วอชิงตัน 25 มิ.ย.- การเมืองอเมริกันร้อนแรงมาตลอดหลายปี ร้อนแรงขนาดที่เผชิญหน้าห้ำหั่นกัน สังคมแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายหนักมากขึ้น ตามปรากฎการณ์ที่เกิดขี้นในหลายประเทศโดยที่สหรัฐเป็นตัวอย่างสำคัญ
ดีกรีความร้อนแรงสะท้อนออกมาที่การจัดดีเบต หรือ เวทีประชันวิสัยทัศน์ ที่ปกติจะจัดกัน 2 รอบหลังจากที่ประกาศตัวแทนพรรคในชิงชัยอย่างเป็นทางการไปแล้ว นั่นคือหลังเดือนกรกฎาคม เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้รับฟังและชั่งใจก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
แต่ปรากฎว่าปีนี้ ดีเบตยกแรกมาเร็วกว่าปกติ รอบแรกเป็นวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายนนี้ เป็นการประดาบในศึกล้างตาระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ผู้พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีก่อนให้แก่นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสมัยบารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44
ทำไมจัดดีเบตกันเร็วกว่าปกติ
จากปกติที่จัดดีเบตกันช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ครั้งนี้มาจัดกันในเดือนมิถุนายน แบบนี้ถือว่าเร็วที่สุดในรอบกว่า 60 ปี และเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมธิการดีเบตประธานาธิบดี หรือ Commission on Presidential Debates (CPD) ไม่ได้เป็นผู้จัด
สาเหตุหลักเพราะในการดีเบตสองครั้งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ที่คู่ต่อสู้ทั้งสองเผชิญหน้ากันนั้น มีปัญหาคาใจมากมาย ทำให้ครั้งนี้นายไบเดนท้าดวลแบบใหม่ด้วยเหตุผลว่า
1. CPD จัดดีเบตที่ผ่าน ๆ มามุ่งเน้นสร้างสีสันจากการเผชิญหน้า ไม่ใช้ประชันวิสัยทัศน์ด้วยเหตุผลและข้อมูล
และ 2. ดีเบตแบบเดิมๆที่ผ่านมาจัดช้าเกินไป เพราะในบางรัฐมีการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว ผู้ใช้สิทธิ์มากมายจึงไม่ได้รับชมเพื่อการตัดสินใจ
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายไบเดนจึงได้ส่งคำท้าให้จัดดีเบตกันเร็วขึ้น ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงฝ่ายนายทรัมป์ประกาศรับคำท้า จนเป็นที่มาของศึกดีเบตล้างตาแบบด่วนพิเศษนี้แล
เวลา สถานที่ และ รูปแบบดีเบต
ดีเบตครั้งนี้ CNN รับเป็นเจ้าภาพ จัดขี้นที่นครแอตแลนต้า สำนักงานใหญ่ของสำนักข่าวยักษ์ใหญ่แห่งนี้ โดยจะถ่ายทอดสดทางสถานีและเว็บไซต์ต่าง ๆ ของ CNN ส่วนผู้ดำเนินรายการจะเป็นการจับมือกันระหว่างมือเก๋าข่าวการเมืองของสถานี เจค แท็ปเปอร์ (Jake Tapper) และดานา แบช (Dana Bash)
กฎเกณฑ์การดีเบตเป็นอย่างไร?
การดีเบตนี้จะใช้เวลารวม 90 นาที รวมถึงช่วงคั่นโฆษณา 2 ครั้ง
ทุกรายละเอียดมีความสำคัญดังนั้นจึงใช้วิธีโยนเหรียญเพื่อกำหนดว่า ใครใช้โพเดียม ตัวไหนบนเวที และ ใครจะได้กล่าวปิดท้ายก่อนหลัง ปรากฎว่า นายไบเดนชนะได้เลือกตำแหน่งโพเดียมด้านขวาของหน้าจอโทรทัศน์ ส่วนนายทรัมป์ได้ด้านซ้าย แต่นายทรัมป์จะถือความได้เปรียบเรื่องปราศัยปิดท้าย ได้สิทธิ์กล่าวสรุปปิดจบ
ในระหว่างการดวลวิวาทะ คู่แข่งจะไม่สามารถติดต่อใดๆกับทีมงานหาเสียงของตนได้ แม้แต่ในช่วงพัก บนเวทีจัดให้มีเพียงปากกา สมุดจด และ ขวดน้ำ เท่านั้น ห้าม นำบันทึก เอกสาร หรือ อุปกรณ์ใด ๆ ขึ้นบนเวที
กฎเกณฑ์สำคัญที่ต่างไปจากครั้งก่อน ๆ คือ ไมโครโฟนของแต่ละคนจะเปิดเฉพาะเมื่อถึงเวลาพูดของแต่ละคนเท่านั้น แน่นอนนี่เป็นข่าวดีของนายไบเดน และ เป็นข่าวร้ายของนายทรัมป์ ผู้ที่ได้ชื่อว่ามีความดุดันและมักใช้กลยุทธ์สกัดคู่ต่อสู้ด้วยวาทะที่เผ็ดร้อนขัดจังหวะ จนถูกกล่าวหาว่าเป็นจอมก่อกวนบนเวที ไม่เคารพสิทธิของคู่ต่อสู้ ซึ่งผู้ที่เคยต่อกรกับเขารู้ดี (ลองไปถามฮิลลารี คลินตันดู)
