เมืองไทยประกันชีวิต อัดฉีด 1.7 ล้านเทควันโดไทย “น้องเทนนิส”รับ 1 ล้านบาท

กรุงเทพฯ  17 ส.ค.64-นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้จัดพิธีมอบเงินสนับสนุนจำนวน 1.7 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองกีฬาเทควันโดในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 โตเกียวเกมส์ 2020 โดยมีนายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ อุปนายกและเหรัญญิก สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย นำคณะ “น้องเทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองเทควันโดในรุ่น 49 กก.หญิง,   ดร.เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย และนายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย  โดยการมอบเงินสนับสนุนจำนวน 1.7 ล้านบาท แบ่งเป็น พาณิภัค ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 จำนวน 1 ล้านบาท, โค้ช เช ยอง ซอก จำนวน 5 แสนลาท และ รามณรงค์ จำนวน 2 แสนบาท โดย นายสาระ ล่ำซำ ประธานฯ เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า ขอชื่นชอบในความสำเร็จของทีมเทควันโดทุกคนที่สามารถสร้างความสุขให้กับชาวไทย เมืองไทยประกันชีวิต ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยมาตลอดหลายปี ซึ่งผลงานการแข่งขันในระดับนานาชาติของกีฬาเทควันโดไทยสามารถคว้าเหรียญทองมาได้อย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า กีฬาเทควันโดได้รับความนิยมอย่างสูงจากเยาวชนไทย และเชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องแน่นอน เมืองไทยประกันชีวิตขอเป็นกำลังใจให้และพร้อมจะสนับสนุนต่อไป  “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณ เมืองไทยประกันชีวิตอย่างมาก ที่มอบเงินสนับสนุนให้ นิส ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นเงินออมเพื่อใช้ในอนาคต และใช้ในการผ่อนบ้าน  ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้เป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยมาตลอดอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 13 ปี และยังได้สนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แก่สมาคมกีฬาเทควันโด แห่งประเทศไทยอีกเช่นกัน ซึ่งการสนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มนี้จะครอบคลุม ค่ารักษาพยาบาล และค่าประกันอุบัติเหตุทุกครั้งที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมและเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วย ในโรงพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งสาคัญสาหรับกีฬาประเภทต่อสู้ ซึ่งตนขอเป็นตัวแทนนักกีฬาเทควันโด ขอบคุณคุณสาระ ล่ำซำ   “จากนี้ไปคงต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดี เพื่อเตรียมตัวกลับมาฝึกซ้อมต่อเพื่อไปแข่งขันรายการต่างๆในปีหน้า โดยตนตั้งเป้าจะคว้าแชมป์ให้มากที่สุด  ซึ่งปีหน้าจะมุ่งมั่นคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ รวมทั้งเอเชียนอินดอร์ แอนด์มาร์เชียลอาร์ต ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และรายการใหญ่ๆอีกหลายรายการ โดยจะรักษาสถิติไม่แพ้ใครให้ยาวนานที่สุด และยังคงยืนยันคำเดิมว่าจะไปรักษาแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศสให้ได้” พาณิภัค กล่าว

“บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร นักตบสาวไทย ขอโทษหลังแชร์ข้อความเกี่ยวการเมือง

17 ส.ค.64- “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย หลังจากได้แชร์โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ด้วยความเป็นห่วงประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนา และมีการยกตัวอย่างสถานการณ์ในประเทศเมียนมาลงทางไอจีสตอรี่ bbbumbimbim จนทำให้กลายเป็นกระแสดรามาตีกลับ จนต้องโพสต์ไอจีขอโทษแฟนวอลเลย์ สื่อมวลชน ละผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงในไอจี. “สรุปใจความ…ว่าตัวเองไม่ได้เขียนข้อความ แต่ได้ใช้ฟังชันก์แชร์โพสต์ข้อความลงในสตอรี่เท่านั้น ไม่ได้ต่อเติมเสริมแต่งข้อความใดๆ รวมถึงรูปภาพเพิ่มเติมเข้าไปแต่อย่างใด ด้วยเจตจำนงที่เป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมืองในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่ได้ติดตามตลอดระยะที่ผ่านมา โดยไม่เจตนาอันหนึ่งอันใดที่ไม่ดีกับบ้านเมืองแต่อย่างใด และไม่ต้องการจะส่งเสริมหรือสนับสนุนให้เกิดความขัดแย้งใดๆ และได้ลบแชร์นั้นออกจากไอจีสตอรี่ไปแล้ว และขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ จากการกระทำของบุ๋มบิ๋มครั้งนี้”-สำนักข่าวไทย

