มองจีน

ต้าเหลียน 12 ม.ค. – เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนนำรถรางมาตกแต่งไฟประดับ ส่องแสงสว่างเรืองรองสะดุดตา ให้บริการรับส่งผู้โดยสารเที่ยวชมเมืองยามค่ำคืน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า รถรางหลายคันของเมืองต้าเหลียนได้รับการตกแต่งไฟประดับเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 รถรางของเมืองนี้มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่ย้อนไปถึงปี 2452 และกลายเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นประจำเมือง หลังจากให้บริการมานานกว่า 100 ปี ซินหัวระบุด้วยว่า นักท่องเที่ยวพากันมาเยือนเมืองต้าเหลียนเพื่อสัมผัสประสบการณ์นั่งรถรางชมวิวเมือง และเป็นการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวท้องถิ่นของจีน.-814.-สำนักข่าวไทย

ฉางซา 12 ม.ค. – เด็กนักเรียนชั้นประถมได้งีบหลับช่วงพักเที่ยงบนเก้าอี้พับปรับนอนได้ในห้องเรียนของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่อยู่ ในตำบลหลงฝู เมืองหลิวหยาง มณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานพร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดหนึ่งว่า เก้าอี้พับปรับนอนได้เหล่านี้ถูกนำมาใช้งานเพื่อเด็กนักเรียนสามารถงีบหลับตอนกลางวัน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการนอนหลับของเด็กนักเรียนอย่างมาก.-814.-สำนักข่าวไทย

เฉิงตู 11 ม.ค. – พิพิธภัณฑ์ซากโบราณจินซา นครเฉิงตู มณฑลซื่อชวนหรือเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เปิดนิทรรศการอารยธรรมอินคา (Inca) ให้สาธารณชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมถึงวันที่ 10 เมษายน 2567 สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า นิทรรศการดังกล่าวนำเสนอสิ่งจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์ในเปรู 14 แห่ง จำนวน 168 ชิ้นหรือชุด เช่น เครื่องกระดูก เซรามิก โลหะ เครื่องหิน เครื่องไม้ สิ่งทอ ภาพวาด และมัมมี่ โดยแบ่งเป็น 4 ส่วน เช่น ส่วนอารยธรรมโบราณแห่งเทือกเขาแอนดีส ส่วนมหากาพย์อันรุ่งโรจน์ของอาณาจักรอินคา จูจางอี้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ กล่าวว่า แม้จีนและเปรูอยู่ห่างไกลกันหลายพันกิโลเมตร แต่มรดกทางวัฒนธรรมของทั้งสองฝ่ายต่างมีความเชื่อทางจิตวิญญาณเกี่ยวกับการบูชาดวงอาทิตย์เหมือนกัน ทางพิพิธภัณฑ์ฯ จะเดินหน้าให้มีการเสวนาระหว่างอารยธรรมและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกันในอนาคต อารยธรรมอินคาเป็นหนึ่งใน 3 อารยธรรมหลักในทวีปอเมริกา มีต้นกำเนิดบนเทือกเขาแอนดีสในเปรูและเจริญรุ่งเรืองระหว่างศตวรรษที่ 15-16 ปัจจุบันมีการค้นพบโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย.-814.-สำนักข่าวไทย

ยูนนาน 9 ม.ค.- ภูเขาหิมะฮาบาในเมืองแชงกรีลา แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบต-ตี๋ชิ่ง มณฑลยูนนานกำลังต้อนรับนักปีนเขาจากทั่วประเทศจีนที่ต้องการขึ้นไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา ยูนนานเดลี่รายงานว่า ภูเขาหิมะฮาบากำลังเข้าสู่ฤดูปีนเขาที่เหมาะสมที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนมกราคมปีนี้  แต่ละวันจะมีคนเกือบ 200 คนจากทั่วประเทศจีนมุ่งหน้าไปยังยอดเขาหลักของภูเขาหิมะฮาบาที่มีระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 5,396 เมตร การปีนขึ้นไปบนยอดเขาหิมะฮาบาเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นความใฝ่ฝันและเป้าหมายของทุกคนที่รักกีฬากลางแจ้ง โดยจะถือว่าภูเขาหิมะฮาบาเป็น “ภูเขาหิมะลูกแรกที่ปีนขึ้นไปบนยอดเขาแห่งชีวิต” ภูเขาหิมะฮาบาตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแชงกรีลา มณฑลยูนนาน ห่างจากตัวเมืองแชงกรีลาออกไป 120 กิโลเมตร คำว่า “ฮาบา” เป็นภาษาน่าซี หมายถึง “ดอกไม้สีทอง” ยอดเขาหลักของภูเขาหิมะฮาบามีระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 5,396 เมตร ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี ส่วนเส้นขอบหิมะหรือบริเวณที่มีหิมะปกคลุมตลอด (snow line) มีความสูงเหนือน้ำทะเล 4,900 เมตรขึ้นไป การปีนภูเขาหิมะฮาบาค่อนข้างง่าย มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก และสามารถเลือกช่วงเวลาในการปีนได้ตลอดทั้งปี ระยะเวลาในการปีนเขาสั้น จัดเป็นภูเขาหิมะที่มีความยากระดับเริ่มต้น ดังนั้น จึงเหมาะสําหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง ภูเขาหิมะฮาบาตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับภูเขาหิมะมังกร โดยมีแม่น้ำจินซาไหลผ่าน บริเวณด้านล่างของภูเขาจะเป็นช่องเขาเสือกระโจน สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใต้ภูเขาส่วนใหญ่ ได้แก่ ชาวน่าซี หุย หยี และฮั่น เป็นต้น […]

