จีนเตือนจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายระลอกในเดือน ก.ค.

ปักกิ่ง 4 ก.ค.- ทางการจีนเตือนว่า จีนจะเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้วและเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายระลอกในเดือนกรกฎาคม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ทางการได้แจ้งเตือนเฝ้าระวังในวันนี้ว่า หลายพื้นที่ทางตอนกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอาจจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติกินวงกว้าง อันเป็นผลจากฝนตกหนัก ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาเตือนว่า จีนจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายระลอกในเดือนกรกฎาคม มีทั้งน้ำท่วม อากาศที่มีการพาความร้อนรุนแรงทำให้อากาศเคลื่อนตัวแปรปรวน ไต้ฝุ่น และอากาศมีอุณหภูมิสูง หนังสือพิมพ์ฉงชิ่งเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า บ้านเรือนหลายสิบหลังและถนนหลายสิบสายในมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักที่สุดในรอบ 50 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่มณฑลหูหนาน ทางตอนกลางแจ้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า ต้องอพยพประชาชนมากกว่า 10,000 คนหนีน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ทำให้บ้านเรือนเสียหายมากกว่า 2,000 หลัง ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ในจีนกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนเป็นประวัติการณ์ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนเตือนผู้อาศัยในกรุงปักกิ่งและหลายสิบพื้นที่ให้อยู่แต่ในอาคาร เนื่องจากอากาศมีอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จีนมีวันที่อากาศมีอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียสเฉลี่ยเดือนละ 4.1 วัน สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการจดบันทึกในปี 2504.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่งออกประกาศเตือนระดับสูงสุดเรื่องอากาศร้อน

จีนออกประกาศเตือนระดับสูงสุดเรื่องอากาศร้อนในหลายส่วนทางภาคเหนือของประเทศในวันนี้ ในชณะที่กรุงปักกิ่งอยู่ในสภาพเหมือนเตาอบด้วยอุณหภูมิอยู่ที่ระดับ 40 องศาเซลเซียส

ทางเหนือของจีนร้อนแตะ 40 องศาฯ ในวันนี้

ปักกิ่ง 22 มิ.ย.- หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนมีอุณหภูมิสูงแตะ 40 องศาเซลเซียสในวันนี้ โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่งและนครเทียนจินที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในรอบหลายปี ปักกิ่งนิวส์รายงานว่า สถานีตรวจอากาศที่เมืองทังเหอโข่ว ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่งวัดอุณหภูมิได้ 41.8 องศาเซลเซียสในช่วงบ่ายวันนี้ ทำให้เป็นสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในประเทศในวันนี้ ขณะที่สถานีตรวจอากาศทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่งวัดอุณหภูมิได้ 40 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ ส่วนเขตซีชิงในนครเทียนจินวัดอุณหภูมิได้ 40.6 องศาเซลเซียส เป็นวันในเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา อากาศร้อนจัดทางตอนเหนือของจีนเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังมีวันหยุดยาว 3 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันเสาร์ เนื่องในเทศกาลแข่งเรือมังกรที่ตรงกับวันนี้ และเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมักออกไปพบปะสังสรรค์กันนอกบ้าน ทางการเตือนว่า อย่าอยู่กลางแจ้งนานเกินไป เพราะคาดว่าอุณหภูมิจะสูงตลอดวันหยุดยาวนี้ ทางการกรุงปักกิ่งประกาศเตือนภัยระดับสีส้มเรื่องอากาศร้อนจัด ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นเวลานาน และปกป้องตนเองจากแสงแดด เช่นเดียวกับทางการนครเทียนจินที่เตือนภัยระดับสีส้ม ขอให้ประชาชนระวังการเป็นลมแดด.-สำนักข่าวไทย

“บลิงเคน” เดินทางถึงกรุงปักกิ่งแล้ว

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงกรุงปักกิ่งของจีนแล้วในวันนี้ ซึ่งเป็นการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในรอบ 5 ปี ในช่วงเวลาที่สหรัฐและจีนกำลังหาทางลดอุณหภูมิความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ฮ่องกงจับคนรำลึกเทียนอันเหมินกว่า 20 คน

