เซี่ยงไฮ้ 15 ส.ค.- พื้นที่ต่างๆ ในจีนที่พึ่งพาแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายยาวที่สุดในจีน ต้องหันไปใช้เครื่องสูบน้ำและการทำฝนเทียม เนื่องจากภาวะแห้งแล้งยาวนาน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเหือดแห้