ทูตเมียนมาอารยะขัดขืน

ทูตเมียนมาอารยะขัดขืน

เมียนมา 5 มี.ค. -ทูตเมียนมาดาหน้าอารยะขัดขืน ปฏิเสธที่จะปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาลทหารแล้วนับสิบราย


เจ้าหน้าที่ทางการทูตของเมียนมากว่า 10 ราย ซึ่งประจำการอยู่ในต่างประเทศปฏิเสธที่จะปฏิบัติงานให้กับกองทัพเมียนมาที่กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ การประกาศจุดยืนของเจ้าหน้าที่ทางการทูตดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์นองเลือดภายในประเทศเมียนมาจากการที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงใช้กำลังและอาวุธเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันพฤหัสบดี (4 มี.ค) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการทูตที่ประจำการอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ประกาศว่า พวกเขากำลังเข้าร่วมกับขบวนการเคลื่อนไหว “อารยะขัดขืน” (Civil Disobedience Movement : CDM) ไม่เชื่อฟังรัฐ ปฏิเสธที่จะปฏิบัติงานตามคำสั่งของกองทัพเมียนมาที่ปกครองประเทศอยู่ในเวลานี้


เจ้าหน้าที่ทางการทูตเมียนมาทั้ง 5 คน กล่าวว่า พวกเขารู้สึกเศร้าสลดและหดหู่ใจที่กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และไม่สามารถยอมรับได้กับการใช้กำลังที่ร้ายแรงกับผู้ชุมนุมประท้วงที่เคลื่อนไหวโดยสันติวิธี

นอกจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ทูตเมียนมา 5 คน ที่กรุงวอชิงตันแล้ว อู อ่อง จ่อ หน่าย ทูตที่ปรึกษาเมียนมา ที่นครลอสแองเจลิส ได้ประกาศให้ทราบเช่นกันว่า เขาจะเข้าร่วมปฏิบัติการอารยะขัดขืน ไม่ปฏิบัติงานตามคำสั่งของกองทัพเมียนมาตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป

อ่อง จ่อ หน่าย ซึ่งรับราชการที่กระทรวงต่างประเทศมานานเกือบ 30 ปี บอกว่า การตัดสินใจเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหว CDM ของเขา เกิดจากความเศร้าสลดใจต่อเหตุการณ์การใช้กำลังเข้าปราบปรามและสลายการชุมนุมอย่างโหดร้ายในเมียนมาเมื่อวันพุธที่ 3 มีนาคม ซึ่งในวันนั้นวันเดียวมีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทูตเมียนมาอีก 3 คน ซึ่งรวมถึงเลขานุการเอก และเลขานุการโท ที่ประจำการ ณ สำนักงานผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติที่กรุงเจนีวา ก็ประกาศจะยืนเคียงข้างประชาชนชาวเมียนมาที่กำลังยืนหยัดต่อสู้เพื่อกอบกู้และเรียกคืนประชาธิปไตยในเมียนมาอยู่ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ทูตทั้งสามวางแผนจะเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวไม่เชื่อฟังรัฐ อารยะขัดขืน หรือ CDM เช่นกัน

ส่วนที่เยอรมนี ดอว์ ชอว์ กัลยา เลขานุการตรีที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาในกรุงเบอร์บิน บอกให้ทราบเช่นกันว่า เธอไม่ยินดีหรือเต็มใจที่จะปฏิบัติงานภายใต้ระบอบเผด็จการทหารเมียนมาอีกต่อไป เพราะยอมรับไม่ได้กับการที่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือน จับกุมคุมตัวนักการเมืองและประชาชนอย่างไร้ความยุติธรรม ยิ่งกว่านั้น ยอมรับไม่ได้กับ “กลุ่มก่อการร้าย” ที่เข่นฆ่าประชาชน

เจ้าหน้าที่ทูตเมียนมาที่ประกาศจุดยืนจะร่วมปฏิบัติการอารยะขัดขืนนั้น ต่างบอกว่า พวกเขาใช้สิทธิในการที่จะแสดงออกอย่างสันติ เพื่อยืนเคียงข้างประชาชนชาวเมียนมา และกล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งหน้าที่การงาน เพียงแต่จะไม่ยอมทำงานให้กับสภาบริหารแห่งรัฐของกองทัพ

ความเคลื่อนไหวของบรรดาเจ้าหน้าที่ทูตในต่างประเทศที่ปฏิเสธจะปฏิบัติงานให้กับกองทัพเมียนมา เกิดขึ้นตามมาหลังจาก อู จ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประกาศแตกหักรัฐบาลทหารระหว่างการกล่าวคำแถลงการณ์ต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาติเมื่อเดือนก่อน โดยในแถลงการณ์ เขาวิงวอนให้ประชาคมโลกต่อต้านรัฐประหาร และช่วยให้การสนับสนุนรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้ง ยังได้ชู 3 นิ้ว สัญลักษณ์ที่ถูกใช้ในการแสดงออกเพื่อต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมาในเวลานี้กลางที่ประชุมยูเอ็นด้วย

ขณะเดียวกัน ประชาชนชาวเมียนมาที่อาศัยในต่างประเทศ ทั้งประเทศตะวันตกและในเอเชีย ต่างก็พากันออกมาเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตทั้งหลาย เข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน ยืนเคียงข้างประชาชน ในแต่ละวัน ชาวเมียนมาในแต่ละประเทศนัดกันไปชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมาเพื่อเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่ทูตออกมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน

เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ทูตอย่างน้อย 100 คนที่ประจำการใน 19 ประเทศ กลับเมียนมาเป็นการด่วน ซึ่งรวมถึงผู้ที่ประจำการในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ จีน และญี่ปุ่น

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่กองทัพเมียนมายึดอำนาจ จนถึงขณะนี้ มีประชาชนพลเรือนชาวเมียนมามากกว่า 50 คนแล้วที่ถูกเจ้าหน้าที่กองกำลังด้านความมั่นคงสังหารขณะเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านระบอบเผด็จหารทหารอย่างสันติ

เจ้าหน้าที่ทางการทูตเมียนมาที่ประจำการในต่างประเทศซึ่งปฏิเสธที่จะเชื่อฟังหรือทำตามคำสั่งของสภาบริหารแห่งรัฐ (ชื่อรัฐบาลทหารที่ปกครองเมียนมาเวลานี้) ต่างเร่งเร้าเรียกร้องให้กองทัพยอมรับและเคารพผลการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว และคืนอำนาจให้กับประชาชน

พรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 กองทัพทำรัฐประหารในตอนเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาชุดใหม่ที่พรรค NLD ครองที่นั่งส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดสมัยประชุม โดยอ้างเหตุจำเป็นบังคับให้กองทัพต้องทำรัฐประหารคือต้องเข้ามาจัดการเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งในครั้งนั้น.- สำนักข่าวไทย

อ้างอิง : https://www.irrawaddy.com/news/burma/10-myanmar-diplomats-refuse-work-military-regime.html?fbclid=IwAR06tAnl_LdYMMqIdstEDhcHltDntMqfj0JEkP9iLf41ahq8FYTT2UGh4gg

อ้างอิง : https://www.facebook.com/351574300169/posts/10158956683085170?sfns=mo

อ้างอิง : https://www.facebook.com/351574300169/posts/10158957705520170?sfns=mo

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย