เศรษฐกิจอังกฤษรอดจากถดถอยอย่างเฉียดฉิว

ลอนดอน 10 ก.พ.- ข้อมูลของทางการอังกฤษระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษรอดพ้นจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเฉียดฉิว หลังจากเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ไม่หดตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน คำนิยามทางเทคนิคของภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึงเศรษฐกิจที่หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษแถลงวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ไตรมาส 4 ของปี 2565 ขยายตัวที่ร้อยละ 0 สอดคล้องกับที่ตลาดคาดหมาย หลังจากหดตัวร้อยละ 0.3 ในไตรมาส 3 ของปีเดียวกัน ขณะที่เศรษฐกิจปี 2565 ทั้งปีขยายตัวร้อยละ 4.1 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ยังคงขยายตัวน้อยกว่าปี 2564 ทั้งปีที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษยินดีต่อรายงานข่าวเรื่องเศรษฐกิจอังกฤษรอดพ้นจากภาวะถดถอย แต่เตือนว่าเศรษฐกิจยังไม่พ้นจากวิกฤต โดยเฉพาะเรื่องอัตราเงินเฟ้อสูงที่ทำให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพและการเคลื่อนไหวของคนทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ อย่างไรก็ดี เขามองว่าเศรษฐกิจอังกฤษมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่หลายฝ่ายกังวล.-สำนักข่าวไทย

เศรษฐกิจเกาหลีใต้หดตัวครั้งแรกนับจากต้นปี 2563

โซล 26 ม.ค.- เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 4 ของปี 2565 หดตัวเป็นครั้งแรกนับจากไตรมาส 2 ของปี 2563 เนื่องจากยอดการส่งออกลดลง อันเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายหลังจากที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 หดตัวร้อยละ 0.4 จากไตรมาสก่อนของปีเดียวกัน การบริโภคภาคเอกชนลดลงร้อยละ 0.4 เนื่องจากการบริโภคสินค้าและบริการลดลง ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และความบันเทิง ยอดการส่งออกลดลงร้อยละ 5.8 ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และสารเคมี ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลงร้อยละ 4.6 ส่วนใหญ่เป็นโลหะพื้นฐานและน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ยังคงขยายตัวร้อยละ 1.4 เทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และเศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวร้อยละ 2.6 เทียบกับปี 2564 ส่วนปี 2566 ธนาคารกลางคาดว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 1.7 และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 ธนาคารกลางเกาหลีใต้แจ้งตัวเลขดังกล่าวหลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเป็นครั้งที่ 10 […]

เศรษฐกิจไต้หวันหดตัวมากที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลก

ไทเป 18 ม.ค.- ไต้หวันแจ้งว่า เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหดตัวรายไตรมาสมากที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 สำนักงานงบประมาณ การบัญชีและสถิติของไต้หวันเปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ลดลงร้อยละ 0.86 จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เป็นการลดลงครั้งแรกนับจากไตรมาสปี 2559 และหดตัวรายไตรมาสมากที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 อีกทั้งยังย่ำแย่กว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ในเดือนพฤศจิกายนว่า จีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.52 สำนักงานฯ ระบุว่า แรงกดดันจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั้งสองอย่างยังคงกดดันความต้องการบริโภคทั่วโลก นอกจากนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ระบาดมากขึ้นในจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน  ยังกระทบต่อการบริโภคและการผลิตด้วย ยอดส่งออกของไต้หวันในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ลดลงถึงร้อยละ 8.63 จากไตรมาสเดียวกันปี 2564 เฉพาะการส่งออกไปจีนและฮ่องกงลดลงมากถึงร้อยละ 15.6 ส่วนจีดีพีปี 2565 ทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.43 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.06.-สำนักข่าวไทย

ประชากรจีนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี

ประชากรจีนเมื่อปีที่แล้วหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี ในขณะที่จีน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านประชากร