“น้องแพตตี้” สร้างชื่ออีกครั้ง! คว้าแชมป์เทนนิสที่3ศึกคอร์ตดิน-ลุ้นซิวตั๋ว”จูเนียร์ ยูเอส โอเพ่น”

โปแลนด์ 16 ส.ค.64- “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช นักหวดดาวรุ่งไทย วัย 17 ปี ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานบนแผ่นดินยุโรปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในการแข่งขันเทนนิสเยาวชน ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ เก็บคะแนนสะสมอันดับเยาวชนโลกรายการ “เจ ทรี คราคอฟ 2021” เกรด 3 แข่งขันคอร์ตดิน ที่ประเทศโปแลนด์ ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ พิมพ์รดา มืออันดับ 94 เยาวชนโลก ดีกรีทีมชาติไทยชุดใหญ่ และเป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ สามารถโชว์ฟอร์มได้สมราคาเต็งแชมป์ หวดเอาชนะ อิริน่า บาลุส จากสโลวาเกีย มืออันดับ 312 เยาวชนโลก ไปได้ 2-0 เซต 6-3 และ 6-0 จากชัยชนะ ทำให้ พิมพ์รดา คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวไปครองได้สำเร็จ พร้อมเก็บคะแนนสะสมอันดับเยาวชนโลกเพิ่มอีก 100 คะแนน สำหรับแชมป์นี้นับเป็นการคว้าแชมป์รายการที่ 3 ในระหว่างปักหลักแข่งขันอยู่ที่ประเทศโปแลนด์ 3 สัปดาห์ โดยรายการแรก “เจ ทรี พอซนัน” ได้แชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งนับเป็นการได้แชมป์คอร์ตดินเป็นครั้งแรกของเจ้าตัว ต่อมารายการที่สอง “เจ ทรี โซบาต้า” ได้แชมป์ประเภทหญิงคู่ และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ในประเภทหญิงเดี่ยว  หลังจากนี้ พิมพ์รดา จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสเยาวชน รายการ เจ วันคอลเลจ ปาร์ค “ปริ๊น จอร์จ คันทรี อินเตอร์เนชั่นแนล ฮาร์ดคอร์ต ไอทีเอฟ” เกรด 1 ระหว่างวันที่ 23-28 ส.ค.2564 และหาก “แพตตี้” สะสมคะแนนอันดับเยาวชนโลกได้เพียงพอ ก็อาจได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิส ยูเอส โอเพ่นประเภทเยาวชน รายการ “ยูเอส โอเพ่น จูเนียร์ เทนนิส แชมเปี้ยนชิพส์ 2021” หรือ จูเนียร์ ยูเอส โอเพ่น ระหว่างวันที่6-11 ก.ย.2564 ที่นิวยอร์ก “แพตตี้” กล่าวว่า ดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์ได้ ยอมรับว่าคอร์ตดินเล่นยากมาก แต่ได้รับคำแนะนำจาก “พี่ปิ๊ก” ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค อดีตนักเทนนิสทีมชาติ และมือ 1 ของไทย รวมถึงโค้ชส่วนตัว “โค้ชหนึ่ง” ก้องภพ เลิศชัย จึงทำให้ตนสามารถเล่นได้ การคว้าแชมป์ครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกฝ่ายที่ทำให้ได้มาแข่งขันที่ต่างประเทศตามความฝัน เพื่อลุ้นได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับจูเนียร์ แกรนด์สแลม ขอบคุณ ปตท., สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ, บริษัท ซีพีพีซี จำกัด (มหาชน), บริษัท อเวนโก้ซอฟต์ จำกัด, สแมท อิท เทนนิส อะคาเดมี่ และโยเน็กซ์ รวมทั้งขอบคุณ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ รวมถึงคนไทยในโปแลนด์ ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ทำให้ไม่รู้สึกเหงาแม้เป็นการเดินทางมาแข่งขันเพียงลำพัง-สำนักข่าวไทย

