รัสเซีย

มาคัชคาลา 26 มิ.ย.- สาธารณรัฐดาเกสถานของรัสเซียเฝ้าระวังระดับสูงเป็นการชั่วคราวเมื่อเย็นวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังจากมีรายงานเรื่องชายมีอาวุธในเมืองมาคัชคาลา ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เมืองที่เกิดเหตุคนร้ายสังหารคนรวมกัน 20 คนเมื่อวันอาทิตย์ สำนักข่าวอาร์ไอเอ (RIA) ของทางการรัสเซียรายงานว่า ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจบนถนนหลายสาย และขอให้ประชาชนออกไปจากพื้นที่ หลังจากมีรายงานเรื่องชายมีอาวุธเดินอยู่ที่จัตุรัสแห่งหนึ่งของเมือง ต่อมาโฆษกกระทรวงมหาดไทยของดาเกสถานแถลงยืนยันว่า สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่มีการยืนยันข่าวเรื่องชายดังกล่าว อย่างไรก็ดี สื่อหลายแห่งรายงานว่า ตำรวจยังคงตั้งด่านตรวจยวดยานที่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์เกิดเหตุร้ายขึ้นพร้อมกันที่โบสถ์คริสต์และโบสถ์ยิวในสาธารณรัฐนี้ ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม กลุ่มคนร้ายสังหารคนรวมกัน 20 คนในเมืองมาคัชคาลาและเมืองเดอร์เบียนต์ ที่เป็น 2 เมืองสำคัญที่สุดของดาเกสถาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยตำรวจ 15 นาย พลเรือน 4 คน และบาทหลวงคริสต์ออร์โธด็อกซ์ 1 คน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของดาเกสถานแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บรวม 46 คน.-814.-สำนักข่าวไทย 

มอสโก 25 มิ.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า แผนสันติภาพยูเครนใด ๆ ก็ตามที่เสนอโดยรัฐบาลสหรัฐในอนาคตที่อาจจะนำโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องสะท้อนถึงความเป็นจริงของสถานการณ์ และว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยังคงพร้อมเจรจา โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีให้ความเห็นกรณีรอยเตอร์รายงานในวันนี้ว่า ที่ปรึกษาคนสำคัญ 2 คนของทรัมป์ได้นำเสนอแผนยุติสงครามยูเครนให้แก่ทรัมป์ เพื่อให้ทรัมป์ดำเนินการหากชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้ เนื้อหาในแผนจะแจ้งกับยูเครนว่า ยูเครนจะได้รับอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม ต่อเมื่อยูเครนยอมเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพเท่านั้น โฆษกรัสเซียกล่าวว่า แผนใด ๆ ก็ตามจะต้องผ่านการกลั่นกรองแล้ว และคำนึงถึงความเป็นจริงของสถานการณ์ ประธานาธิบดีปูตินย้ำอยู่เสมอว่า รัสเซียยังคงเปิดรับการเจรจา และได้มีข้อเสนอเรื่องสันติภาพเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากยูเครนหรือชาติตะวันตกแต่อย่างใด.-814.-สำนักข่าวไทย

เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ในสาธารณรัฐดาเกสถาน ซี่งเป็นส่วนหนี่งของรัสเซีย กลุ่มมือปืนพุ่งเป้าที่โบสถ์คริสต์และโบสถ์ยิวทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้เผยแพร่แถลงการณ์ร่วมที่ว่า เกาหลีใต้ สหรัฐและญี่ปุ่น ประณาม “ด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดเท่าทีจะเป็นไปได้” เกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือทางการทหารระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเยือนกรุงเปียงยางเมื่อไม่นานมานี้ สร้างความกังวลอย่างรุนแรง

นายอันโตนิโอ กูแตร์เรซ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นกล่าววานนี้ว่า รัสเซียจะต้องปฎิบัติตามมาตรการของสหประชาชาติในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ โดยเขากล่าวเรื่องนี้หลังจากที่รัสเซียและเกาหลีเหนือกระชับความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า ได้เขิญตัวเทูตรัสเซียประจำกรุงโซลเข้าพบเพื่อประท้วงเรื่องสนธิสัญญาระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือที่ลงนามในสัปดาห์นี้

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ในวันนี้ว่า นายโช แท-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้และนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ตำหนิสนธิสัญญาใหม่ระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าร่วมพิธีต้อนรับของเวียดนามที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยในวันนี้มีการยิงสลุต 21 นัดในพิธีทางทหารเพื่อต้อนรับผู้นำรัสเซีย ในขณะที่บรรดาผู้นำเวียดนามต่างแสดงความชื่นชมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างกว้างขวาง

สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือและรัสเซียได้ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารโดยทันทีหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นความตกลงภายในสนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนฉบับใหม่ที่มีการลงนามระหว่างผู้นำรัสเซียและเกาหลีเหนือในระหว่างการประชุมสุดยอดในสัปดาห์นี้

ฮานอย 19 มิ.ย.- เวียดนามเตรียมตัวต้อนรับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่จะมาเยือนในวันนี้ โดยมีการปิดการจราจรตามสี่แยกต่าง ๆ ในกรุงฮานอยเพื่อรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่ท่าอากาศยานไปจนถึงโรงแรมที่อยู่ห่างออกไป 30 กิโลเมตร เวียดนามเตรียมตัวต้อนรับปูตินที่จะมาเยือนเป็นครั้งแรกนับจากปี 2560 และเป็นครั้งที่ 5 เมื่อนับรวมการเยือนทั้งหมด หนังสือพิมพ์ของกระทรวงกลาโหมเวียดนามลงบทความยกย่องปูตินว่า เป็นบุคคลที่ได้สร้างผลงานมากมายให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซีย มีความปรารถนาดีและห่วงใยเวียดนามอยู่เสมอ และให้คุณค่าความสัมพันธ์กับคณะผู้นำเวียดนาม ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางถึงกรุงฮานอยในคืนนี้ ทันทีที่เสร็จสิ้นการเยือนเกาหลีเหนือในวันเดียวกัน และจะเป็นประเทศที่ 3 ต่อจากจีนและเกาหลีเหนือที่เขาเดินทางเยือน นับจากสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่ 5 ในเดือนพฤษภาคม ปูตินเดินทางไปต่างประเทศน้อยลง เนื่องจากถูกศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี (ICC) ออกหมายจับในเดือนมีนาคม 2566 ข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม จากการเนรเทศและส่งตัวเด็กอย่างผิดกฎหมายในระหว่างที่มีสงครามยูเครน ด้านสหรัฐที่ได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามในปี 2566 และเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของเวียดนามแสดงความคัดค้านการเยือนของปูติน โฆษกสถานทูตสหรัฐประจำเวียดนามกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ไม่ควรมีประเทศใดให้พื้นที่ปูตินประชาสัมพันธ์การทำสงครามรุกราน หรือให้เขาทำให้ความโหดร้ายของตนเองกลายเป็นเรื่องปกติ เจ้าหน้าที่เวียดนามคาดการณ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ประธานาธิบดีปูตินจะประกาศข้อตกลงกับเวียดนามหลายด้าน เช่น การค้า การลงทุน เทคโนโลยี การศึกษา ส่วนในวันนี้เวียดนามประกาศว่า ต้องการให้บริษัทน้ำมันของรัสเซียลงทุนพลังงานสีเขียวในเวียดนาม ขณะเดียวกันมีการจับตาว่า จะมีการประกาศข้อตกลงอาวุธหรือไม่ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ให้แก่เวียดนาม.-814.-สำนักข่าวไทย

เปียงยาง 19 มิ.ย.- นาย คิม จอง-อืน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้จัดพิธีต้อนรับนาย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียที่เดินทางไปเยือนเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี อย่างยิ่งใหญ่ เกาหลีเหนือจัดขบวนพาเหรดและการสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ที่จัตุรัสคิม อิล-ซุง ในกรุงเปียงยาง โดยมีประชาชนชาวเกาหลีเหนือร่วมให้การต้อนรับด้วยการโห่ร้องยินดี หลังจากนั้นผู้นำทั้งสองได้ร่วมประชุมหารือกันที่พระราชวังคุมซูซัน รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศเผยว่า จะมีการหารือด้านความร่วมมือทางยุทธศาสตร์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ด้วยจุดยืนสร้างระเบียบโลกใหม่แบบพหุนิยมหลายขั้วอำนาจ และสกัดกั้นอำนาจและอิทธิพลของชาติตะวันตก ด้านสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวเปิดการหารือกับผู้นำรัสเซียว่า สถานการณ์โลกในขณะนี้กำลังเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงตั้งใจที่จะเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับรัสเซียและผู้นำรัสเซียต่อไป พร้อมกับให้ความมั่นใจว่า เกาหลีเหนือสนับสนุนนโยบายทุกอย่างของรัสเซีย เขาและผู้นำรัสเซียจะแลกเปลี่ยนความคิดและความเห็นที่สร้างสรรค์เรื่องความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ประเทศในทุกด้าน รวมทั้งจะแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นสากลด้วย.-812(814).-สำนักข่าวไทย