหญิงต่างชาติ อายุ 60 ปี เข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่เท้าขวาเป็นแผลยาว 1 เซนติเมตร ลึก 0.5 ซม. ซึ่งแพทย์ได้เย็บบาดแผล 1 เข็ม พร้อมยาแก้อักเสบ และยืนยันว่าไม่ใช่บาดแผลจากฉลามกัด เมื่อมีข่าวออกไปโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่ามีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บอีกรายถูกฉลามกัด และขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังตามหาไม่พบนักท่องเที่ยวรายนี้.-สำนักข่าวไทย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับทหาร และชาวประมงพื้นบ้าน วางทุ่นไข่ปลา ในทะเลบริเวณหาดทรายน้อย ห่างจากฝั่ง 60 เมตร ก่อนวางทุ่นตาข่ายป้องกันฉลาม ต้นเดือนหน้า

ประจวบคีรีขันธ์ 21 เม.ย.-ประจวบฯเตรียมทดลองวางทุ่นไข่ปลาป้องกันฉลามกัดนักท่องเที่ยวบริเวณหาดทรายน้อย ก่อนหาข้อสรุปรูปแบบการวางทุ่นตาข่ายตามโมเดลของออสเตรเลีย นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากปิดการลงเล่นน้ำทะเลที่หาดทรายน้อย ใกล้วัดถ้ำเขาเต่า อ.หัวหิน จนกว่าจะได้ข้อสรุปการวางทุ่นตาข่ายความยาว 350 เมตรป้องกันฉลามกัดนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเล ว่า ล่าสุดบริเวณชายฝั่งทะเลมีนักท่องเที่ยวพบทั้งฉลามหัวบาตรและฉลามหูดำ ซึ่งเป็นสัตว์น้ำหายากที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน ถือเป็นการบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่ง เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีข้อห้ามในการทำประมง เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญ  “ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประสานงานกับทีมนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสำรวจจำนวนและศึกษาการหากินของฉลามให้ชัดเจน สำหรับหน่วยงานระดับจังหวัดจะทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เพื่อดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนการป้องกันอันตรายต่อคน ก็จะต้องดำเนินการตามหลักวิชาการที่เหมาะสม มีความยั่งยืน การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่า”นายพัลลภ กล่าว ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ( ทช.) กล่าวว่า ได้ร่วมกับทุกฝ่ายหามาตรการป้องกันจากการวางทุ่น โดยได้ใช้โมเดลของประเทศออสเตรเลียเตรียมการไว้แล้ว แต่การวางทุ่นต้องเป็นไปตามความพึงพอใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก สำหรับสิ่งที่น่าเป็นกังวลมากกว่าฉลามคือ แมงกะพรุนมีพิษ ที่พบค่อนข้างมากในพื้นที่หาดทรายน้อย ทั้งนี้ ในระหว่างรอการประชุมผลสรุปรูปแบบการวางทุ่นป้องกันฉลามบริเวณหาดทรายน้อยในวันที่ 23 เมษายนนี้ ล่าสุดมีการเตรียมทุ่นไข่ปลาทดลองวางป้องกัน เพื่อประเมินว่าจะสามารถป้องกันสัตว์นํ้าขนาดใหญ่และแมงกะพรุนได้หรือไม่ โดยใช้ตาข่ายขนาด 2.5 นิ้ว ระยะทางยาวราว 350 เมตร.-สำนักข่าวไทย

ผู้เชี่ยวชาญคาดสัตว์ที่กัดนักท่องเที่ยวที่หาดทรายน้อย เขาเต่า อ.หัวหิน เป็นฉลามหัวบาตร ด้าน ทช.เตรียมสำรวจ พร้อมหาแนวทางผลักดันและสร้างตาข่ายกันตลอดแนวชายหาด

ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่หาดทรายน้อย หลังโลกโซเชียลแชร์ภาพนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บขณะเล่นน้ำทะเล และมีการระบุว่าถูกฉลามกัด เบื้องต้นยังไม่ยืนยันสาเหตุได้รับบาดเจ็บ