“เขี้ยวสมุทร” พร้อมปล่อย “ธีระพล เยาะเย้ย” หากข้อเสนอเหมาะสม

16 ส.ค.64-“เอี้ยง”ธีระพล เยาะเย้ย กำลังได้รับความสนใจจากหลายสโมสรที่ยื่นข้อเสนอให้บอร์ดบริหาร “เขี้ยวสมุทร”สมุทรปราการ ซิตี้ พิจารณาก่อนตัดสินใจ โดยบอร์ดบริหารสโมสรยังหวังที่จะรั้งตัวแนวรุกวัย 26 ปีรายนี้ต่อแต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่หลายทีมยื่นเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ตอนนี้ “ธีระพล เยาะเย้ย” กำลังเป็นที่สนใจของหลายสโมสร โดยเฉพาะทีมในระดับหัวตารางไทยลีกที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบอร์ดบริหารเตรียมที่จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากได้รับข้อเสนอที่ยากจะปฎิเสธ เพราะสโมสรฯ ไม่ปิดกั้นโอกาสของนักเตะ หากได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดกับตัวนักเตะ ทีมก็พร้อมปล่อยตัว-สำนักข่าวไทย

ทรู แบงค็อกฯ ปิดดีลใหญ่คว้า “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” ร่วมทัพ

16 ส.ค. – ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปฏิบัติการเสริมทัพสมคอนเซ็ปต์ฤดูกาลใหม่ “NEVER SAY NEVER : อย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้” หลังเซ็นสัญญาคว้าตัว “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” กองกลางทีมชาติไทยจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวยอมรับสุดตื่นเต้นกับความท้าทายครั้งใหม่ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ของ “โค้ชแบน” กับการพาทีม “แข้งเทพ” คว้าแชมป์ให้ได้ เจ้านิวให้สัมภาษณ์ถึงการย้ายทีมในครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากครับ กับความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพการค้าแข้งของผม อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ทรู แบงค็อกฯ เป็นทีมใหญ่ และยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆเลย ฉะนั้นผมย้ายมาที่นี่ก็อยากจะมีส่วนในการพาสโมสรประสบความสำเร็จครับ อย่างแรกผมคงต้องซึมซับและปรับตัวเข้ากับทีมให้ได้เร็วที่สุด เพราะทีมมีระบบการเล่นที่ดีอยู่แล้วและมีนักเตะที่อยู่ด้วยกันมานาน ผมเองต้องเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาทีม ไม่ใช่ทีมปรับตัวเข้าหาผม ฉะนั้นหลังจากนี้ก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองมีความพร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่ครับ” ฐิติพันธ์เคยร่วมงานกับ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน มาแล้วสมัยที่อยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016 แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่เขาก็ประทับใจกับแนวทางการทำทีมของกุนซือวัย 49 ปีรายนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าตัดสินใจได้ไม่ยากกับการย้ายมาค้าแข้งในถิ่นทรู สเตเดียม “พี่แบนเป็นโค้ชที่มีรูปแบบแท็คติกสมัยใหม่ครับ ทำให้นักเตะมีความกระหายที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมเคยร่วมงานกับพี่แบนตอนที่อยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่จะย้ายไป สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ดก็รู้สึกดีใจครับที่จะได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง แน่นอนว่าก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจในครั้งนี้ครับ” การย้ายข้ามฟากจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาสู่ทีมร่วมเมืองอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในครั้งนี้เป็นรูปแบบการยืมตัวจนถึงสิ้นสุดปี 2021 หลังจากนั้นเจ้าตัวได้จรดปากกาเซ็นสัญญาต่อเนื่องกับทีม “แข้งเทพ” ไปอีก 3 ปีครึ่ง จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/2025 สำหรับ “เจ้านิว” เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ปี 2010 ก่อนจะถูก สิงห์ เชียงรายยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทัพในช่วงกลางฤดูกาล 2016 โดยเจ้าตัวอยู่ในชุดที่พาทีม “กว่างโซ้งมหาภัย” คว้าชัยเหนือ ทรูแบงค็อกฯ ในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2017 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกันกับ “เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส” และ “วานเดอร์ หลุยส์” สองนักเตะ “แข้งเทพ” ในทีมชุดปัจจุบัน ในฤดูกาล 2018 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัวห้องเครื่องทีมชาติไทยรายนี้ไปร่วมทีม จากนั้นจึงได้ปล่อยให้เขาเดินตามความฝันในการไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่นกับ โออิตะ ทรินิตะ สโมสรในเจลีก 1 ในรูปแบบยืมตัวเป็นระยะเวลา1 ฤดูกาลในปี 2019 ก่อนจะกลับมาพาทัพ “เดอะ แรบบิท” คว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานในทีมชาติฐิติพันธ์สร้างชื่อจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจนได้รับฉายาว่า “Class of 2011” จากการแจ้งเกิดพร้อมๆกันของเหล่าดาวรุ่งตัวเทพหลายคนในยุคนั้น ก่อนจะต่อยอดไปสู่การเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน23 ปี ด้วยผลงานการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ในปี 2013 และ 2015 และก้าวสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเต็มตัวด้วยการเป็นแข้งตัวหลักในชุดที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ในปี 2017 ต่อเนื่องมาจนถึงชุดล่าสุดที่ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา-สำนักข่าวไทย

แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานสโมสรบาเยิร์น มิวนิคและทีมชาติเยอรมนี เสียชีวิต

เยอรมนี 15 ส.ค.64-สโมสรบาเยิร์นมิวนิค แถลงการณ์ว่า สโมสรและแฟนๆ ทุกคนต่างไว้อาลัยให้กับการเสียชีวิตของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่เสียชีวิตในเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยวัย 75 ปี  สำหรับ มุลเลอร์ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมนี  โดยทำประตู 566 ประตู จาก 607 นัดในการแข่งขันให้กับบาเยิร์น มิวนิค และยังคงรักษาสถิติการทำประตูมากที่สุดในศึกบุนเดสลีกา ด้วย 365  ประตู รวมทั้งเป็นผู้ทำประตูสูงสุด 7 ครั้ง จากการลงสนามในลีก 427 นัด  ส่วนการทำประตูในทีมชาติ ยิงไป 68 ประตู จากการลงเล่น 62 นัดให้กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก รวมถึงประตูชัยในฟุตบอลโลกปี 1974 นัดชิงชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีสื่อดังในยุโรป ทั้ง BBC,MSPORT,ESPN,SKYNEWS ได้ลงข่าวBREAKINGNEWS เป็นข่าวด่วน-สำนักข่าวไทย

