กทม.ประกาศสิ้นสุดสาธารณภัยพื้นที่ก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กทม. ออกประกาศการสิ้นสุดสาธารณภัยในเขตพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศเรื่อง การสิ้นสุดสาธารณภัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยกเว้นพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 โดยยกเว้นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงวงจตุจักร เขตจตุจักร เนื่องจากยังคงเหลือภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอาคารที่ทรุดตัว โดยให้ผู้อำนวยการเขตจตุจักรรับผิดชอบ และตำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2500 และระเบียบกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น บัดนี้ภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่ทรุดตัวได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ในการนี้ ผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครพิจารณาแล้ว อาศัยอำนาจตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2564-2570 จึงให้สิ้นสุดสาธารณภัยบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ บริเวณถนมกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร ประกาศ ณ วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2568 .-417-สำนักข่าวไทย

สจล.เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนรับมือปัญหาฝุ่น PM 2.5

สจล.เสนอรัฐเอาจริงลงพื้นที่คุมเข้มบังคับใช้กม.สกัดจับรถควันดำบนท้องถนน จับตาเขตพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานไร้การป้องกัน กวดขันทุกความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมลพิษ

รฟม.ดึงเอกชนร่วมแก้ปัญหาอุบัติเหตุซ้ำซาก

กรุงเทพฯ  21 มิ.ย. – รฟม.เดินหน้าแก้ปัญหาอุบัติเหตุพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า ล่าสุดจับมือเอกชนผู้รับงานก่อสร้างตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย กำหนดบทลงโทษกรณีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับเอกชนผู้รับงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในการกำกับดูแลของ รฟม.สัญญาต่าง ๆ ถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุเกิดขึ้นตามแนวสายทางก่อสร้าง ซึ่งหลายครั้งกระทบประชาชนผู้สัญจร  โดยยอมรับว่าปัญหาอุบัติเหตุบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ผู้รับงานก่อสร้างและ รฟม. จึงได้มีการหารือกับผู้รับงานทั้งหมดและได้ข้อสรุปจะประกาศแนวทางทำงานร่วมกัน คือ การชูนโยบาย”สถานที่ก่อสร้างปลอดภัย 100 % เพื่อให้ทุกบริษัทและผู้ปฏิบัติงานยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างทุกคนต้องมี conscious mind และ Safety mind คือ จิตสำนึกด้านความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง  นอกจากนี้  ที่ประชุมยังมีมติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยหรือเซฟตี้บอร์ด มีคณะกรรมการ 15  คน  โดยตนจะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการชุดนี้และบทบาทที่สำคัญของคณะกรรมการจะกำกับดูแลให้ผู้รับงานทุกบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย รวมถึงกำหนดบทลงโทษเพิ่มขึ้น  เพื่อใช้กับบริษัทที่ละเลยหรือกระทำผิด เพื่อให้แนวทางนี้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง  โดยคณะกรรมการชุดนี้จะจัดตั้งภายในสัปดาห์นี้  มีคำสั่งแต่งตั้งชัดเจน เริ่มประชุมเพื่อกำหนดกรอบทำงานทันที เชื่อว่าหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือปัญหาอุบัติเหตุจะต้องลดลงมากที่สุดจนถึงไม่เกิดขึ้นเลย.-สำนักข่าวไทย

...