นายกฯ ขอสื่อฯ ช่วยประเมินผลงาน รมต.

ทำเนียบฯ 17 ธ.ค. –  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าสำนักนายกรัฐมนตรีจะรวบรวมผลงานแต่ละกระทรวง จะทำให้เห็นว่างานหลายอย่างจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาจึงจะสำเร็จ  ยอมรับว่า ส่วนตัวต้องการให้งานแล้วเสร็จเร็วมากกว่านี้  แต่ก็ต้องเข้าใจว่างานบางอย่างต้องใช้เวลา  ส่วนการประเมินผลงานรัฐมนตรีแต่ละทรวง คงต้องขอให้สื่อฯ ช่วยประเมินด้วย เพื่อให้รัฐมนตรีแต่ละคนมีโอกาสชี้แจง  เพราะบางคนไม่มีโอกาสชี้แจง เนื่องจากทำงานปิดทองหลังพระ และอาจจะไม่พูดไม่เก่งเหมือนตน   นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันเดินหน้าประเทศ ให้บ้านเมืองมีความสงบปลอดภัยในช่วงปีใหม่ ไม่เช่นนั้นความสุขก็จะไม่มา ขอให้ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกัน ทั้งรัฐบาลและประชาชน ที่สำคัญข้าราชการหลายหน่วยงานต้องทำงานในช่วงหยุด เช่น อำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทาง และเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน  จึงขออย่าทำอะไรให้เป็นภาระเจ้าหน้าที่มากนัก  นโยบายของรัฐบาลหลายอย่าง ทำให้หลายชุมชนมีสภาพที่ดีขึ้น มีความสวยงามมากขึ้น จึงขอให้สื่อฯ ช่วยนำสิ่งดีๆ ที่รัฐบาลได้ทำนำเสนอสู่ประชาชนบ้าง  .- สำนักข่าวไทย  

“วิษณุ” ปัด ไม่ทราบรัฐบาลเสนอใครเป็น กก.สมานฉันท์ฯ

ทำเนียบฯ 15 ธ.ค.- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไม่ทราบกรณีมีข่าวว่า รัฐบาลเสนอชื่อนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรี เป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ในสัดส่วนของรัฐบาล และว่า วันนี้ (15 ธ.ค.)  ไม่ได้มีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะมอบให้นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีไปพิจารณากับวิปรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล  หากเสนอใคร ก็ไม่ต้องแจ้งมายังคณะรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภาขอความร่วมมือมา รัฐบาลจึงให้ความร่วมมือไป ไม่ต้องมีมติคณะรัฐมนตรี ที่จะผูกพันคณะรัฐมนตรี   ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ได้คุยกับนายวิษณุแล้วว่า ให้พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อตัวแทนรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ตนเรียนถามนายจุรินทร์ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอใคร  ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์นั้น ไม่ขอตอบ  .-สำนักข่าวไทย    

รัฐบาลสหรัฐยืนยันถูกโจมตีระบบคอมพิวเตอร์

วอชิงตัน 14 ธ.ค.- รัฐบาลสหรัฐยืนยันว่า ถูกโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตามที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีกระทรวงอย่างน้อย 2 แห่งตกเป็นเป้าหมายของนักเจาะระบบหรือแฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการรัสเซีย โฆษกสำนักงานความปลอดภัยไซเบอร์และความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐชี้แจงว่า กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องกิจกรรมที่พบเมื่อไม่นานมานี้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาล และกำลังให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ เพราะหน่วยงานเหล่านี้ต้องค้นหาและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า การแฮ็กล่าสุดเชื่อมโยงกับกับการโจมตีไฟร์อาย บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ที่ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ขโมยเครื่องมือที่ใช้ทดสอบระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้าไปเจาะระบบการป้องกันของบริษัท ไฟร์อายสันนิษฐานว่า เป็นฝีมือแฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ สื่อสหรัฐหลายแห่งรายงานว่า สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) กำลังตรวจสอบกลุ่มที่ทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียหรือเอสวีอาร์ (SVR) เพราะเชื่อว่าเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐมาหลายเดือนแล้ว รวมไปถึงหน่วยงานรัฐบาลสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามาด้วย สถานทูตรัสเซียในสหรัฐตอบโต้ผ่านหน้าเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการว่า สื่ออเมริกันอ้างอย่างเลื่อนลอย เพราะกิจกรรมประสงค์ร้ายด้านข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการนโยบายต่างประเทศ ผลประโยชน์แห่งชาติ และความตกลงร่วมกันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐของรัสเซีย พร้อมกับย้ำว่ารัสเซียไม่ดำเนินปฏิบัติการน่ารังเกียจในโลกไซเบอร์.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลส่ง“เทอดพงษ์ –สรอรรถ-นิโรธ” ก.สมานฉันท์