“ทีมว่ายน้ำพาราไทย” หวัง “ฉลามชาคร” ส่วน“น้องปิ่น” เงือกดาวรุ่ง ขอสู้เต็มที่

12 ส.ค.64-ทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย ซึ่งได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ทั้งสิน 4 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 3 คน คือ ชาคร แก้วศรี, ภูชิต อิงชัยภูมิ, วรวิทย์ คำแก้ว และ นักกีฬาหญิง 1 คน คือ อัญชญา เกตุแก้วโดยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สระว่ายน้ำ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก​ “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่ ด้าน พญ.พรระวี เพียรผดุงรัชต์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทยว่า ที่ผ่านมานักกีฬาได้เก็บตัวฝึกซ้อมภายใต้โครงการ โรด ทู โตเกียว มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จบ พาราลิมปิกเกมส์ 2016 เลยทันที ทำให้นักกีฬาทุกคนถือว่ามีความพร้อมความพร้อมเต็มที่ และทุกคนกระหายอยากลงแข่งขันแล้ว เพราะที่ผ่านมานักกีฬาของเราไม่สามารถออกไปแข่งขันในรายการต่างๆ ได้เลยในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 “ส่วนเป้าหมายของทีมว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย โดยเฉพาะ นักกีฬาชายของเราทั้ง 3 คน ถือว่ามีโอกาสลุ้นเหรียญด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชาคร แก้วศรี, ภูชิต อิงชัยภูมิ และ วรวิทย์ คำแก้ว ที่ถือเป็นนักกีฬาที่มีแรงกิ้งติดอยู่ 1ใน10 ของโลก ซึ่งหากถึงวันแข่งขัน นักกีฬาเราสามารถผ่านรอบคัดเลือกไปได้ เราก็เชื่อมั่นว่าทุกคนมีโอกาสติดเหรียญรางวัล” หัวหน้าผู้ฝึกสอนว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับนักกีฬาความหวังของเราที่มีโอกาสติดเหรียญรางวัลพาราลิมปิกเกมส์หนนี้มากที่สุด คือ ชาคร แก้วศรี ในรายการกบ 50 ม. ชาย คลาส SB 2 เพราะในรายการนี้ถือเป็นรายการถนัดของ “ชาคร” และเขาอยู่ในอันดับ 4 ของโลกทำให้เราตั้งความหวังในรายการนี้ไว้สูงที่สุดและน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดด้วย ขณะที่ “น้องปิ่น” อัญชญา เกตุแก้ว เงือกสาวพาราดาวรุ่งทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองของตนเองแล้ว ทำให้ตั้งเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูง เพราะการได้ลงแข่งขันเพียงรายการเดียว คือ ฟรีสไตล์ 100 ม. และที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปฝึกซ้อมประเทศสหรัฐอเมริกาแต่โชคร้ายมีโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องกลับมาซ้อมที่ประเทศไทย อย่างไรก็ดีเราได้เทคนิคต่างๆมามากพอสมควร ทำให้ครั้งนี้ตนเองพร้อมสู้เพื่อทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ และมีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลให้ได้ “อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณ คณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย และคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ให้การสนับสนุน และผลักดันจนทำให้ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์อีกครั้ง และขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเต็มที่ สุดท้ายอยากขอกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยทุกคนช่วยเป็นกำลังให้กับทีมว่ายน้ำพาทีมทีมชาติไทย และนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยด้วยนะคะ” น้องปิ่น กล่าว สำหรับรายการที่นักกีฬาว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย ทั้ง 4 คน จะลงชิงชัยใน พาราลิมปิกเกมส์ 2020 มีดังนี้ ชาคร แก้วศรี ลงแข่งขัน 4 รายการ ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส S3, กบ 50 ม. ชาย คลาส SB2, กรรเชียง 50 ม. ชายคลาส S3 และเดี่ยวผสม 150 ม. ชาย คลาส SM3 ส่วนภูชิต อิงชัยภูมิ ลงแข่งขัน 3 รายการ ฟรีสไตล์ 100 ม. ชาย คลาส S5, ฟรีสไตล์ 200 ม. ชาย คลาส S5 และ ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส S5 ด้าน วรวิทย์ คำแก้ว ลงแข่งขัน 1 รายการ กบ 100 ม.ชาย คลาส SB4  และ อัญชญา เกตุแก้ว ลงแข่งขัน 1 รายการ ฟรีสไตล์ 100 ม. หญิง คลาส S9ค ทั้งนี้ทีมว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย จะออกเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 สำหรับทีมว่ายน้ำคนพิการไทย ถือเป็นกีฬาที่เคยประสบความสำเร็จในการแข่งขันพาราลิมปิก เกมส์ มาหลายสมัย โดยเริ่มจาก ในปี 1996 ที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา พนม ลักษณะพริ้ม คว้าเหรียญทองแดง ได้สำเร็จ ต่อด้วยปี 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย สมชาย ดวงแก้ว ทำ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ สายฝน แก้วศรี ได้เหรียญทองแดง จากนั้น ในปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สมชาย ดวงแก้ว ได้2 เหรียญเงิน และ อีก 2 เหรียญทองแดง จาก พนม ลักษณะพริ้ม, สานิตย์ สงค์นอก -สำนักข่าวไทย