ยิ่งไปกว่านั้น จุดที่แตกต่างอีกด้านคือ ภายในสถานที่ปราศัยจะว่างเปล่าไร้ผู้ชม ซึ่งทาง CNN ประกาศเป้าหมายว่าต้องการให้เป็นการโต้วาทีที่มีอารยะ
ก่อนระฆังดัง ทั้งสองโหมโรงกันมาอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวรายงานว่า นายไบเดน เจ้าของตำแหน่งซุ่มซักซ้อมกับบรรดาที่ปรึกษาที่แคมป์เดวิด อาวุธหลักที่จะใช้คือ บาดแผลของนายทรัมป์เรื่องบั่นทอนประชาธิปไตย ที่เห็นได้จากการปลุกปั่นจลาจลรัฐสภาและปัญหาข้อกฎหมายมากมายที่ตามเล่นงานคู่แข่งอยู่ โดยจะลับอาวุธให้แหลมคมเพื่อทิ่มแทงคู่ต่อสู้ให้ได้แผลลึกยิ่งขึ้น อาจจะมีอาวุธลับซึ่งก็หนีไม่พ้นความรับผิดรับชอบจากผลกรรมที่ทำไว้ โดยน่าจะเป็นเรื่องคดีอาญาที่ทำให้นายทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีอาญาจากกรณีจ่ายเงินปิดปากนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่เมื่อไม่นานมานี้
ฝ่ายนายทรัมป์ ได้นำขุนพลของรีพับลิกัน ต่อแถวเข้าจับเข่าคุย ซึ่งทีมหาเสียงบอกว่าเป็นการหารือด้านนโยบายแบบไม่เป็นทางการ ถกกันเรื่องนโยบายสำคัญ ๆ อย่างสิทธิทำแท้งและอาชญากรรม ให้ข้อมูลนายทรัมป์ไปใช้บนเวที แม้กระนั้นทุกเวทีที่ผ่านมา นายทรัมป์แสดงให้เห็นว่า อาวุธหนักของเขามักเป็นเรื่องตัวบุคคล บุคลิกและจุดอ่อน ที่เขาพร้อมระเบิดให้กลายเป็นแผลใหญ่ได้อย่างสาหัส ที่สำคัญนายทรัมป์คงไม่พลาดที่นำกรณีนายฮันเตอร์ ไบเดนบุตรชายของคู่แข่งที่เพิ่งถูกพิพากษามีความผิดกรณีครอบครองอาวุธปืนขึ้นมาโจมตีผู้เป็นพ่อแน่นอน
สำหรับคดีนายทรัมป์ซึ่งเป็น 1 ใน 4 คดีอาญาที่เขาเผชิญ ศาลนัดวันกำหนดโทษคดีเงินปิดปาก วันที่ 11 กรกฎาคม ตามความผิด 34 กระทงนั้นผู้พิพากษาสามารถตัดสินจำคุกได้ แต่กูรูผู้รู้เชื่อว่า ด้วยความที่เป็นอดีตประธานาธิบดี และเป็นความผิดอาญาครั้งแรก ไม่น่าถึงขั้นจำคุก ต่อจากนั้นอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่จะประกาศให้เขาเป็นตัวแทนพรรคชิงทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ
อเมริกามีทางเลือกแค่สองผู้เฒ่าเช่นนั้นหรือ?
อเมริกามีทางเลือกเสมอในแทบทุกการเลือกตั้ง สำหรับผู้ที่เบื่อหน่ายสองพรรคใหญ่ รีพับลิกัน และ เดโมแครต ยิ่งครั้งนี้เป็นคู่ชิงเดิมจึงยิ่งบ่นอุบกันว่า เรามีตัวเลือกแค่นี้เองหรือ?
รอบนี้มีตัวเลือกที่สามที่มาแรงคือ ทายาทตระกูลนักการเมืองดัง คือ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ (Robert F. Kennedy Jr.)
แต่สำหรับการดีเบต เขาถูกสกัดด้วยกฎเกณฑ์เงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่สามารถขึ้นเวทีได้ หนึ่งในนั้นคือต้องได้รับคะแนนนิยมในโพลหลักๆ 4 โพล อย่างน้อยร้อยละ 15
เจ้าตัวจึงประณามอย่างหัวเสียว่า ถูกนายไบเดน และ นายทรัมป์ รวมหัวกับ CNN กีดกันเขาใช้วิธีขัดหลักประชาธิปไตย ขวางแนวทางอเมริกันชน และ ขี้ขลาดตาขาว
ใครจะไปรู้ ถึงวันเลือกตั้งจริง RFK Jr. อาจเป็นตัวแปรดึงเสียงจากผู้เฒ่าทั้งสองอย่างมีนัยสำคัญ จนส่งผลต่อการแพ้ชนะได้
Final Thoughts: จับจ้องสองผู้เฒ่า ใครจะเฉิดฉายหรือร่วงโรย
ในเวลาที่ความนิยมของทั้งคู่เรียกว่า รดต้นคอ ผลัดกันนำผลัดกันตาม หรือ สูสีกันมากตามผลโพล ดีเบตครั้งนี้สิ่งที่ชาวโลกจะเฝ้ามองคือ นาย ไบเดน อายุ 81 ปี กับ นาย ทรัมป์ อายุ 78 ปี จะออกอาการแบบไหน ทุกสีหน้าแววตา ทุกถ้อยคำสำเนียง ทุกอากัปกริยา ที่ทั้งสองต้องแสดงออกให้ละเอียด ไม่เช่นนั้นอาจตีความได้ว่าเป็นความอ่อนด้อยด้านสุขภาพ โดยเฉพาะนายไบเดน ที่มีเสียงครหาเรื่องอายุ ยิ่งต้องระวังทุกถ้อยทุกคำ และไม่หลงตกกับดักทางจิตวิทยาบนเวทีจนทำให้หัวเสียได้ ไม่เช่นนั้นจะมีโอกาสแก้ตัวได้เพียงการดีเบตรอบสองวันที่ 10 กันยายน เท่านั้น.-812(814).-สำนักข่าวไทย