ภาคการผลิตจีนลดลงมากที่สุดนับจากต้นปี 2563

ปักกิ่ง 31 ธ.ค.- ภาคการผลิตจีนในเดือนธันวาคมปีนี้หดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และลดลงมากที่สุดนับจากต้นปี 2563 เพราะผลกระทบจากการที่มีผู้ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาก หลังจากทางการจีนผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดอย่างกะทันหัน สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 47.0 ลดลงจาก 48.0 ในเดือนพฤศจิกายน และ 49.2 ในเดือนตุลาคม ถือว่าหดตัว 3 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากดัชนีที่ต่ำกว่า 50.0 ถือว่าหดตัว และเป็นการหดตัวมากที่สุดนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่โควิดเริ่มต้นระบาด นอกจากนี้ดัชนีย่อยอื่น ๆ เช่น ดัชนีธุรกิจขนาดใหญ่ ดัชนีการผลิตและความต้องการในตลาดการผลิตก็ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนเช่นเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ผลการสำรวจบริษัทบางแห่งพบว่า กำลังคนด้านโลจิติกส์และขนส่งมีไม่เพียงพอ และระยะเวลาการขนส่งก็ล่าช้าออกไปเพราะคนทำงานติดโควิดเพิ่มขึ้น ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคที่ไม่ใช่การผลิตในเดือนธันวาคมก็ลดลงเหลือ 41.6 จาก 46.7 ในเดือนพฤศจิกายน นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตไม่ถึงร้อยละ 5.5 ตามเป้าหมายที่จีนวางไว้ และได้ปรับลดประมาณการการเติบโตลงไปอยู่ที่ร้อยละ 3.-สำนักข่าวไทย

เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวครั้งแรกในปีนี้

โตเกียว 15 พ.ย.- เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 3 ของปีนี้หดตัวเป็นครั้งแรกของปี อันเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอย เงินเยนอ่อนค่า และสินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้นกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมของภาคธุรกิจ ข้อมูลทางการญี่ปุ่นระบุว่า ไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายนปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ลดลงร้อยละ 1.2 ต่อปี และลดลงร้อยละ 0.3 ต่อไตรมาส สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.1 ต่อปี และขยายตัวร้อยละ 0.3 ต่อไตรมาส เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 3 หดตัวเป็นครั้งแรกของปีนี้ หลังจากขยายตัวมา 3 ไตรมาสติดต่อกัน นอกเหนือจากแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโตและเรื่องภาวะเงินเฟ้อสูงแล้ว ญี่ปุ่นยังเผชิญความท้าทายจากเงินเยนที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 32 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเพราะสินค้านำเข้าทุกอย่างตั้งแต่เชื้อเพลิงไปจนถึงอาหารมีราคาแพงขึ้น เดือนที่แล้วนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.3 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

รัสเซียคาดเศรษฐกิจจะกลับมาโตเร็วกว่าที่คาด

รัสเซียคาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวต่อไตรมาสได้อย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้ และจะหดตัวต่อปีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ประชากรฮ่องกงลดลงเป็นปีที่ 2 เพราะมาตรการคุมโควิด

รัฐบาลฮ่องกงกล่าวว่า ประชากรในฮ่องกงหดตัวลงเป็นปีที่ 2 เนื่องจากมาตการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้ามาของแรงงานใหม่และอัตราการเกิดลดลง แต่รัฐบาลไม่ได้กล่าวถึงการที่ประชาชนพากันอพยพออกไปหลังจากมีการใช้กำลังกวาดล้างกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย

เศรษฐกิจจีนหดตัวในไตรมาส 2 ระหว่างล็อกดาวน์คุมโควิด

เศรษฐกิจจีนเกิดการหดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก หลังจากที่นครเซี่ยงไฮ้และเมืองอื่น ๆ ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แต่รัฐบาลกล่าวว่า ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพหลังจากธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดตามปกติอีกครั้ง

โควิดฉุดส่งออกอาหารปี 63 หดตัวร้อยละ 4.1

3 องค์กรด้านอุตฯอาหารเผยปี 63 การส่งออกสินค้าอาหารของไทยมีมูลค่า 980,703 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 4.1 จากผลกระทบโควิด-19 ค่าเงินแข็ง ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ย้ำปี 64 ปัจจัยเดิมเป็นตัวสำคัญแต่ยังเชื่อว่ามีโอกาสโตได้ร้อยละ 7.1 หรือมีมูลค่าส่งออก 1.05 ล้านล้านบาท

เศรษฐกิจสิงคโปร์ทรุดหนักที่สุดเพราะโควิด

เศรษฐกิจของสิงคโปร์ประสบภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวอย่างหนัก

1 2 3 4 5
...