“เมทินี” จอมทุ่มพาราสาวไทย พร้อมลุย พาราลิมปิก โตเกียว 2020

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.64-“อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนตาบอดทีมชาติไทย หนึ่งเดียวที่สามารถคว้าตัวเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ โรงเรียนบูรณะวิทย์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 โดยมี “โค้ชโต้ง” ภาคภูมิ​ เทียน​ทอง​ ผู้ฝึกสอนยูโดคนพิการทีมชาติไทย ความคุมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด โดย “โค้ชโต้ง” ภาคภูมิ​ เทียน​ทอง​ เปิดเผยถึงความพร้อมของ เมทินี วงษ์ชมภู ว่า นักกีฬาว่ามีความพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นแล้ว ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางปี 63 เมทินี มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ในเวลานี้สภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว “ส่วนความหวังจากที่ได้ออกไปแข่งขันในช่วงก่อนที่จะเกิดโควิดระบาด หากเทียบผลงานต้องบอกว่าเราสามารถสู้ได้กับทุกคน ทำให้เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เรามีโอกาสที่จะทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้เช่นกัน เพราะด้วยฝีมือและเทคนิคต่างเราไม่เป็นรองนักกีฬาชาติไหนเลย” “แต่ต้องยอมรับว่าเราโชคร้ายนิดหน่อย เนื่องจากในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เราไม่มีโอกาสไปเก็บคะแนนสะสมเพิ่ม ทำให้หลุดจากการเป็นมือวางในครั้งนี้ แต่เราเองก็ไม่หนักใจอะไรเพราะรู้ดีว่าพาราลิมปิกเกมส์ เจอใครหนักเหมือนกันทุกคน อย่างไรก็ดีคงต้องรอดูผลการจับสลากประกบคู่ในรอบแรก เราจะได้รู้ว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน” โค้ชโต้ง กล่าว ขณะที่ “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนพิการทีมชาติไทย เผยว่า ตนเองมีความพร้อมเต็มที่ ทั้งร่างกาย และจิตใจ ที่ผ่านมาได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างหนักเพื่อลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์โดยเฉพาะ และรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ “ส่วนเป้าหมายแน่นอนในใจลึกๆหวังถึงเหรียญทอง แต่ก็ไม่อยากกดดันตัวเอง ขอทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่าอย่างน้อยเราน่าจะมีโอกาสที่ติดเหรียญรางวัลไม่เหรียญใดก็เหรียญหนึ่ง และหวังว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะเป็นกำลังใจให้ด้วย และตนก็พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เช่นกัน” เมทินี กล่าวทิ้งท้าย สำหรับ “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู นักกีฬายูโดคนพิการทีมชาติไทย ที่มีดีกรีเป็นรองแชมป์เอเชีย 2 สมัย ในปี 2018 และ2019 และจะลงแข่งขันในกีฬายูโด พาราลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 52 กก.หญิง คลาส บี 1 โดยจะมีนักกีฬายูโดลงชิงชัยทั้งสิน 12 คน ซึ่งจะแข่งขันในระบบน็อคเอาท์ โดยในรอบแรก นักกีฬาคนใดแพ้จะตกรอบทันที แต่ถ้าชนะผ่านเข้ารอบสองได้ แล้วไปแพ้รอบที่สองจะไม่ตกรอบ ยังมีโอกาสลุ้นในรอบไต่อันดับเพื่อแย่งสิทธิ์เข้าไปชิงเหรียญทองแดงต่อไป โดย “อ๋อม” เมทินี วงษ์ชมภู และโค้ชจะออกเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564-สำนักข่าวไทย

“น้องเทนนิส”แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร

ฉะเชิงเทรา 12 ส.ค. – “น้องเทนนิส” แก้บนไข่ต้ม 1,200 ฟอง หลวงพ่อพระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.พร้อมคุณพ่อ สิริชัย ได้นำไข่ต้ม 1,200 ฟอง ไปถวายแก้บนหลวงพ่อพระพุทธโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารจ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้บนเอาไว้ ก่อนเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

”สมเด็จธงชัย” มอบชื่อ “ชัชชัย” แปลว่ามีชัยชนะที่มั่นคง ให้โค้ชเช

“โค้ชเช” หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ เข้ากราบนมัสการ สมเด็จธงชัย ที่วัดไตรมิตรฯ เพื่อขอใช้ชื่อไทยที่สมเด็จธงชัย มอบชื่ออันเป็นมงคลนามว่า “ชัชชัย” แปลว่า “มีชัยชนะที่มั่นคง” ให้กับโค้ชเช

“ศิวกร”มอบถังออกซิเจนแก่ มูลนิธิมาดามแป้ง สู้วิกฤตโควิด-19

กรุงเทพฯ  11 ส.ค.64- “ศิวกร จักขุประสาท” นักฟุตบอลสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. พร้อมด้วยครอบครัวจักขุประสาทส่งมอบถังออกซิเจนจำนวน 5 ถัง เพื่อใช้ในศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 แก่มูลนิธิมาดามแป้ง โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ หลังสูญเสียคุณยายจากไวรัสโควิด-19 ในช่วงสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “กัปตันกลิ้ง” ศิวกร จักขุประสาท เผยถึงความรู้สึกกับการบริจาคในครั้งนี้ว่า “ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิด-19 ระบาดไปทุกพื้นที่จนเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา กระทั่งต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อาม่าของผมได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 การบริจาคในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการทำบุญให้อาม่าแล้ว ยังเป็นการได้ร่วมช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า ถังออกซิเจนนั้นจำเป็นจริงๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ” ด้าน “มาดามแป้ง” ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ตอนนี้เราได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วย 4 มุมเมืองอยู่ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์จำเป็นเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต ความตั้งใจดีครั้งนี้จะเป็นกุศลครั้งใหญ่ที่ช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนอีกมากมาย” ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ สามารถบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเลขที่092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ หรือร่วมสมัครเป็นทีมอาสากล้าใหม่กับเราได้ที่ http://bitly.ws/dsfM-สำนักข่าวไทย.

“สุธี-สาคร” หวังสร้างผลงาน ทิ้งทวน หนสุดท้าย “พาราลิมปิกเกมส์”

นครราชสีมา 11 ส.ค.62- ทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ที่มีนักกีฬาได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์2020” จำนวน 3 คน ประกอบด้วย สุธี คลองรั้ว (ชายเดี่ยว) บรรจบ สุวรรณ (ชายเดี่ยว) และ สาคร ขันทะสิทธ์ (หญิงเดี่ยว) ทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา “สุธี คลองรั้ว” นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย ประสบการณ์สูงที่ผ่านพาราลิมปิกเกมส์มาแล้วถึง 4 สมัย เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า ในเวลานี้สภาพร่างกายรวมถึงสภาพจิตใจของตนเองถือว่าพร้อมแบบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ได้มีโอกาสเก็บตัวอย่างต่อเนื่องเต็มที่มากว่า 2 ปี และคิดว่าตัวเองพร้อมสำหรับพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งน่าจะเป็นสุดท้ายของตัวเองแล้ว” “ส่วนเป้าหมายในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ผมค่อนข้างตั้งใจ แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรสูง แต่ก็หวังจะสามารถทำผลงานให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว นั้นคือผ่านเข้าสู่รอบสองให้ได้เป็นอย่างน้อย เพราะในการแข่งขันระดับพาราลิมปิกเกมส์ต้องยอมรับว่าทุกคนถือเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถสูง แพ้ชนะกันได้หมด ซึ่งตนเองหวังจะไม่เจอมืออันดับโลกที่เป็นตัวเต็งในรอบแรก ก็จะทำให้เรามีโอกาสทำผลงานผ่านเข้ารอบต่อได้ง่ายขึ้น” ขณะที่ บรรจบ สุวรรณ นักวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย เผยว่า นี่เป็นพาราลิมเกมส์ครั้งแรกในชีวิต ทำให้ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย หวังเพียงแค่ว่าจะไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะพาราลิมปิกเกมส์เป็นแหล่งร่วมของนักกีฬาฝีมือดีแถวหน้าของโลก เลยไม่อยากตั้งความหวังให้กดดันตัวเองจนมากเกินไป แต่ก็จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถในฐานะตัวแทนคนไทย ด้าน สาคร ขันทะสิทธ์ นักวีลแชร์เทนนิสหญิงทีมชาติไทย ที่ผ่านมาพาราลิมปิกเกมส์มาถึง 5 สมัย นับตั้งแต่ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า จริงๆแล้วนี่คงเป็นพาราลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายแล้ว ทำให้ตนเองหวังที่จะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เหมือนกลับพาราลิมปิกเกมส์หนแรกในปี 2000 ที่เคยเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายมาแล้ว ทำให้ตนก็หวังว่าจะใช้ประสบการณ์จาก 5 ครั้งที่ผ่านมาเพื่อผลงานในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ “อย่างไรก็ดีในฐานะตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์เทนนิส พวกเราอยากขอบคุณ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยและคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ดูแลและสนับสนุนเราในทุกด้านเป็นอย่างดีตลอดมา ส่งผลให้พวกเราสามารถทำผลงานคว้าโควต้าไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง สุดท้ายอยากให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยไม่ใช่เฉพาะกีฬาวีลแชร์เทนนิส แต่รวมถึงนักกีฬาทุกประเภทด้วย และพวกเราจะทำหน้าที่ตัวแทนคนไทยในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน” สาคร กล่าว สำหรับทีมวีลแชร์เทนนิสทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย

1 74 75 76 77 78 103