ยูนนาน 4 ม.ค.- มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนมีเมืองโบราณที่สร้างบนภูเขา โดยมีสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติทิเบต ยูนนานเดลี่เผยแพร่ภาพของเมืองโบราณดุคซง ที่ตั้งอยู่ในเมืองแชงกรีล่า แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบต-ตี๋ชิ่ง มณฑลยูนนาน คำว่า “ดุคซง” เป็นภาษาทิเบต หมายถึง “ปราสาทที่สร้างขึ้นบนหิน” เมืองโบราณแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกว่า “เมืองแห่งแสงจันทร์” สร้างขึ้นบนภูเขา โดยมีสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่มีความน่ารื่นรมย์ เป็นเมืองบนที่ราบสูงโบราณที่อุดมไปด้วยลักษณะของชนชาติทิเบต.-814(813).-สำนักข่าวไทย

ยูนนาน 4 ม.ค.- สื่อจีนรายงานว่า กระโปรงหม่าเมี่ยนเป็นแฟชั่นยอดนิยมในปี 2566 ของสาวจีนรุ่นใหม่ที่นำการแต่งกายที่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจีนมาปรับให้เข้ากับการแต่งกายสมัยใหม่ ยูนนานเดลี่รายงานอ้างเว็บไซต์ yicai และหนังสือพิมพ์จีนวีเมนส์เดลี่ว่า รายงานดัชนีการสื่อสารระหว่างประเทศประจำปี 2566 เกี่ยวกับสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจีนที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า ชุดจีนฮั่นฝูอยู่ในอันดับที่ 6 จาก 10 อันดับแรกของสัญลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมของจีน โดยได้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารทางวัฒนธรรมสมัยใหม่และสมัยโบราณ และทําให้เกิดกระแส “การแต่งตัวสไตล์จีน” แพร่สะพัดไปทั่วโลก ชุดฮั่นฝูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2566 คือ กระโปรงหม่าเมี่ยน เพราะหลอมรวมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์กับความเป็นแฟชั่นที่ทันสมัย พัฒนาผ้าไหมโบราณเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ปรับเปลี่ยนโทนสีจัดจ้านให้เป็นโทนสีกลางและสีเข้มทันสมัย รวมไปถึงความยาวของกระโปรงที่พอเหมาะ สามารถใส่ได้ในหลากหลายโอกาสมากขึ้น เหมาะกับความต้องการและรสนิยมของผู้หญิงสมัยใหม่ สตรีจีนจำนวนมากพากันสวมกระโปรงหม่าเมี่ยนและโพสต์บนโซเชียลมีเดียเพื่ออวดโฉมความงามของชุดฮั่นฝูขณะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ริมทะเลสาบซีหูในเมืองหางโจว พระราชวังต้องห้ามและเทียนถานในกรุงปักกิ่ง สวนสนุกถังพาราไดซ์ในเมืองซีอาน และในช่วงเทศกาลชอปปิ้งวันคนโสดจีน “11.11” ในปีนี้ แพลตฟอร์มชื่อดังอย่างเถาเป่าสามารถขายกระโปรงหม่าเมี่ยนได้มากกว่า 730,000 ตัว สามารถนำไปปูสนามฟุตบอลได้มากถึง 105 สนาม.-814(813).-สำนักข่าวไทย