ป.ป.ช.เพิ่มตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.-ป.ป.ช.เพิ่มตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เหตุสุ่มเสี่ยง แต่จะไม่เปิดเผย เก็บไว้ตรวจสอบเท่านั้น นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งลงนามโดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วันที่ 2 กันยายน 2563 เรื่องกำหนดตำแหน่งของเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 103 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ที่ระบุให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 (3) ประกอบมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยกำหนดให้ผู้ที่มีตำแหน่งดังต่อไปนี้ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตำแหน่ง รองเลขาธิการ , กรมการขนส่งทางราง ตำแหน่ง รองอธิบดี , กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สังกัด […]

“อนุชา” ตรวจหมู่บ้านรักษาศีล 5 สร้างความปรองดองสมานฉันท์

นครพนม 26 ก.ย.-“อนุชา” ตรวจเยี่ยมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่วัดสระพังทอง บ้านหนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม ขอทุกคนช่วยกันรักษาศีล ให้ประเทศสงบสุข ลดความขัดแย้ง นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ที่วัดสระพังทอง บ้านหนองสังข์ ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประธานกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ประจำจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายอนุชา กล่าวชื่นชมคณะสงฆ์ และประชาชนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ หมู่บ้านรักษาศีล 5 ให้ประสบผลสำเร็จ พร้อมกล่าวย้ำว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชน สังคม และประเทศชาติ โดยมีหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “เชื่อมั่นว่าโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ จะสามารถต่อยอดพัฒนาให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ สร้างความสงบสุขอย่างแท้จริง ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี ลดความขัดแย้งของสังคม หากทุกคนยึดมั่นในศีลในธรรม หวังให้หมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต ขยายครอบคลุมไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” […]

ชี้ม็อบ 19 ก.ย.ซ้ำเติมวิกฤติชาติ-ความเดือดร้อนประชาชน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.-ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจ พบประชาชนร้อยละ 89.9 ระบุ ม็อบ 19 กันยายน ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะที่ประชาชนร้อยละ 91.2 ระบุ ม็อบ 19 กันยายน ซ้ำเติมวิกฤติชาติและซ้ำเติมวิกฤติความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 91.2 ระบุควรลงโทษสูงสุด ยุบพรรคการเมืองที่มีนักการเมืองหนุนหลังการชุมนุมล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ม็อบ 19 กันยายน กับ การซ้ำเติม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,119 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.9 ระบุ ม็อบ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะที่ร้อยละ 10.1 ระบุไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ที่น่าเป็นห่วง คือ ส่วนใหญ่ร้อยละ […]

ยืนยันไทยสนับสนุนยูเอ็น ร่วมมือพัฒนาวัคซีนสกัดโควิด

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.-นายกฯ ยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการสนับสนุนสหประชาชาติ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.30 น.ของไทย ซึ่งตรงกับเวลา 16.30 น.ของวันที่ 25 กันยายน 2563 ตามเวลาท้องถิ่นนครนิวยอร์ค สหรัฐฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 75 ภายใต้หัวข้อหลัก “อนาคตที่เราอยากเห็น องค์การสหประชาชาติที่เราต้องการ : ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านพหุภาคี-เผชิญหน้ากับโรคโควิด-19 ผ่านแผนงานความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ” ทางระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีนี้โลกต้องประสบกับวิกฤติด้านสาธารณสุขจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ดังนั้นทุกประเทศต้องเชื่อมั่นในเรื่องของความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมส่งกำลังใจไปยังทุกประเทศทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับโควิด-19 ทั้งนี้รัฐบาลไทยมุ่งมั่นและตั้งใจยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ โดยจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยดำเนินมาตรการตามหลักของกฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ.2005 และแนวทางขององค์การอนามัยโลก รัฐบาลสนับสนุนแผนพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19 โดยเห็นว่าวัคซีนและยาสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ควรต้องเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลกที่ทุกประเทศได้รับสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งสหประชาชาติจำเป็นต้องมีบทบาทนำในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า […]