ฮ่องกง 5 มิ.ย.- ตำรวจฮ่องกงจับกุมคนมากกว่า 20 คนที่พยายามจัดพิธีรำลึกเหตุปราบปรามการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งเมื่อ 34 ปีก่อน ชาวฮ่องกงจำนวนมากได้เข้าร่วมพิธีจุดเทียนรำลึกประจำปีที่สวนสาธารณะวิกตอเรียพาร์กมาตั้งแต่ปี 2533 เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 แต่ได้ถูกห้ามจัดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและโรคโควิด-19 นับตั้งแต่ทางการจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกงในปี 2563 และตั้งข้อหาตามกฎหมายกับผู้จัดงาน ปีนี้ทางการได้ส่งตำรวจจำนวนหนึ่งไปดูแลความเรียบร้อยที่สวนสาธารณะดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นสถานที่จัดงานขายสินค้า มีการตรวจค้นซักถามผู้คนในบริเวณนั้น และควบคุมตัวผู้ถูกตรวจพบว่าพกเทียนมาด้วย ตำรวจแถลงเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า มีผู้ถูกควบคุมตัว 23 คน อายุระหว่าง 20 ถึง 74 ปี ฐานต้องสงสัยฝ่าฝืนความสงบสุข ส่วนเมื่อวันเสาร์มีผู้ถูกควบคุมตัว 8 คน ส่วนที่ไต้หวันซึ่งอยู่ห่างจากฮ่องกงไปกว่า 700 กิโลเมตร ประชาชนจำนวนมากไปรวมตัวกันที่จัตุรัสเสรีภาพในกรุงไทเปในช่วงค่ำ ตะโกนคำขวัญสู้เพื่อเสรีภาพ พร้อมเคียงข้างฮ่องกง และจุดเทียนเป็นรูปตัวเลข 8964 ซึ่งหมายถึงวันที่ 4 เดือน 6 ปี 1989 และเป็นตัวเลขต้องห้ามในจีนแผ่นดินใหญ่.-สำนักข่าวไทย

จีนเข้มงวดความปลอดภัยครบ 34 ปีเหตุประท้วงที่เทียนอันเหมิน

ปักกิ่ง 4 มิ.ย.- จีนเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยในหลายพื้นที่ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 34 ปีของเหตุการณ์ปราบปรามการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่มีนักศึกษาเป็นแกนนำ เหตุการณ์ดังกล่าวรู้จักในจีนในชื่อ เหตุการณ์ 4 มิถุนายน กองกำลังรักษาความมั่นคงของจีนได้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวที่สะพานซื่อทงในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากเป็นจุดที่เคยมีการแขวนป้ายประท้วงมาตรการคุมโควิดเมื่อเดือนตุลาคม 2565 โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลได้ให้ข้อสรุปเรื่องเหตุการณ์เทียนอันเหมินที่ชัดเจนอยู่แล้ว การยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นข้ออ้างเพื่อพยายามลดทอนความน่าเชื่อถือของจีนและแทรกแซงกิจการภายในของจีนจะไม่มีวันสำเร็จ ส่วนพิธีจุดเทียนรำลึกที่สวนสาธารณะวิกตอเรียพาร์กในฮ่องกงที่จัดมาทุกปีตั้งแต่ปี 2533 ถูกยกเลิกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ทางการให้เหตุผลที่ยกเลิกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาว่า กังวลเรื่องความปลอดภัยและเรื่องโควิด-19 สื่อฮ่องกงรายงานว่า พื้นที่บางส่วนของสวนถูกปิดเพื่อการซ่อมแซม ส่วนพื้นที่ที่เหลือถูกองค์กรสนับสนุนรัฐบาลจีนยื่นขอจัดงานขายสินค้า นายจอห์น ลี ผู้บริหารฮ่องกงเตือนเมื่อวันอังคารว่า ตำรวจจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย หลังจากถูกถามว่าผู้อาศัยในฮ่องกงอย่างถูกกฎหมายจะสามารถจัดพิธีรำลึกในที่สาธารณะได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ทางรถไฟปักกิ่งนำร่องใช้ “ฝ่ามือ” สแกนเข้า-ออกจุดตรวจตั๋ว

