เปิดไทม์ไลน์ เจ้าชายแฮร์รี กับ เมแกน แอนด์ “เม็กซิท”

เปิดไทม์ไลน์ เจ้าชายแฮร์รี กับ เมแกน แอนด์ “เม็กซิท”

8 มี.ค. – เป็นข่าวใหญ่ของวันนี้ เจ้าชายแฮร์รี และพระชายา เมแกน มาร์เคิล ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทรงประทานสัมภาษณ์แก่เจ้าแม่รายการทอล์กโชว์แห่งอเมริกา โอปราห์ วินฟรีย์ ถึงสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจโบกมือลาจากราชวงศ์อังกฤษ สื่อต่างประเทศได้ทำลำดับเวลาหรือไทม์ไลน์ชีวิตรักของทั้งคู่เอาไว้ ตั้งแต่เริ่มคบกันจนวันนี้


• ก.ย. 2560 : เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน มาร์เคิล ทั้งคู่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนพร้อมกันในระหว่างการไปชมการแข่งขันกีฬาอินวิคตัส (Invictus Games) ที่นครโทรอนโต ประเทศแคนาดา ถูกจับภาพขณะที่ทั้งคู่จับมือจูงมือกัน

• พ.ย.2560 : เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พระราชบิดาของเจ้าชายแฮร์รี ทรงออกแถลงการณ์ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เจ้าชายแฮร์รี กับเมแกน ทรงหมั้น


• ธ.ค.2560 : เจ้าชายแฮร์รี กับเมแกน มาร์เคิล สร้างความปีติยินดีปรีดาและฮือฮาแก่ฝูงชน เมื่อได้เข้าสู่พิธีหมั้นกันอย่างเป็นทางการ งานหมั้นจัดที่พระตำหนักนอตติงแฮม ใจกลางกรุงลอนดอน

• พ.ค.2561 : ไม่กี่วันก่อนพิธีเสกสมรส นายโธมัส มาร์เคิล บิดาของเมแกน ออกมาเปิดเผยว่า เขาจะไม่เข้าร่วมพิธีเสกสมรสของบุตรสาวกับเจ้าชาย หลังจากมีรายงานว่าเขาตั้งใจให้ปาปารัสซีตามเก็บภาพของเขาขณะเตรียมตัวเข้าร่วมพิธีเสกสมรส อย่างไรก็ตาม นายโธมัส ตัดสินใจไม่เดินทางไปเข้าร่วมพิธีเสกสมรส อ้างเหตุผลเรื่องการที่จะต้องเข้ารับการรักษาโรคหัวใจ

• เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน เข้าสู่พิธีเสกสมรสซึ่งจัดขึ้นที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงรับอาสาทำหน้าที่แทนบิดาของเมแกน ในการพาเจ้าสาวเดินเข้าโบสถ์ หลังจากเสกสมรสแล้ว ทั้งคู่ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น “ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์”


• ต.ค.2561 : เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน ซึ่งอยู่ระหว่างการเสด็จเยือนออสเตรเลีย ซึ่งเป็นทริปต่างประเทศทริปแรกหลังเสกสมรส ได้ประกาศข่าวดีว่า เมแกนกำลังตั้งครรภ์ทายาทคนแรก

• มี.ค.2562 สิ่งบ่งชี้ว่ามีความตึงเครียดภายในวังเกิดขึ้น เมื่อสำนักพระราชวังบักกิงแฮมประกาศว่า เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกนมีแผนที่จะตั้งสำนักพระตำหนักของพระองค์เอง โดยแยกออกจากสำนักพระตำหนักที่ดำเนินการร่วมกับเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคท (ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์) ทั้งนี้ สื่อต่างๆ รายงานว่าเกิดความบาดหมางระหว่างพี่น้อง

• พ.ค.2562 เมแกน ให้กำเนิดทายาทคนแรก เพศชาย นามว่า อาร์ชี่ เจ้าชายแฮรีและเมแกนเชิญสื่อกลุ่มเล็กๆ ไปที่พระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อถ่ายภาพ

• ต.ค.2562 เมแกน ประกาศจะฟ้องสื่อ The Mail ที่ตีพิมพ์บางส่วนของจดหมายที่เมแกนเขียนถึงบิดาหลังจากผ่านงานพิธีเสกสมรสแล้วหลายเดือน หลังจากนั้นเจ้าชายแฮร์รีก็ประกาศจะฟ้องสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ ด้วย โดยทรงกล่าวหาว่าถูกสื่อดักฟังโทรศัพท์

เจ้าชายแฮร์รีทรงเปิดเผยผ่านรายการสารคดีโทรทัศน์ ถึงรอยร้าวกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา พร้อมกล่าวหาสื่ออังกฤษว่า “บูลลี่” พระองค์ ทั้งนี้ได้ทรงเปรียบเทียบการถูกกลั่นแกล้งรังแกจากสื่อว่า เหมือนกับกรณีของเจ้าหญิงไดอานา พระมารดา ที่ตกเป็นเหยื่อถูกสื่อตามไล่ล่า ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุรถคว่ำที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2540

