พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ก.คลัง มอบสรรพากรออก 3 มาตรการภาษี ช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-กระทรวงการคลัง มอบสรรพากร ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ขยายเวลายื่นภาษีทุกประเภท ลดหย่อนค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 1 แสนบาท – รถไม่เกิน 3 หมื่นบาท ยกเว้นภาษีเงินช่วยเหลือ-บริจาค นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้ง 7 จังหวัด (ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) ให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ โดยมี 3 มาตรการสำคัญ มีดังนี้1.ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีทุกประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล […]

รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยประชาชนกลับภูมิลำเนา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยวางกรอบข้อปฏิบัติ รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังสถานกาณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือการดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย 100% และมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จำเป็นต้องย้ายไปเข้าพักพิงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดและความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการเดินทางกลับที่พักอาศัยนั้น ในบางพื้นที่อาจเผชิญระดับสถานการณ์ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1.ให้ตรวจสอบความพร้อมของบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยอย่างละเอียด อาทิ ด้านโครงสร้างบ้าน ผนัง หลังคา และระบบไฟฟ้า 2.ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค 3.สังเกตสภาวะทางจิตใจของตนเองและคนในครอบครัว หากรู้สึกว่ามีอาการเครียด วิตกกังวล หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า ควรเข้ารีบเข้าปรึกษาแพทย์/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยทันที และ 4.หมั่นดูแลสุขอนามัยที่ดี ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำที่สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งหมั่นดูแลความสะอาดด้านสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเข้าร่วมกิจกรรมยามว่างเพื่อสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทีมดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต อนามัยสิ่งแวดล้อม “ทั้งนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ […]

รัฐบาล เดินหน้าเยียวยาเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาล เดินหน้ามาตรการเยียวยาจากเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา ย้ำต้องไม่มีใครตกหล่น ด้าน 7 รมต. ลงพื้นที่คุยท้องถิ่น – ประชาชนโดยตรง เก็บรายละเอียดทุกมิติ ก่อนสรุปแนวทางเยียวยาลอต 2 เสนอ ครม. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ในกรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไปรายละ 8 ล้านบาท และข้าราชการทหาร-ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย ทุพพลภาพ ก็จะได้รับการเยียวยาเช่นกัน โดยไม่มีการตกหล่นจากมาตรการเยียวยาดังกล่าวอย่างแน่นอน “นอกจากมาตรการตามมติ ครม. ดังกล่าวแล้ว หน่วยงานราชการต้นสังกัดอย่าง กระทรวงกลาโหม จะดูแลครอบครัวญาติพี่น้องของข้าราชการทหารที่เสียชีวิต ให้ได้รับสวัสดิการต่างๆ สิทธิการรับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตอบแทนคุณความดีที่ได้เสียสละชีวิตรักษาอธิปไตยของประเทศ” นายจิรายุ กล่าว สำหรับการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้น […]

“จิราพร” มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย-ชรบ. อ.พนมดงรัก

ทำเนียบ 10 ส.ค.-“จิราพร” มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย-ชรบ. อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมย้ำรัฐบาลเตรียมมาตรการเยียวยาเต็มที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะและมอบถุงยังชีพแก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และประชาชนผู้ประสบภัยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศาลาประจำหมู่บ้านละเอาะ หมู่ 4 ตำบลจีกแดก อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เย็นวานนี้ โดยมี นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และคณะผู้บริหารจังหวัดสุรินทร์ร่วมด้วย นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วน แม้ช่วงหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งเร่งดำเนินมาตรการในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกด้าน อย่างเช่นในวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงตัวดิฉัน ได้มาส่งพี่น้องประชาชนจากศูนย์พักพิงชั่วคราวกลับไปยังที่พักอาศัย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ความตึงเครียดต่างๆ ที่ เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการเยียวยาต่างๆ เช่นการพักชำระค่าไฟเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ในพื้นที่ประสบเหตุ การเพิ่มเงินให้แก่ ชรบ. การดูแลสภาพกายและใจแก่ผู้ประสบภัย […]

ชายแดนไทย-กัมพูชาสถานการณ์ปกติ

ทำเนียบ 10 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพภาคที่ 1-2 และกองทัพเรือ รายงานเหตุการณ์ชายแดนตลอดคืนถึงเช้านี้ 7 จังหวัดสถานการณ์ปกติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568) จนถึงช่วงเช้า (วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. สถานการณ์ตามแนวชายแดน 7 จังหวัดไม่มีเหตุการณ์ปะทะใด ๆ ขณะที่วานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก ศบ.ทก. ว่าได้มีทหารออกลาดตระเวน บริเวณพื้นที่รอยต่อ โดนเอาน์ – กฤษณา เหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 ดูแลทหารกล้าที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ศบ.ทก. ยืนยันว่าพื้นที่ที่ทหารลาดตระเวนนั้น อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอธิปไตย

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเวลา 16.32 น. กระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก แถลงการณ์เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ของทางฝ่ายกัมพูชา โดยมีเนื้อหาระบุว่า ไทยประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยทันที และให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน ภายในกรอบทวิภาคี และตามที่ฝ่ายไทยได้เสนอต่อที่ประชุม GBC ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบสนอง.-สำนักข่าวไทย

ปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว

บุรีรัมย์ 9 ส.ค. – ปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว หลังปิดช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ด้านชาวบ้านใกล้จุดจรวด BM-21 เริ่มกลับไปใช้ชีวิตในบ้าน แต่ยังผวา พร้อมอพยพตลอดเวลา อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว ตั้งแต่วันนี้ (9 ส.ค.) เป็นต้นไป หลังจากปิดมาตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ล่าสุดสถานการณ์แนวชายแดนมีแนวโน้มดีขึ้น ทางอุทยานฯ จึงกลับมาเปิดให้เข้าชมความมหัศจรรย์ของโบราณสถานทั้ง 2 แห่งอีกครั้ง บรรยากาศวันแรกมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเที่ยวชมแต่ยังมีจำนวนไม่มากนัก อาจเพราะยังไม่ทราบว่าเปิดให้เข้าชมแล้ว น.ส.อ้อม นักท่องเที่ยวชาวบุรีรัมย์ บอกว่าตนไปทำงานอยู่ที่อื่น มีโอกาสกลับบ้านเกิดจึงแวะมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง เพราะคิดถึงโบราณสถานของบุรีรัมย์ ส่วนตัวยอมรับว่าไม่เชื่อใจผู้นำประเทศกัมพูชา เพราะมักพูดกลับไปกลับมา ชาวบ้านกลับเข้าบ้าน แต่ยังผวา-พร้อมอพยพตลอดด้านชาวบ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่จรวด BM-21 จากกัมพูชา ตกใส่กลางสวนยางพารา ห่างจากบ้านเรือนประชาชนไม่ถึง 100 เมตร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 กรกฎาคม […]

ปลัดกลาโหม เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล และมอบ “เหรียญบางระจัน”

อุบลราชธานี 9 ส.ค.-ปลัดกลาโหม ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา และมอบ “เหรียญบางระจัน” เพื่อเชิดชูเกียรติทหารกล้าผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินเกิดด้วยชีวิต และเป็นขวัญกำลังใจกับกำลังพลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของกำลังพลที่เสียชีวิต ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และมอบ “เหรียญบางระจัน” พร้อมประกาศนียบัตร ตามดำริของ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและให้กับญาติของกำลังพลที่ผู้เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ดังนี้ 1.ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 คน ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 คน ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับญาติกำลังพลที่เสียชีวิต จำนวน 7 คน และกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ […]

“สุรเดช” แนะใช้เทคโนโลยีจากออสเตรเลียช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน

กทม. 9 ส.ค.-“สุรเดช” แสดงความเสียใจ 3 นายทหารเหยียบทุ่นระเบิดซ้ำอีก ร้องรัฐบาลอย่าเอาชีวิตทหารแขวนบนเส้นด้าย แนะนำเทคโนโลยีทันสมัยจากออสเตรเลียมาช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน ยุฟ้องต่างประเทศให้เห็นความไม่จริงใจของเขมร จี้อย่ายอมเจรจาหากไม่ร่วมมือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ถึงเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิดที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษเมื่อช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวตนต้องขอแสดงความเสียใจกับทหารทั้ง 3 นายที่เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศให้สื่อสารไปยังประเทศต่างๆ ทั้งประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศตัวกลางในการประสานให้ไทยและกัมพูชาได้พูดคุยเพื่อทำข้อตกลงในการหยุดยิงกัน รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการทำข้อตกลง13 ข้อเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย นายสุรเดช กล่าวว่าข้อตกลง 13 ข้อแต่มี 2 ข้อที่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับคือการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดและการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในเรื่องของทุ่นระเบิดที่ยังคงฝังอยู่นั้น ในเมื่อเราไม่สามารถไว้วางใจกัมพูชาได้ เราก็ต้องมาเก็บกู้ของเราเองก่อน และในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างนี้เราควรจะต้องมีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งในหลายประเทศก็มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เท่าที่ตนติดตามข่าวประเทศที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในทางทหารเราก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับทางออสเตรเลียอยู่แล้ว สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเราก็มีอยู่ ดังนั้นเราก็สามารถประสานกับทางสถานทูตได้เลย โดยอาจจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญของเขามาดูสถานที่พร้อมนำอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีตรวจจับทุ่นระเบิดมาแสดงให้เราดูก่อนก็ได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเป็นลักษณะเหมือนกับสนามแม่เหล็กที่สามารถจะเช็คสิ่งที่เป็นโลหะได้ว่า อยู่จุดไหนและพื้นที่ไหนที่มีทุ่นแม่เหล็กอยู่จำนวนมากหรือน้อย นอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้โดรนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ที่เป็นภูเขาที่จำเป็นต้องใช้โดนเข้าไปตรวจสอบด้วย ตนคิดว่า เราต้องรีบทำเพราะไม่เช่นนั้นทหารเราจะอันตราย “เรื่องนี้เป็นเรื่องของชีวิตคน ชีวิตทหาร เครื่องไม้เครื่องมือที่เรามีอยู่ในปัจจุบันอาจจะยังไม่ทันสมัยพอ ผมจึงอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะเราไม่สามารถที่จะเอาชีวิตทหารไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ ได้อีกแล้ว เราต้องระมัดระวังความปลอดภัยให้กับทหารของเรา ด้วยการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยด้วย” […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

“ภูมิธรรม​” ให้กำลังใจ​ ปชช.​-​ชรบ.พนมดงรัก สั่ง สธ.ดูแลสภาพจิตใจ

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม​” เยี่ยมให้กำลังใจ​ประชาชน​-​ชรบ. อ.พนมดงรัก​ จ.สุรินทร์​ สั่ง สธ. ดูแลสภาพจิตใจ​ประชาชน เหตุเสียงปืน​-​ระเบิดทำเก็บกด​ บอก​เข้าใจเคยผ่านมาแล้ว​ เผย​มีระเบิดอีกกว่า​ 10 ลูก ยังไม่ได้กู้​ ขอฟังการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด​ ย้ำ​หลักฐานชัด พลเมืองไทยถูกละเมิดจากรัฐบาลกัมพูชา​ ไม่ได้พูดโฆษณาชวนเชื่อ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางพบปะให้กำลังใจประชาชน​ และชุดรักษาความปลอดภัย​หมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ. ที่ศูนย์อพยพ​โรงเรียนพนมดงรักวิทยา ​ต.จึกแดก​ อ.​พนมดงรัก​ จ.สุรินทร์​ ทันทีที่นายภูมิธรรมเดินทางมาถึงได้สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่าในพื้นที่ถูกระเบิดด้วยหรือไม่​ พร้อมกับทักทายประชาชนบางส่วน​ ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้อพยพออกจากบ้านเรือน​ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน​ แต่ได้ให้คนในครอบครัวออกจากบ้านเรือน​ ก่อนที่จะรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์​ในพื้นที่จากนายอำเภอพนมดงรัก นายภูมิธรรม กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันดูแลรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ชุด ชรบ.ของหมู่บ้านทั้ง 600 กว่าคน วันนี้ตนและคณะทุกคนอยากมาให้กำลังใจทุกคนจริงๆ​ ซึ่งได้มีการประเมินร่วมกับกองทัพ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ยังห่วงใยประชาชน​ และเมื่อสักครู่เดินมามีคนบอกไม่ยอมออกจากบ้าน ช่วยกันดูแลบ้านร่วมกับชุด ชรบ. นี่คือจิตใจที่เสียสละ แต่ไม่มีค่าตอบแทน ถือเป็นเกียรติยศต่อชีวิต […]

1 29 30 31 32 33 83
...