ปักกิ่ง, 22 พ.ค. (ซินหัว) — ทางรถไฟใต้ดินสายหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน อนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกผ่านจุดตรวจบัตรโดยสารแบบ “มือเปล่า” ด้วยการใช้ฝ่ามือเป็นตัวสแกน โดยไม่จำเป็นต้องรูดบัตรหรือสแกนคิวอาร์โค้ดแต่อย่างใด คณะกรรมการการขนส่งเทศบาลกรุงปักกิ่ง ระบุว่ามีการเปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้บนเส้นทางรถไฟต้าซิง แอร์พอร์ต เอ็กซ์เพรส (Daxing Airport Express) ที่เชื่อมโยงท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งต้าซิง เมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ผู้โดยสารสามารถสแกนฝ่ามือเพื่อเข้า-ออกจุดตรวจบัตรโดยสารของสถานีต่างๆ ตามแนวทางรถไฟดังกล่าว หลังจากป้อนข้อมูลฝ่ามือที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารของสถานีและอนุญาตการใช้งานผ่านวีแชท (WeChat) แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมของจีน โดยค่าธรรมเนียมจะถูกหักอัตโนมัติหลังออกจากสถานีแล้ว คณะกรรมการฯ เปิดเผยว่าจุดตรวจบัตรโดยสารจะจดจำลายฝ่ามือและเส้นเลือดของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องมีการสัมผัส ทำให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินได้เมื่อไม่มีเงินสด ในกรณีที่สมาร์ตโฟนแบตเตอรีหมดและไม่อาจใช้งานได้ และยังมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการปิดบังข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้ด้วย -สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ http://english.news.cn/20230521/bd86cab15a1a481684dd21e28981b8aa/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/359213_20230522ขอบคุณภาพจาก Xinhua

“อาหารไทย” หยั่งรากความนิยมในจีน จากเมนูลองชิมสู่ของติดบ้าน

ปักกิ่ง, 20 พ.ค. (ซินหัว) — จำนวนร้านอาหารไทยในปักกิ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า และยังพบว่าชาวจีนสนใจอาหารไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเพียงแค่อยาก “ลองชิม” แวะเช็กอินร้านอาหารไทย ไปสู่การซื้อวัตถุดิบกลับไปต้มผัดแกงทอดที่บ้าน “ฉันนึกไม่ถึงว่า ‘ต้มยำกุ้ง’ จะกลายเป็นเมนูห้ามพลาดและสั่งกันทุกโต๊ะขนาดนี้” สุขุมาล ตู้ หรือตู้เสวี่ยลี่ เจ้าของร้านอาหารไทยในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนกล่าว สาวไทยที่มาแต่งงานอยู่ปักกิ่งเล็งเห็นโอกาสทำธุรกิจอาหารไทยในปี 2021 นำไปสู่การเปิดร้านอาหารไทยในเขตทงโจว โดยมีคุณแม่ที่เปิดร้านอาหารในไทยมานานกว่า 20 ปี และน้องสาวที่เพิ่งเรียนจบเป็นผู้ช่วย “ร้านของเราถือเป็นร้านอาหารไทยเจ้าแรกของเขตทงโจว” ตู้กล่าวอย่างภูมิใจ โดยร้านอาหารที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของคนในครอบครัวนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “ครัวคุณแม่” และ “ร้านสองพี่น้องชาวไทย” “เรานำเข้าวัตถุดิบอย่างใบมะกรูดและตะไคร้จากไทย เพื่อพยายามคงรสชาติดั้งเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด” ตู้กล่าว โดยเธอจัดการควบคุมทุกอย่างตั้งแต่เลือกทำเลจนถึงสร้างตกแต่งร้าน ความมุ่งมั่นตั้งใจของตู้นำสู่กระแสตอบรับที่จากลูกค้าชาวจีน แม้ที่ตั้งร้านจะไกลจากใจกลางเมือง แต่มีลูกค้าแวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยบางวันที่ขายดีมีลูกค้าเข้ามารับประทานสูงกว่า 50 โต๊ะ “เคยมีลูกค้าขับรถไกลกว่า 60 กิโลเมตร เพราะอยากรับประทานต้มยำกุ้ง แถมยังซื้อน้ำซุปต้มยำติดมือกลับบ้านไปฝากภรรยาที่บ้านอีก 5 กิโลกรัมด้วย” ตู้เล่าด้วยความประทับใจ ร้านอาหารไทยชื่อ “นกเอี้ยงและควาย” ของตู้ได้รับตรา […]