ด้าน เมแกน พร่ำพรรณนาผ่านบรรดาคนใกล้ชิดว่า ชีวิตการเป็น “แม่คนใหม่” ในรั้วในวัง ช่างยุ่งยากลำบากจากการที่ต้องรับมือกับการถูกขุดคุ้ยติดตามจากสื่อ เมแกน บอกว่าเพื่อนๆ ได้เตือนนางแล้วว่าอย่าแต่งงานกับเจ้าชายแฮร์รี เดี๋ยวจะมีปัญหากับสื่อแทบบลอยด์ของอังกฤษ

• ม.ค.2563 เจ้าชายแฮร์รี กับเมแกน ทำให้พระอัยยิกาคือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และสมาชิกราชวงศ์ทรงอึ้งและงึงงัน ด้วยการประกาศว่า ทั้งคู่มีพระประสงค์ที่จะถอยหลังออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ ด้วยเหตุผลคือต้องการความเป็นอิสระ หรือไม่พึ่งพาทางการเงิน และจะไปใช้ชีวิตและเวลาส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือ

หลังจากสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์อังกฤษใช้เวลา 10 วัน ในประชุมเจรจาหารือกัน ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงว่า ทั้งคู่คือเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน นับจากนี้จะไม่ทรงงานในฐานะสมาชิกราชวงศ์แล้ว อีกทั้งจะยกเลิกหรือไม่ใช้คำนำหน้าพระนามว่า “Royal Highness” อีกต่อไป

• มี.ค.2563 : เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน ปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะสมาชิกราชวงศ์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งสุดท้ายในงานฉลองวันชาติเครือจักรภพ (Commonwealth Day) ที่กรุงลอนดอน จากนั้นทั้งคู่อพยพไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โบกมือลาอังกฤษ ซึ่งการอพยพออกจากอังกฤษครั้งนี้ถูกสื่อสิ่งพิมพ์ที่อังกฤษเรียกว่า “Megxit” ซึ่งล้อกับคำว่า “Brexit” ที่หมายถึงการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร

• ก.ย.2563 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง “Netflix” ผู้ผลิตซีรีส์ยอดฮิตเรื่อง The Crown ที่มีเนื้อหาอิงชีวิตในวังของราชวงศ์อังกฤษ ได้ประกาศว่า เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกนได้เซ็นสัญญากับทางบริษัทในการที่จะร่วมผลิตสารคดีรายการเด็ก และอื่นๆ ซึ่งสัญญาที่ลงพระนามนั้นเป็นสัญญาระยะยาวหลายปี

• ก.พ.2564 : เจ้าชายแฮรี ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าทรงปฏิบัติงานในกองทัพเป็นเวลานับสิบปี ทรงชนะคดีที่พระองค์ได้ทรงยื่นฟ้องสื่อ The Mail ในข้อหาหมิ่นประมาทก่อนหน้านี้ โดย The Mail กล่าวหาพระองค์ว่าทรงตัดความสัมพันธ์กับราชนาวิกโยธินสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่พระองค์ทรงลดบทบาทจากราชกรณียกิจในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเมื่อแพ้คดี ทางสื่อ The Mail ที่ตีพิมพ์ข่าว ได้ขอพระราชทานอภัยที่ทำให้ทรงเสียหาย

ขณะเดียวกัน ศาลสูงในกรุงลอนดอนได้ตัดสินว่า สื่อสิ่งพิมพ์เดียวกันนี้ทำผิดในกรณีละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเมแกน มาร์เคิล ในกรณีที่ตีพิมพ์จดหมายที่เมแกนได้เขียนถึงบิดา

ต่อมาในเดือนเดียวกัน เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน ประกาศว่ากำลังจะมีทายาทคนที่ 2 ข่าวดีนี้มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับข่าวว่า ทั้งคู่จะให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับเจ้าแม่รายการทอล์กโชว์ของอเมริกา โอปราห์ วินฟรีย์

4 วันต่อมา สำนักพระราชวังบักกิงแฮม แถลงว่า เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน จะทรงยุติการทรงงานในฐานะสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอย่างถาวร ความรับผิดชอบในหน่วยงานในพระอุปถัมภ์ของทั้งสองพระองค์จะหมดไป

และในเดือนนี้เช่นกัน เจ้าชายแฮร์รี บอกกับ เจมส์ กอร์ดอน พิธีกรรายการ The Late Late Show รายการทีวีอเมริกาว่า การที่ทรงถอยออกจากการเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ เพราะสื่ออังกฤษที่เหมือนยาพิษ คอยทำลายสุขภาพจิตของพระองค์ และทรงต้องการที่จะปกป้องครอบครัวของพระองค์

• มี.ค.2564 : สำนักพระราชวังบักกิงแฮม แถลงว่า ทางสำนักพระราชวังมีความห่วงใยกับรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ไทมส์ ที่นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่าข้าราชบริพารของเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกนถูกกลั่นแกล้งรังแก หรือ “บูลลี่” เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ยังประทับอยู่ที่อังกฤษ ซึ่งทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่าจะสอบสวนเรื่องนี้

• 7 มี.ค.2564 รายการสัมภาษณ์พิเศษ “Oprah with Meghan and Harry” กำหนดออกอากาศทางในช่วงเวลา primetime ทางสถานีโทรทัศน์ CBS .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย