รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]

รัฐบาลยืนยันไม่เก็บค่าน้ำ-ไฟ พื้นที่อพยพ รอบเดือน ก.ค.-ส.ค.

กทม. 21 ส.ค.- รัฐบาลยืนยันไม่เก็บค่าน้ำ-ไฟ ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพ รอบเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ แจงหากจ่ายเดือน ก.ค.ไปแล้ว จะดำเนินการหักยอดในเดือน ก.ย. ทันที ขณะที่การซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนชายแดน คืบหน้ากว่า 60% นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานความคืบหน้าในการติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกว่า 400 หลังคาเรือน จากทั้งสิ้น 705 หลังคาเรือน ซึ่งที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมที่ได้รับความเสียหายไม่มากนักประมาณ 200 กว่าหลังคาเรือน นายจิรายุ ยังกล่าวว่า อธิบดีกรมการปกครองได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธของกัมพูชาที่ยิงถล่มเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน โดยรัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจ และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการใช้งบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงมหาดไทย โดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/กองทุนสำนักนายกฯ สภากาชาดไทย และเงินบริจาค พบว่าบ้าน/ที่อยู่อาศัยประจำ ได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 […]

“โรม” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญ ศึกษายกเลิก MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.-“โรม” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญ ศึกษายกเลิก MOU 43-44 ชี้ต้องพิจารณาศึกษารอบด้าน โดยเร็ว เหตุมีการแบ่งสรรปันส่วนให้ภาคเอกชนแล้ว นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงข้อเสนอการยกเลิก MOU 43 และ 44 ในส่วนของพรรคประชาชนมองอย่างไร ว่า เราทราบข้อกังวลและความเป็นห่วงของพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่คิดว่า MOU 43 และ 44 อาจสร้างความเสียหายกับประเทศไทยได้ เราเข้าใจในความกังวลนั้นและอยากทำให้กลไกในการเจรจา ตั้งอยู่บนพื้นฐานเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเป็นสำคัญ ดังนั้น การตัดสินใจในเรื่องนี้ หนทางที่ดีที่สุดเพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบคือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีทั้งนักการทูต นักวิชาการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ศึกษาเรื่องนี้ และมีการตัดสินใจออกมา โดยที่เราคาดหวังว่าผลการตัดสินใจที่ออกมาจะเป็นไปด้วยความรอบคอบ พรรคประชาชนจึงเชื่อว่าสำหรับเรื่องนี้กลไกที่เป็นทางออกที่ดีที่สุด คือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ “คิดว่าเบื้องต้นต้องมีการตัดสินใจออกมา สาระสำคัญคือต้องมีการตัดสินใจโดยพูดกันทุกฝ่าย และเอาข้อมูลออกมากาง เพราะขณะนี้ MOU 44 ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา (OCA) มีเรื่องของก๊าซธรรมชาติและมีการแบ่งสรรปันส่วนให้ภาคเอกชนแล้ว สมมติถ้ามีการยกเลิก ภาคเอกชนเหล่านี้เขาจะไปใช้วิธีการบางอย่างที่ทำร้ายประเทศไทยหรือไม่ พูดกันอย่างตรงไปตรงมาเขาอาจจะมีรัฐบาลต่างชาติที่อยู่เบื้องหลัง ดังนั้น เวลาที่เราจะดำเนินการอะไร […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด สถานการณ์ปกติ

ทำเนียบ 21 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด สถานการณ์ปกติ ย้ำกัมพูชาต้องรับผิดชอบและยอมรับความจริงในพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น หลังตรวจพบการวางกับระเบิดจำนวนมากในอธิปไตยของไทย และคลิปที่พบเป็นทหารกัมพูชา 100% นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด อยู่ในสภาวะปกติ ไม่ปรากฎเหตุการณ์ที่สำคัญ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 จุด พร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำ ขณะที่ ศบ.ทก.ยังคงตรวจพบการบินอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลขอย้ำว่า แม้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะออกประกาศผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถทำการบินหรือปล่อยโดรนทุกประเภทได้ แต่ยังคงยกเว้นพื้นที่ตามประกาศฉบับที่ 4 ของ กพท. อาทิ จังหวัดสระแก้ว ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าในช่วง 18 -20 […]

เสียงบึ้มสนั่นปราสาทตาควาย คาดทหารกัมพูชาเหยียบระเบิดตัวเอง

21 ส.ค. – เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ชาวบ้านได้ยินเสียงคล้ายระเบิด บริเวณปราสาทตาควาย หวั่นเกิดเหตุปะทะกันอีกรอบ กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจง คาดเสียงที่ได้ยิน เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ชี้แจง ถึงข่าวสารในสื่อออนไลน์ ที่อ้างว่ากองกำลังฝ่ายกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ใส่ฐานบริเวณปราสาทตาควายนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยในพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เสียงระเบิดที่ประชาชนได้ยินสันนิษฐานว่า เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิด ที่ลักลอบวางไว้เอง บริเวณด้านหลังปราสาทตาควาย ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อกระแสข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อป้องกันการสับสนและความเข้าใจผิด.-สำนักข่าวไทย

เจอระเบิดอีก 1 ลูก ช่องจุ๊ปตะโมก ก่อนนำ IOT ลงพื้นที่

สุรินทร์ 20 ส.ค.- เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ช่องจุ๊ปตะโมก จ.สุรินทร์ ก่อนนำคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ลงพื้นที่ พบระเบิดเพิ่มอีก 1 ลูก ใกล้จุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งก่อน ขณะที่ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียเข้าสวมกอดให้กำลังใจทหารไทยที่ลาดตระเวนวันเกิดเหตุ กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ  IOT 8 ประเทศอาเซียน ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม 14 นาย มีผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยจุดแรก ไปยังสถานที่ควบคุมเชลยศึก ชาวกัมพูชา 18 คน เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติของไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากล และอนุสัญญาเจนีวา ทั้งด้านอาหาร การแพทย์ และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน จากนั้นลงพื้นที่โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ซึ่งถูกโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของกัมพูชา ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากลอย่างชัดเจน เนื่องจากโจมตีต่อพลเรือนและสถานพยาบาล และยังติดตามการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดที่กัมพูชายิงตกเข้ามาใส่บริเวณชุมชนบ้านโนนมะยาง ตำบลตาเมียงอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์   สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ […]

“มทภ.2” มอบสิ่งของพระราชทานกำลังพลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

20 ส.ค.- “มทภ.2” เยี่ยม ฉก.1-3 มอบสิ่งของพระราชทานกำลังพลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 20 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1, 2 และ 3 กองกำลังสุรนารี เพื่อนำสิ่งของ พร้อมขนมพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนำไปให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทรงรับสั่งให้นำไปแจกจ่ายทหารให้ครบทุกคนและมีความห่วงใย นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้ไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนประถมในพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครู นักเรียน พร้อมทั้งผู้ปกครองที่อยู่บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

กต.แถลงย้ำคลิปทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานชั้นดี

กระทรวงการต่างประเทศ 20 ส.ค.- กต.แถลงย้ำ คลิปทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนอธิปไตยไทย จะเป็นหลักฐานชั้นดีในการฟ้องภาคีออตตาวา ด้าน “นิกรเดช” ขอคนไทยมั่นใจ ซัดพฤติกรรม “กัมพูชา” น่าผิดหวัง ไม่จริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด เรียกร้องหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (Interim observer Team: IOT) ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย คณะได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาคณะประกอบไปด้วยผู้ช่วยทูตทหารจาก 8 ประเทศได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ทางกองทัพได้จัดกำหนดการครอบคลุม เพื่อให้คณะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา และการขัดขวางการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ในห้วง 3 วัน คณะ IOT ได้สังเกตการณ์ ได้ชมการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เมื่อเช้านี้ยังได้เดินทางไปตรวจที่สถานที่ควบคุมตัวเชลยกัมพูชา จำนวน 18 […]