ชาวปักกิ่งหันมา “เดิน-ขี่จักรยาน” สูงสุดในรอบทศวรรษ

ปักกิ่ง, 24 เม.ย. (ซินหัว) — คณะกรรมาธิการการคมนาคมเทศบาลกรุงปักกิ่งของจีน พบว่าผู้อยู่อาศัยในเขตศูนย์กลาง 6 แห่งของปักกิ่งหันมาใช้การขนส่งที่ช้าลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมาธิการฯ ระบุว่าผู้อยู่อาศัยเดินหรือขี่จักรยานถึงร้อยละ 49 ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนสูงสุดในรอบทศวรรษ โดยการเดินครองสัดส่วนการเดินทางร้อยละ 31.7 ขณะการขี่จักรยานครองสัดส่วนร้อยละ 17.3 อนึ่ง หน่วยงานในปักกิ่งดำเนินสารพัดมาตรการเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้การขนส่งที่ช้าลง ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จางหยาน เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการฯ ในเขตไห่เตี้ยนของปักกิ่ง กล่าวว่าไห่เตี้ยนขยายเลนจักรยานยาว 319 กิโลเมตร และปรับปรุงทางเท้า 6 สาย ในปี 2022 – สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230424/550376d388734e59ad546ed964389c0b/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/353734_20230424ขอบคุณภาพจาก Xinhua

ไฟไหม้ รพ.ในปักกิ่งตายเพิ่มเป็น 29 คน

ปักกิ่ง 19 เม.ย.- ทางการกรุงปักกิ่งของจีนแจ้งว่า เหตุไฟไหม้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 29 คนแล้ว และมีคนถูกควบคุมตัว 12 คน รองนายกเทศมนตรีเขตเฟิงไถ ในกรุงปักกิ่ง แถลงแสดงความเสียใจอย่างยิ่งและขอขมาต่อชาวเมือง ขณะแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดว่า เพิ่มเป็น 29 คนแล้ว ประกอบด้วยชาย 13 คน หญิง 16 คน เป็นเหตุไฟไหม้ที่มีผู้เสียชีวิตในกรุงปักกิ่งมากที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงสาธารณะของกรุงปักกิ่งเผยว่า ผู้ถูกควบคุมตัว 12 คนในเหตุไฟไหม้ที่โรงพยาบาลฉางเฟิง เขตเฟิงไถ มีผู้อำนวยการของโรงพยาบาล และตัวแทนบริษัทที่รับปรับปรุงโรงพยาบาลรวมอยู่ด้วย ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีน รายงานว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นชี้ว่า ต้นเพลิงเกิดจากประกายไฟที่เกิดขึ้นระหว่างการปรับปรุงและก่อสร้างภายในอาคารผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ไปทำให้สีที่ติดไฟได้ระเหยเป็นเชื้อไฟ ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยผู้ป่วย 26 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 2 คน และญาติผู้ป่วย 1 คน.-สำนักข่าวไทย