MEA เยี่ยมชมรถ E-bus เดินหน้าหนุน ขสมก. ดัดแปลงรถเมล์เก่าเป็นรถโดยสารไฟฟ้า

MEA พร้อมด้วยคณะ ฯ ติดตามความคืบหน้าโครงการการออกแบบและทดสอบการวิ่งรถบัสโดยสารไฟฟ้า E-bus หนุน ขสมก. ดัดเเปลงรถเก่าเป็นรถโดยสารไฟฟ้า

ผู้ปกครองแห่แจ้งความครูทำร้ายเด็กอนุบาล 1

25 ก.ย. – กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนหลายรายเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศุภกร แสงจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับครูจุ๋ม ครูประจำชั้นอนุบาล 1 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ทำร้ายเด็กนักเรียนลูกๆ ของตนเองในชั้นเรียน ทำให้เด็กนักเรียนหลายคนเกิดความกลัวครูคนนี้จนไม่อยากจะไปเรียนหนังสือแล้ว.ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเด็กถูกทำร้ายเผยให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ก.ย.63 เวลา 10.00-12.00 น. ขณะครูจุ๋มกำลังทำร้ายนักเรียนหลายคนในห้องต่อหน้าครูอีกหลายคนที่เห็นแต่ไม่ห้ามปราม โดยเป็นภาพครูจุ๋มตบหัวเด็กจนล้ม ภาพจิกหัวเด็กและจับหัวโขกกับโต๊ะเรียน ภาพใช้มือบิดหูเด็กที่ร้องด้วยความเจ็บปวด.แม่ของน้องคนที่โดนจับศีรษะโขก เปิดเผยว่า รู้สึกแปลกใจที่ลูกตนเองนอนไม่หลับกระวนกระวาย มักถามเสมอว่าต้องไปโรงเรียนเหรอ หนูไม่อยากไปโรงเรียน สังเกตเห็นเด็กเจอครูจุ๋มแล้วกลัวมาก มารู้ว่าครูจุ๋มทำโทษลูกตามที่เห็นในคลิปเลย.นายโชติพงศ์ หาญขจรสุข อายุ 41 ปี ผู้ปกครองอีกราย กล่าวว่า ลูกตนเองกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียน เห็นตึกอาคารเรียนยังผวา ตนไม่เข้าใจว่าครูจุ๋มทำร้ายเด็กขนาดนี้ต่อหน้าครูอีกหลายคนในห้องโดยไม่ห้ามปรามได้อย่างไร ตนเองจะขอดูกล้องจากโรงเรียนย้อนหลังว่าการทำร้ายแบบนี้กับเด็กคนไหนบ้าง และจะรอคำตอบจากโรงเรียน แต่ก่อนอื่นต้องไม่มีครูคนนี้และเพื่อนครูที่อยู่ในห้องมาสอนเด็กอีก และอยากให้นักจิตวิทยามาเยียวยาจิตใจเด็ก ๆ เหล่านี้ .- สำนักข่าวไทย

MEA คว้า 5 รางวัลเหรียญทอง “อาคารราชการต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสีย”

MEA เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติโครงการ “อาคารราชการต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสีย” จากรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

JICA ชูไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน

กทม. 25 ก.ย.63 – องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมกับ JICA จับมือสานต่อยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดยศูนย์วิชาการนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ Japan International Cooperation Agency หรือ JICA แถลงผลความสำเร็จโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน ระยะที่ 3  เตรียมมุ่งสู่การเป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน หรือ Knowledge Hub ที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างเครือข่ายวิชาการระหว่างประเทศผ่าน 6 หลักสูตรระดับสากลโดยมี 10 ชาติอาเซียน ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมแล้ว 562 ราย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่าโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน  ได้รับการสนับสนุนจาก JICA  ในการพัฒนาหลักสูตร โดยมีเจ้าหน้าที่ JICA และผู้เชี่ยวชาญได้มาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรที่จะถ่ายทอดให้กับคนในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้เราได้รับความรู้เข้าใจถึงหลักการเรื่องก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด รวมถึงวิธีการบริหารจัดการต่าง ๆ ในการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในในระยะที่ 3 TGO จะต่อยอดโครงการทำให้เป็นหลักสูตรด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้  รวมถึงยังต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงานระหว่างประเทศเข้ามาบูรณาการร่วมด้วยทำให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารจัดการของศูนย์CITC ต่อไปในอนาคต