“สุรเดช” หนุนสร้างรั้วลวดหนามถาวร พื้นที่ชายแดนของไทย

กทม. 20 ส.ค.-“สุรเดช” หนุนรัฐบาล สร้างรั้วลวดหนามถาวรพื้นที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย บริเวณชายแดนไทย-เขมร แนะเริ่มจากหลักเขตปักปันตามประวัติศาสตร์ จวก เขมร เจ้าเล่ห์ ไว้ใจไม่ได้ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงเกิดปัญหาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด ทางกองทัพเรือได้เก็บโทรศัพท์ของทหารกัมพูชาโดยมีคลิปและรูปภาพขณะวางระเบิด แต่ทางกัมพูชากลับออกมาระบุว่าทหารไทยจัดฉากนั้นว่า ส่วนตัวตนอยากให้ทางกองทัพเชิญสื่อต่างประเทศมาให้รับทราบเรื่องนี้และเร่งชี้แจงให้ประเทศต่างๆ ได้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ของกัมพูชา ขณะนี้ประชาชนคนไทยไม่ไว้ใจกัมพูชาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชนกัมพูชา จะให้พูดคุยกันเหมือนในอดีตคงยากแล้ว เพราะเกิดความหวาดระแวงกันแล้ว โดยเฉพาะทหารไทยและประชาชนต้องเสียชีวิตไปจากความขัดแย้งนี้ ดังนั้นรั้วหีบเพลงที่เรากำลังดำเนินการติดตั้งอยู่ไม่น่าจะเพียงพอแล้ว “ส่วนตัวผมคิดว่า เราควรทำรั้วถาวรโดยเริ่มต้นจากหลักเขตที่ปักปันอยู่ ซึ่งที่หลักเขตมีชื่อของประเทศไทยหรือ SIAM รวมถึง กัมพูชา และ ฝรั่งเศส อยู่ด้วย โดยมีการสำรวจจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่ามีหลักเขตถึง 70 กว่าเสา ดังนั้นควรเริ่มต้นวางลวดหนามตั้งแต่หลักเขตที่ปักปันน่าจะเหมาะสมที่สุด ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่ชัดเจน ว่าเป็นพื้นที่ของใครกันแน่ และไม่มีหลักเขตที่ชัดเจน ก็อาจจะมีการวางลวดหนามแบบที่เราทำในปัจจุบันนี้ไปก่อน เพื่อรอการตรวจสอบหรือพิสูจน์พื้นที่ให้ชัดเจน จากนั้นค่อยมาคุยกันเรื่องของแผนที่กันใหม่ และยกเลิกข้อตกลงที่ผ่านๆมา เพราะที่ผ่านมามีการวางกับระเบิดชัดเจน ที่สำคัญเรามีการพิสูจน์แล้วว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้ เป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ใช่ระเบิดเก่า ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทางกัมพูชาไม่มีความจริงใจ และเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรถือโอกาสนี้ […]

“ภูมิธรรม” ยันเดินหน้าฟ้องเอาผิดผู้นำกัมพูชาตามขั้นตอน

ทำเนียบ 20 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยืนยันการฟ้องร้องเอาผิดผู้นำกัมพูชา ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือกันอยู่ ย้ำ เรื่องระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย ชี้ ไม่ต้องคุ้มครองความปลอดภัยนักธุรกิจ-นักการเมืองไทยในกัมพูชา หากไม่ทำผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการฟ้องร้องสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะส่งผลกระทบต่อการทูตหรือไม่ ว่า ขณะนี้ในขอบเขตประเทศ ได้ดำเนินการฟ้องตามที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซึ่งได้ให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหมหารือกัน สำหรับกรณีที่นักธุรกิจไทย หรือ นักการเมืองไทยที่จะไปกัมพูชา จะมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยอย่างไร หากไทยฟ้องดำเนินคดี นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะการดำเนินธุรกิจภายในก็ว่ากันไป หากไม่กระทำผิดกฎหมาย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ บ้านเมืองมีกฎเกณฑ์ และส่วนตัวไม่ทราบว่าสมเด็จฮุน เซน และนายฮุน มาเนต ลงทุนอะไรในประเทศไทย ต้องไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน รวมถึงยังไม่ทราบว่า ต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ต้องไปดำเนินการอายัดทรัพย์อะไรหรือไม่ เพราะยังไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร […]

รัฐบาลย้ำให้ความสำคัญสูงสุดปกป้องอธิปไตย-เยียวยา

ทำเนียบ 20 ส.ค.- รัฐบาลอัปเดตความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติ ครม. เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำให้ความสำคัญสูงสุดปกป้องอธิปไตย ดูแลความมั่นคง และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวสรุปการดำเนินงานของรัฐบาลและคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ครอบคลุมทุกมิติ รอบคอบ และเป็นไปตามกฎกติกาสากล โดยมีประเด็นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 ประเด็น ดังนี้ ประการแรก เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเคลื่อนไหวเชิงรุกในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงชี้แจงต่อองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยวางกำลังรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน พร้อมควบคุมจุดผ่านแดนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ประการที่สอง การดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน กระทรวงมหาดไทย ได้เสริมกำลังดูแลพื้นที่ส่วนหลัง จัดตั้งศูนย์พักพิงดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบเส้นทาง ยุทธวิธี และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอน และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับนักเรียนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบส่วนกระทรวงขณะเดียวกันกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดหาอุปกรณ์จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ […]

1 14 15 16 17 18 82
...