จีนสอบเหตุไฟไหม้ รพ. ในปักกิ่ง ตาย 21 คน

ปักกิ่ง 19 เม.ย.- สื่อทางการจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุไฟไหม้โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคารที่มีผู้เสียชีวิต 21 คน หนังสือพิมพ์ปักกิ่งเดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนรายงานว่า ทีมรับมือเหตุฉุกเฉินได้รับแจ้งช่วงใกล้เวลา 13:00 น.วันอังคารตามเวลาจีน ตรงกับช่วงใกล้เที่ยงตามเวลาไทยว่า เกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาลฉางเฟิง เขตเฟิงไถ ในกรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่ดับไฟได้ในอีก 30 นาทีต่อมา และใช้เวลากู้ภัยอีก 2 ชั่วโมง สามารถอพยพผู้ป่วยออกมาได้ 71 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คนจนถึงเช้าวันนี้ ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องตัวเลขและอาการของผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงปักกิ่งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ นายหยิ่น ลี่ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำกรุงปักกิ่งประกาศว่า จะเร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้และลงโทษผู้รับผิดชอบให้ได้โดยเร็ว เอเอฟพีรายงานว่า มีคนจำนวนหนึ่งไปมุงดูหน้าทางเข้าโรงพยาบาล และมีตำรวจจำนวนมากประจำการในที่เกิดเหตุ หน้าต่างหลายบานของโรงพยาบาลไหม้ดำ และมีหน้าต่างแตกอย่างน้อย 1 บาน ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่า สามารถอพยพคนออกจากโรงพยาบาลครบหมดแล้วหรือไม่ โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นทางฝั่งตะวันออกของอาคารคนไข้ใน หนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี่รายงานในวันนี้ว่า หลายครอบครัวยังไม่สามารถติดต่อกับญาติที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุที่ต้องมีผู้ช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย

พายุทรายพัดทั่วภาคเหนือของจีน

ปักกิ่ง 22 มี.ค.- มลภาวะทางอากาศในกรุงปักกิ่งของจีนเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากเกิดพายุทรายขนาดใหญ่ทั่วภาคเหนือของประเทศ จนถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีน้ำตาล ดัชนีคุณภาพอากาศอย่างเป็นทางการในกรุงปักกิ่งวันนี้แตะเกณฑ์สูงสุดที่ 500 จุด บ่งชี้ว่าเป็นมลภาวะร้ายแรง แต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการสูงกว่านี้เกือบ 2 เท่า บางพื้นที่มีทัศนวิสัยไม่ถึง 1 กิโลเมตรในช่วงเช้า ขณะที่หลายพื้นที่ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของจีนมีลมพัดแรงและเต็มไปด้วยฝุ่นจนท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มอย่างน่ากลัว บางพื้นที่มีทัศนวิสัยเหลือไม่กี่ร้อยเมตร ทางการระบุว่า มลภาวะวันนี้เกิดจากฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 10 (PM10) ที่มีขนาดเล็กพอที่ร่างกายจะสูดเข้าไป และทำให้ผู้มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ มีอาการกำเริบ สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนออกประกาศเตือนภัยในระดับสีเหลือง เนื่องจากจะมีฝุ่นพัดทั่วภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นเวลา 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เวลา 08:00 น. วันนี้ตามเวลาจีน ตรงกับเวลา 07:00 น. วันนี้ตามเวลาไทย ขอให้ผู้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบป้องกันตนเองอย่างดี ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่นอกอาคาร ส่วนเด็ก คนชราและเป็นภูมิแพ้ด้านระบบทางเดินหายใจและผู้มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ขอให้จำกัดการออกนอกอาคาร สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนอธิบายว่า พายุทรายมักเกิดขึ้นทั่วภาคเหนือของจีนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากเป็นช่วงที่กระแสลมได้พัดเอาฝุ่นทรายขึ้นมาจากพื้นที่แห้งแล้งที่กว้างใหญ่ อย่างไรก็ดี พายุทรายในขณะนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดของปี และคาดว่าจะเริ่มอ่อนกำลังลงตั้งแต่วันพฤหัสบดี.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 19
...