กองทัพ

ปักกิ่ง 8 ส.ค.- กองทัพจีนประกาศวันนี้เรื่องการซ้อมรบครั้งใหม่ในทะเลและน่านฟ้ารอบไต้หวัน หนึ่งวันหลังจากเสร็จสิ้นการซ้อมรบนาน 4 วันครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อประท้วงที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเยือนไต้หวัน กองบัญชาการภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนแถลงว่า การซ้อมรบมุ่งเน้นปฏิบัติการต่อต้านเรือดำน้ำ และปฏิบัติการโจมตีทางทะเล ตอกย้ำสิ่งที่นักวิเคราะห์และนักการทูตวิตกว่า จีนจะเดินหน้ากดดันการป้องกันตนเองของไต้หวันต่อไป อย่างไรก็ดี จีนยังไม่ประกาศชัดเจนเรื่องสถานที่และระยะเวลาของการซ้อมรบครั้งล่าสุด ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันได้กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีราล์ฟ กอนซัลเวส ของเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ที่มาเยือนว่า ไต้หวันรู้สึกประทับอย่างยิ่งที่นายกอนซัลเวสยืนยันว่า การซ้อมรบของจีนจะไม่สามารถขัดขวางไม่ให้เขาเดินทางมาเยือนมิตรในไต้หวันได้ ขณะเดียวกันไต้หวันได้ผ่อนคลายการจำกัดการบินใกล้จุดที่จีนซ้อมรบ 6 จุดรอบไต้หวันแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ไทเป 2 ส.ค.- เจ้าหน้าที่ไต้หวันและเจ้าหน้าที่สหรัฐคาดว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเยือนไต้หวันระหว่างการตระเวนเยือนเอเชียในขณะนี้ แม้จีนเตือนว่าจะเกิดผลกระทบตามมา ไต้หวันไม่ได้อยู่ในตารางการเยือนเอเชียของนางเปโลซีที่ประกอบด้วยสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า เจ้าหน้าที่ไต้หวันคาดว่านางเปโลซีจะพักค้างคืนที่ไต้หวัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินทางถึงกรุงไทเปเมื่อใด ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า กระทรวงกลาโหมกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของจีนตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมแผนการดูแลความปลอดภัยให้นางเปโลซี ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐย้ำว่า จุดยืนของรัฐบาลสหรัฐในเรื่องนี้คือ การเยือนใด ๆ เป็นการตัดสินใจของนางเปโลซีทั้งหมด รัฐบาลไม่สามารถทราบเจตนาของเธอได้ เพราะรัฐสภามีอำนาจอิสระและเท่าเทียมกับรัฐบาล อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาเคยมีประธานสภาและสมาชิกสภาสหรัฐเยือนไต้หวันมาก่อน ดังนั้นหากจีนพยายามจะเพิ่มความตึงเครียดก็จะเป็นความรับผิดชอบของจีนทั้งหมด โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า จะเกิดผลทางการเมืองร้ายแรงหากนางเปโลซีเยือนไต้หวัน ขอย้ำกับสหรัฐอีกครั้งว่าจีนเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา และกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะไม่มีวันนิ่งเฉย จีนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและรุนแรงเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาการทางดินแดน ขณะเดียวกันกองบัญชาการภาคตะวันออกของจีนได้โพสต์คลิปแสดงยุทโธปกรณ์และการสู้รบโดยไม่ได้ระบุชื่อไต้หวันว่า กองบัญชาการจะฝังศัตรูที่จะเข้ามาทุกราย.-สำนักข่าวไทย

ย่างกุ้ง 25 ก.ค.- สื่อทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า กองทัพได้ประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย 4 คนที่ถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือการก่อการร้าย นับเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานว่า นักเคลื่อนไหวทั้ง 4 คนถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อเดือนมกราคมในการพิจารณาคดีแบบปิด โดยถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธต่อสู้กับกองทัพ ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายและประมวลกฎหมายอาญา ส่วนการประหารชีวิตดำเนินการตามกระบวนการของเรือนจำ รายงานระบุว่า ผู้ถูกประหารชีวิตรวมนายจ่อ มิน ยู วัย 53 ปี นักเรียกร้องประชาธิปไตยคนสำคัญที่รู้จักกันในชื่อ จิมมี และนายพโย จียา ตอ วัย 41 ปี นักดนตรีแนวฮิปฮอปและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นพันธมิตรกับนางออง ซาน ซู จี ทั้งคู่ยื่นอุทธรณ์แต่ถูกศาลปัดตกไปในเดือนมิถุนายน รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเมียนมาประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเผยว่า เมียนมามีการประหารชีวิตครั้งหลังสุดในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 และตั้งแต่กองทัพรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีคนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงสังหารแล้วมากกว่า 2,100 คน.-สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- องค์การนิรโทษกรรมสากลเผยวันนี้ว่า กองทัพเมียนมาได้ฝังทุ่นระเบิดทั้งในและรอบหมู่บ้านในรัฐกะยา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาที่มีพรมแดนติดกับไทย ทำให้มีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต องค์การนิรโทษกรรมสากลอ้างว่า คณะนักวิจัยของทางกลุ่มที่ลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า ทุ่นระเบิดที่ฝังไว้รอบบ้านเรือนประชาชนและโบสถ์คร่าชีวิตคนไปอย่างน้อย 20 คน และทำให้หลายคนพิการ กองทัพเมียนมาสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยงในพื้นที่นี้ หลังจากรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การใช้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องน่ารังเกียจและโหดร้าย เพราะประชาคมโลกได้ห้ามการใช้อาวุธที่สังหารคนแบบไม่เลือกหน้า แต่กองทัพเมียนมากลับนำไปฝังไว้ตามบ้านเรือนประชาชนและโบสถ์ โดยฝังไว้ในหมู่บ้านในรัฐกะยาอย่างน้อย 20 หมู่บ้าน สอดคล้องกับที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกะเหรี่ยงเคยกล่าวหาไว้เมื่อต้นเดือน องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า การฝังทุ่นระเบิดนอกจากก่อให้เกิดอันตรายทันทีแล้ว ยังสกัดไม่ให้ประชาชนที่หนีภัยการสู้รบกลับไปยังบ้านเรือนและไร่นาของตนเอง ดูเหมือนว่ากองทัพเมียนมาจะฝังทุ่นระเบิดอย่างเป็นระบบด้วยการฝังใกล้ฐานที่มั่นของกองทัพและพื้นที่ที่กองทัพถอยกำลังออกมา.-สำนักข่าวไทย