สหกรณ์สวนยางฝ่าวิกฤติโควิดผลิตถุงมือยางป้อนตลาด

ชุมพร 25 ก.ย. – การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารากลุ่มเกษตรกรในหลายจังหวัด แต่สหกรณ์กองทุนสวนยางสมบูรณ์พัฒนา ใน จ.ชุมพร พลิกวิกฤติเป็นโอกาสหันมาผลิตถุงมือยาง ซึ่งมีความต้องการมากเพื่อใช้ป้องกันโควิด-19 ทดแทนรายได้ที่หายไป จะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน .- สำนักข่าวไทย

ผลกรรมจากการทุจริตบัตรทอง กลับมาตกกับประชาชน

25 ก.ย. – ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยพาไปชมการทุจริตบัตรทอง ที่ประชาชนต้องเป็นผู้รับกรรม ตั้งแต่การเปลี่ยนสถานพยาบาล การรอคิวยาวนาน ไม่มีลูกหลานมาด้วย วันนี้ คุณสันติวิธี พรหมบุตร ไปที่สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ดูการลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพ ส่วนใหญ่พบว่า เป็นวัยกลางคนขึ้นไป ผู้สูงอายุมีจำนวนมาก และมักเป็นกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ต้องไปพบแพทย์เป็นประจำ จึงต้องรีบมาลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาล เพราะไม่มีความมั่นใจว่า หากไม่ได้เลือกสถานพยาบาล จะสามารถเข้าไปรับการรักษาในโรงพยาบาลอื่นตามที่ เลขา สปสช. ยืนยันได้หรือไม่ ปัญหาที่ประชาชน สะท้อนผ่านคุณสันติวิธี มีหลายเรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องการรอคิวที่ยาวนาน บางคนมาตั้งแต่เช้า ได้รับบัตรคิวแล้ว แต่ต้องรอจนถึงเที่ยง ก็ยังไม่ได้ดำเนินการลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ประชาชนหลายคนสะท้อนตรงกันว่า เพราะเจ้าหน้าที่ สปสช. ที่มาดำเนินการมีน้อยเกินไป ทำให้ต้องรอกันหลายชั่วโมง และหลายคนเป็นผู้สูงอายุ ไม่มีลูกหลานมาด้วย ทำอะไรเองไม่ค่อยได้ น่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำช่วยเหลือให้มากกว่านี้ เช่น การกรอกเอกสาร ประชาชนบางคนมาจากเขตอื่นที่ไม่ใช่เขตบำรุงราษฎร์ ตอนแรกไม่รู้ คิดว่าที่เขตที่ตัวเองอาศัยอยู่จะดำเนินการให้ เพราะปกติจะมีโต๊ะติดต่อราชการของ สปสช. อยู่ด้วย แต่เมื่อไปถึง ได้รับคำตอบว่า ถ้าจะลงทะเบียนเปลี่ยนสถานพยาบาล ต้องมาที่เขตบำรุงราษฎร์ ยิ่งทำให้เสียเวลา […]