รัฐบาลส่ง “เทอดพงษ์ –สรอรรถ-นิโรธ” ร่วมกรรมการสมานฉันท์ รอครม.เคาะให้ “แรมโบ้อีสาน” ร่วมด้วยหรือไม่ ด้านส.ว.อาจส่ง”ครูหยุด-พล.อ.ธีรเดช”

คนละครึ่งยังคึกคัก ขานรับเฟส 2 ทั้งผู้ขาย-ผู้ซื้อ

โครงการคนละครึ่งยังแรงต่อเนื่อง หลายตลาดปรับตัว หนุนร้านค้าในตลาดทั้งของกินของใช้ เข้าโครงการ พร้อมออกโปรโมชันเสริม ส่งผลร้านค้ายอดขายเพิ่มเท่าตัว ด้านผู้บริโภคบอกรอเฟส 2 นักเรียนบอกดีถ้าขยายสิทธิครอบคลุม ติดตามจากรายงาน

เตรียมเสนอสมุดปกขาวให้รัฐบาล

หอการค้าไทยเตรียมสรุปข้อเสนอรวมเป็นสมุดปกขาวให้รัฐบาล เพื่อเร่งขับเคลื่อนHappy Model, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภาครัฐและบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

ร้านค้า-ประชาชนเรียกร้องขยายคนละครึ่งต่อไปอีก

โครงการ “คนละครึ่ง” ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ร้านค้าต่างๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น และอยากให้รัฐบาลขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก เช่นเดียวกับประชาชนที่ใช้สิทธิก็ต้องการให้ขยายโครงการเช่นกัน

ร่างแก้ รธน. รัฐบาล VS ฝ่ายค้าน

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับที่รัฐสภารับหลักการไปแล้วมีข้อเสนอแก้ไขในหลายมาตรา มีทั้งข้อเสนอให้แก้ไขในรายละเอียดที่คล้ายคลึงกันและแตกต่างกัน

จ่อพัฒนามอเตอร์ไซค์รับจ้าง-รถแท็กซี่ไฟฟ้า

ทำเนียบฯ 16 พ.ย.-  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าว ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ วันนี้ (16 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสของกองทุนพลังงาน และโรงไฟฟ้าชุมชน ที่เป็นประโยชน์ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะประชาชนที่เป็นเกษตรกร หากสามารถจัดการเรื่องในชุมชน ทั้งเรื่องขยะ  และการปลูกพืชพลังงานขึ้นมาทดแทน ก็จะสามารถแก้ปัญหาอื่นได้ด้วย เช่น การสร้างรายได้ การเผาวัสดุจากการเกษตร เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งรัฐบาลได้จัดทำแผนแม่บทในเรื่องนี้แล้ว และดำเนินการอย่างระมัดระวัง “ในที่ประชุมยังได้หารือเรื่องการหารถไฟฟ้า โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถแท็กซี่ที่ยังราคาสูงอยู่ ต้องไปหามาตรการที่เหมาะสม และมีการเจรจาดึงบริษัทยานยนต์สมัยใหม่เข้ามาในประเทศไทย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนงานระยะสั้น ระยะปานกลาง 3 ปี ระยะยาว 5 ปีขึ้นไป ยอมรับว่าจะเปลี่ยนแปลงทันทีไม่ได้ เพราะจะได้รับผลกระทบมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย   

อนามัยโลกหวังจะได้ทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลไบเดน

เจนีวา 10 พ.ย.- ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหวังว่า จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของ โจ ไบเดน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงจุดมุ่งหมายร่วมกัน และว่า ด้วยเจตนารมณ์ดังกล่าว องค์การอนามัยโลกขอแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริสที่ได้รับเลือกตั้ง หวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ระงับการให้ทุนสนับสนุนองค์การอนามัยโลก และเริ่มกระบวนการถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลกในเดือนกรกฎาคมปีหน้า จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤติโรคโควิด-19 โดยทรัมป์ได้กล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่า ยึดจีนเป็นศูนย์กลางในการจัดการกับการระบาดของโรค ขณะที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยืนกรานปฏิเสธ ส่วนไบเดน ซึ่งได้ร่วมการประชุมคณะทำงานโควิดแห่งชาติเมื่อวานนี้ เคยกล่าวไว้ในระหว่างหาเสียงว่า จะยกเลิกการตัดสินใจของทรัมป์ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โอกาสเดียวกันนี้ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยังเห็นด้วยกับความพยายามของฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรป ในการปฏิรูปเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์การอนามัยโลกด้วย โดยกล่าวว่า การให้ทุนสนับสนุนองค์การอนามัยโลกควรต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องลดความแตกต่างระหว่างความคาดหวังในองค์กรกับทรัพยากรที่องค์กรมีอยู่.-สำนักข่าวไทย

1 71 72 73 74 75 107
...