โตเกียว 17 ก.พ.- เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 ของปี 2567 ขยายตัวเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาคธุรกิจมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและภาคเอกชนมีการบริโภคเพิ่มขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567 ขยายตัวร้อยละ 2.8 ต่อปี สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 1 ต่อปี และสูงกว่าไตรมาส 3 ของปีเดียวกันที่ขยายตัวร้อยละ 1.7 ต่อปี หากเปรียบเทียบเป็นรายไตรมาส ถือว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวร้อยละ 0.7 ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะจะขยายตัวร้อยละ 0.3  รอยเตอร์ระบุว่า ความต้องการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว แม้ว่าคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าสร้างความกังวลต่อการส่งออก การบริโภคภาคเอกชนซึ่งครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ 0.1 ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวร้อยละ 0.3 อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์สถาบันวิจัยเมจิ ยาสึดะเตือนว่า ตัวเลขการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าแปลกใจเป็นผลจากการได้รับเงินโบนัสสิ้นปี ดังนั้นจีดีพีจึงอาจขยายตัวลดลงในเดือนมกราคม เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคที่แท้จริงยังคงอ่อนแอจากการที่อาหารมีราคาสูงขึ้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

โซล 17 ก.พ.- รัฐบาลและพรรครัฐบาลเกาหลีใต้จะหารือกันในวันนี้ เรื่องมาตรการป้องกัน หลังจากเกิดเหตุสะเทือนขวัญ กรณีครูแทงนักเรียนหญิงเสียชีวิตในโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน เว็บไซต์ยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า รัฐบาลและพรรคพลังประชาชนจะหารือมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และจะหารือว่าจะขอแก้ไข “กฎหมายฮานึล” หรือไม่เพื่อให้มีการดูแลครูที่มีปัญหาจิตเวช กฎหมายนี้ซึ่งเป็นชื่อเรียกชั่วคราวตามชื่อของเด็กหญิงวัย 8 ขวบที่ถูกครูแทงเสียชีวิต กำหนดให้ครูต้องลาพักการทำงาน หากมีปัญหาจิตเวชจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นอกจากนี้ยังจะหารือมาตรการอื่น ๆ เช่น การจำกัดการให้บุคคลภายนอกเข้าไปในโรงเรียน ตำรวจเมืองแทจอน ทางตอนกลางของเกาหลีใต้แถลงว่า ครูหญิงวัย 40 ปีเศษที่ก่อเหตุในโรงเรียนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ รับการรักษาภาวะซึมเศร้ามาตั้งแต่ปี 2561 และเคยคิดจบชีวิตตัวเองระหว่างลาป่วยตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่ได้กลับมาทำงานก่อนครบกำหนดการลา มีรายงานด้วยว่า เธอได้ทำร้ายเพื่อนร่วมงานหลายวันก่อนก่อเหตุกับเด็กนักเรียน.-814.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 17 ก.พ.- มาสด้า บริษัทผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศแผนการผลิตรถอเนกประสงค์หรือเอสยูวี (SUV) ในไทยด้วยการเปิดสายการผลิตใหม่ เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า ในขณะที่ผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่นกำลังลดการผลิตในไทย เนื่องจากเริ่มสูญเสียการครองตลาด แต่มาสด้าสวนกระแสด้วยการประกาศว่าจะลงทุนประมาณ 144.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,865 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานที่จะดำเนินการร่วมกับฟอร์ด ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ผลิตรถเอสยูวีขนาดกะทัดรัดแบบไฮบริด โดยจะเริ่มผลิตในปี 2570 ด้วยกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี มาสด้ามีแผนจะจำหน่ายยานยนต์รุ่นนี้ในไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังวางแผนกระตุ้นยอดขายด้วยการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) มาจำหน่ายในไทยด้วย เอ็นเอชเคระบุว่า บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งเกือบร้อยละ 90 ของตลาดไทยมาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบัน ส่วนแบ่งลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 70 เนื่องจากมีความต้องการอีวีของจีนเพิ่มขึ้น.-815(814).-สำนักข่าวไทย