กรมเจ้าท่าพร้อมพัฒนาเรือไฟฟ้าและท่าเรืออัจฉริยะ

สมุทรปราการ 25 ก.ย. – กรมเจ้าท่า เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเรือยนต์ไฟฟ้า และท่าเรืออัจฉริยะ หวังยกระดับการเดินเรือไทยให้มีความปลอดภัย และไร้มลพิษ กรมเจ้าท่า เปิดงานวันทางทะเลโลกปี 2563 ส่งเสริมอุตสาหกรรมพาณิชยนาวี และการพัฒนาที่ยั่งยืนของการขนส่งทางทะเล ขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ณ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี จังหวัดสมุทรปราการ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันทางทะเลโลกประจำปี 2563 ในปีนี้ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องของการพาณิชยนาวีที่ยืนยงเพื่อโลกที่ยั่งยืนหรือ (Sustainable Shipping for a Sustainable Planet) ตามข้อกำหนดขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO ที่กำหนดให้สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนของทุกปีเป็นวันทางทะเลโลก หรือ World Maritime Day  กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อแสดงเจตนารมณ์ ที่มุ่งเน้นการลดมลพิษจากเรือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาพาณิชนาวีที่ยั่งยืน โดยการขนส่งทางทะเลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกทั้งนี้ร้อยละ 90 ของการค้าระหว่างประเทศได้ถูกขนส่งผ่านทางเรือเดินทะเลไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกด้วยต้นทุนการขนส่งที่ประหยัด ช่วยให้ผู้คนในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก สามารถเข้าถึงแหล่งสินค้า อาหาร และวัตถุดิบพื้นฐานที่จำเป็น ช่วยสร้างงานและสร้างรายได้  ซึ่งการขนส่งทางทะเลยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน ในปีนี้ IMO ได้กำหนดให้เป็นปีเริ่มต้นของทศวรรษการดำเนินงานและการส่งมอบงานตามเป้าหมายวาระปี 2030 ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติในภาคการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยได้ร่วมมือกับคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม แห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก หรือ ยูเอ็นเอสแคป (UNESCAP)  อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า ยังได้จับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาเรือโดยสารขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะแก่ประชาชน ทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองแสนแสบ และคลองอื่น ๆ ในกรุงเทพและปริมณฑล อำนวยความสะดวกในการเดินทาง เป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหามลพิษทางน้ำ ทางอากาศและมลพิษที่เกิดจากเสียงของเครื่องยนต์เรือ สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ปี 2020 เป็นปีเริ่มต้นของการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ (Sustainable Shipping for a Sustainable Planet) กรมเจ้าท่าได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินนโยบาย IMO ต้องผ่าน น่านน้ำไทยต้องปลอดภัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยการพัฒนานวัตกรรมเรือไฟฟ้า ที่กรมเจ้าท่าจะเป็นผู้กำกับมาตรฐาน และทิศทางการพัฒนาเรือไฟฟ้าในประเทศ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชนเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ทั้งด้านการใช้เทคโนโลยีการประกอบสมัยใหม่ตามมาตรฐานที่กำหนด พัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า อีกทั้งอำนวยความสะดวกด้านหลักเกณฑ์ข้อกำหนด เงื่อนไข กฎหมาย ในการตรวจเรือไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะนำมาใช้ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานระบบการขนส่งทางน้ำ และการพาณิชยนาวีของประเทศไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงให้กับภาคการขนส่งทางน้ำของประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาท่าเทียบเรือ ให้เป็นท่าเทียบเรือเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการกำกับมาตรฐาน และทิศทางการศึกษาวิจัยและพัฒนาท่าเรือให้มีความทันสมัย ปลอดภัยไร้มลพิษ เป็น ท่าเรืออัจฉริยะ เช่น การเพิ่มพื้นที่หลังท่าเรือให้เป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมการนำระบบผลิตไฟฟ้า ด้วยพลังแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ โดยภายในงานยังมีกิจกรรมร่วมกับเยาวชนเที่ยวเยี่ยมชมอาคารเครื่องมือฝึกจำลอง (Simulator) และเรือเด่นสุทธิ(เรือขจัดคราบน้ำมัน) และการจัดแสดงนิทรรศการจากส่วนราชการและผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลอีกด้วย

ข่าวเด่นประเด็นร้อน : จอดซากรถทิ้งไว้ โดนแน่!

กทม.เอาจริงเดินหน้าจับปรับเจ้าของซากรถยนต์ที่จอดทิ้งริมถนน หากไม่มีเจ้าของแสดงตัวให้รถมาลากทันที แถมยังเปิดให้คนแจ้งเบาะแสซากรถเพื่อรับส่วนแบ่งค่าปรับถึง50%

1 225 226 227 228 229 440