ตร.ปรับเปลี่ยนการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
กทม.16 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับเปลี่ยนกาตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ หลังหวั่นสุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยกรณีสื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดีย ตั้งคำถามถึงมาตรการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามจุดตรวจ จุดสกัด ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำชับและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั่วประเทศ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตราการและแนวทางการปฏิบัติในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ กำชับให้สวมถุงมือทุกครั้งและล้างมือบ่อย ๆ โดยให้ผู้ถูกตรวจฉีกซองของหลอดเป่าเอง เพื่อให้ผู้ถูกตรวจมั่นใจว่าเป็นหลอดใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ และตำรวจจะต้องทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องตรวจด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังใช้ทุกราย โดยหลังจากตรวจวัดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งหลอดเป่าที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดมิดชิด รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในการปฎิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ด้วยเครื่องเป่านั้น เจ้าหน้าที่จะสังเกตเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุราหรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงจะขอทำการตรวจสอบโดยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจการใช้เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจและขอให้ความร่วมมือและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย