ยูเอ็นเรียกร้องตอลิบานยุติกดขี่ผู้หญิง
ประเทศสมาชิกยูเอ็นเอสซี 11 ประเทศจากทั้งหมด 15 ประเทศ เรียกร้องให้กลุ่มตอลิบานยุติการปฏิบัติแบบเข้มงวดและกดขี่ต่อผู้หญิงในอัฟกานิสถาน
ประเทศสมาชิกยูเอ็นเอสซี 11 ประเทศจากทั้งหมด 15 ประเทศ เรียกร้องให้กลุ่มตอลิบานยุติการปฏิบัติแบบเข้มงวดและกดขี่ต่อผู้หญิงในอัฟกานิสถาน
เจนีวา 9 ม.ค.- เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เรียกร้องให้ลงทุนขนานใหญ่ เพื่อช่วยปากีสถานฟื้นฟูประเทศที่เสียหายหนักจากอุทกภัยปี 2565 และตกเป็นเหยื่อซ้ำซ้อนทั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการล้มละลายทางศีลธรรมของระบบการเงินโลก นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นกล่าวในการประชุมระหว่างประเทศที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้เพื่อระดมทุนช่วยฟื้นฟูปากีสถานว่า ไม่มีประเทศใดควรต้องยอมทนกับภัยพิบัติเหมือนที่เกิดขึ้นในปากีสถาน เขาขอยกย่องปากีสถานและประชาชนที่รับมือกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อย่างกล้าหาญ ประชาคมโลกจะต้องทำให้ได้อย่างชาวปากีสถานด้วยการพยายามและลงทุนขนานใหญ่เพื่อช่วยให้ชาวปากีสถานมีความแข็งแกร่งสำหรับอนาคตที่ดีขึ้น เลขาธิการยูเอ็นระบุว่า ประชาคมโลกมีความรับผิดชอบเป็นพิเศษที่จะต้องช่วยเหลือปากีสถานที่ตกเป็นเหยื่อซ้ำซ้อนทั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการล้มละลายทางศีลธรรมของระบบการเงินโลก เขาประณามระบบการเงินที่มักปฏิเสธการผ่อนปรนหนี้ให้แก่ประเทศรายได้ปานกลางและการให้ทุนที่จำเป็นต่อการลงทุนเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยพิบิตทางธรรมชาติ ด้านนายพิลาวัล บุตโต ซาร์ดารี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวซึ่งมีผู้ลงทะเบียนประชุมประมาณ 450 คนจาก 40 ประเทศว่า อุทกภัยปี 2565 เป็นภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ ปากีสถานต้องการการสนับสนุนในช่วงหลายปีข้างหน้าจากหุ้นส่วนสากลในการฟื้นฟูประเทศ ข้อมูลในแผนงานการฟื้นตัว ฟื้นฟูและบูรณะอย่างยืดหยุ่นที่ปากีสถานจะนำเสนอต่อที่ประชุมระบุว่า ต้องการความช่วยเหลือ 16,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 546,604 ล้านบาท) อุทกภัยดังกล่าวทำให้ปากีสถานจมน้ำมากถึง 1 ใน 3 ของประเทศ เสียชีวิตมากกว่า 1,700 คน เดือดร้อนมากกว่า 33 ล้านคน โดยมีคนพลัดถิ่น 8 ล้านคน และต้องกลายเป็นคนยากจน 9 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติและองค์กรนอกภาครัฐ หรือ เอ็นจีโอ สิบกว่าแห่งที่ทำงานอยู่ในอัฟกานิสถานจะประชุมที่กรุงคาบูล ของอัฟกานิสถานในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางการทำงานในอนาคต
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี มีมติเกี่ยวกับเมียนมาเป็นครั้งแรกในรอบ 74 ปี เมื่อวานนี้ โดยต้องการให้ยุติการใช้ความรุนแรงและเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด รวมถึงนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกโค่นล้มอำนาจ
เจนีวา 3 ธ.ค.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ตัดสินประหารชีวิตนักศึกษา 7 คนในสัปดาห์นี้ ทำให้มีผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตรวมแล้ว 139 คน พร้อมกับตำหนิเมียนมาว่าใช้โทษประหารชีวิตเป็นเครื่องมือในการกวาดล้างฝ่ายค้าน นายโฟลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น แถลงว่า มีนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เป็นชายอย่างน้อย 7 คนถูกศาลทหารตัดสินลงโทษประหารชีวิตเมื่อวันพุธ โดยเป็นการตัดสินแบบปิด การที่เมียนมาใช้โทษประหารชีวิตเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการกวาดล้างฝ่ายค้าน แสดงให้เห็นว่าเมียนมาเหยียดหยามความพยายามของอาเซียนและประชาคมโลกที่ต้องการยุติความรุนแรงและสร้างบรรยากาศให้มีการเจรจาทางการเมือง เพื่อนำเมียนมาออกจากวิกฤตสิทธิมนุษชนที่เกิดขึ้นจากกองทัพ ยูเอ็นเผยด้วยว่า กำลังตรวจสอบรายงานข่าวเรื่องนักเคลื่อนไหว 4 คน ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี นายเติร์กระบุว่า กองทัพเมียนมายังคงใช้วิธีพิจารณาคดีแบบลับ ๆ ซึ่งละเมิดหลักการไต่สวนอย่างเป็นธรรม และขัดต่อการรับประกันทางตุลาการเรื่องความเป็นอิสระและเป็นธรรม หลายครั้งที่ศาลลับเปิดการไต่สวนในนาทีสุดท้าย ทำให้ผู้ถูกควบคุมตัวไม่สามารถติดต่อทนายหรือครอบครัวได้ทัน สื่อเมียนมารายงานว่า นักศึกษา 7 คนของมหาวิทยาลัยดากองในนครย่างกุ้ง ถูกจับกุมเมื่อเดือนเมษายน และถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับเหตุยิงที่ธนาคาร ด้านสหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้ออกแถลงการณ์ว่า การตัดสินประหารชีวิตดังกล่าวเป็นการแก้แค้นของกองทัพ เมียนมาประหารชีวิตครั้งแรกในรอบ 30 ปีเมื่อเดือนกรกฎาคม เป็นผู้ต้องขัง 4 คนที่มีอดีตสมาชิกสภาและนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยรวมอยู่ด้วย ต่อมาอาเซียนได้เตือนในเดือนสิงหาคมไม่ให้เมียนมาประหารชีวิตอีก.-สำนักข่าวไทย
นายกฯ หารือเลขาธิการสหประชาชาติ เดินหน้าความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรับมือกับปัญหาและความท้าทายของโลก ซึ่งเลขาธิการฯ ชื่นชมนายกฯ มีบทบาทสำคัญในเวทีพหุภาคีด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
นิวยอร์ก 7 พ.ย.- สหประชาชาติคาดว่า โลกจะมีประชากรแตะ 8,000 ล้านคนในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปัญหาที่ใหญ่กว่าเรื่องคนล้นโลกคือ การที่คนในประเทศร่ำรวยบริโภคทรัพยากรโลกมากเกินไป กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอฟพีเอ (UNFPA) ประเมินว่า ประชากรโลกจะแตะ 8,000 ล้านคนในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากปี 2493 หรือเมื่อ 72 ปีก่อนที่มีประมาณ 2,500 ล้านคน ประชากรโลกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 คือร้อยละ 2.1 ต่อปีระหว่างปี 2505-2507 จากนั้นก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือต่ำกว่าร้อยละ 1 ในปี 2563 และอาจจะลดลงเหลือร้อยละ 0.5 ภายในปี 2593 อย่างไรก็ดี การที่คนมีอายุขัยเพิ่มขึ้น ประกอบกับแม่และเด็กมีอัตราการเสียชีวิตลดลง ส่งผลให้ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 8,500 ล้านคนในปี 2573, 9,700 ล้านคนในปี 2593 และ 10,400 […]
มอสโก 3 พ.ย.- รัสเซียกลับเข้าร่วมข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมทะเลดำ แต่เตือนว่าพร้อมออกจากข้อตกลงอีกครั้ง รัสเซียแจ้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ขอถอนตัวชั่วคราวจากข้อตกลงที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นและตุรกีเป็นคนกลางเมื่อเดือนกรกฎาคมให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมทะเลดำโดยมีการตรวจสอบเรือร่วมกัน รัสเซียอ้างว่ายูเครนใช้เส้นทางขนส่งธัญพืชอย่างปลอดภัยที่กำหนดขึ้นตามข้อตกลงเป็นฐานปล่อยอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนโจมตีกองเรือริมทะเลดำของรัสเซีย ต่อมากระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันพุธว่า รัสเซียได้กลับเข้าร่วมข้อตกลงนี้แล้ว เนื่องจากได้รับการรับรองอย่างเพียงพอจากยูเครนว่า จะไม่ใช้เส้นทางทางทะเลดังกล่าวเป็นฐานโจมตีรัสเซีย อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเตือนว่า รัสเซียพร้อมออกจากข้อตกลงอีกครั้ง หากยูเครนละเมิดการรับรอง นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติยินดีต่อการตัดสินใจของรัสเซีย ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนขอบคุณประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกีที่ช่วยปกป้องข้อตกลงเอาไว้ ขณะเดียวกันราคาธัญพืชโลกที่พุ่งขึ้นหลังรัสเซียประกาศถอนตัวเริ่มคลี่คลายลง ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ต่ออายุข้อตกลงดังกล่าวที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้นและลดแรงกดดันต่อราคาอาหารโลก แต่นายอังเดร รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียเผยว่า รัสเซียยังไม่ตัดสินใจว่าจะยังเข้าร่วมข้อตกลงต่อไปหรือไม่หลังจากข้อตกลงสิ้นสุด เพราะการต่ออายุข้อตกลงเป็นเรื่องแยกต่างหากที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง.-สำนักข่าวไทย
รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเป็นคนกลางให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมทะเลดำแล้ว สร้างความกังวลให้แก่ความพยายามคลี่คลายวิกฤตอาหารโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
อินเดียจะอุดหนุนเงิน 500,000 ดอลลาร์ให้แก่สหประชาชาติเพื่อใช้ในงานต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก หลังจากที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กลุ่มก่อการร้ายนำมาใฃ้ทำให้เกิดภัยคุกคามรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก
องค์การสหประชาชาติ เรียกร้องเงินทุนจากประชาคมโลกเพิ่มเป็น 5 เท่า เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปากีสถาน
โซล 26 ก.ย.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้มีคะแนนนิยมลดลงเล็กน้อยในข่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการเผยแพร่ภาพเขาหลุดใช้คำหยาบขณะอยู่ในนครนิวยอร์กของสหรัฐเพื่อร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เรียลมิเตอร์ซึ่งเป็นสำนักสำรวจในเกาหลีใต้ได้สอบถามผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2,533 คนระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่แล้วพบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดียุนลดลงจากร้อยละ 36.4 เมื่อวันอังคารเหลือร้อยละ 32.8 เมื่อวันศุกร์ คาดว่าอาจเป็นผลจากเสียงวิจารณ์เรื่องเขาหลุดใช้คำหยาบขณะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับคนสนิทเมื่อวันพุธโดยลืมปิดไมโครโฟน สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้ซ้อนตัวอักษรแสดงคำพูดของเขา เนื่องจากภาพที่บันทึกไว้ได้ยินเสียงไม่ชัดเพราะมีเสียงรบกวน ผู้ชมหลายคนคิดว่าเขาใช้คำหยาบพูดถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนและรัฐสภาสหรัฐ ด้านรอยเตอร์รายงานว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อผู้นำเกาหลีใต้เผลอสบถขณะลืมปิดไมโครโฟน ขณะเดินออกจากงานแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กหลังจากสนทนากับผู้นำสหรัฐเป็นเวลาสั้น ๆ สถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้แพร่ภาพคลิปขณะเขาพูดกับนายปัก จิน รัฐมนตรีต่างประเทศ โดยรายงานว่าเขาพูดว่า ไบเดนจะต้องอับอาย หากรัฐสภาสหรัฐไม่ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนโลกของยูเอ็น คลิปดังกล่าวถูกส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงปฏิเสธว่า ประธานาธิบดียุนไม่ได้พูดถึงไบเดนหรือรัฐสภาสหรัฐ แต่พูดว่าตนเองจะอับอายหากสภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้ที่มีฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากไม่ยอมผ่านความเห็นชอบเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,780 ล้านบาท) ที่เขารับปากว่าจะบริจาคให้กองทุนโลกของยูเอ็น ขณะที่ประธานาธิบดียุนตอบข้อถามสื่อในวันนี้ว่า ข่าวเรื่องคำพูดหลุดของเขาจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐไม่ใช่เรื่องจริง และข่าวที่ไม่ใช่เรื่องจริงจะทำให้ประชาชนเสี่ยงอันตราย.-สำนักข่าวไทย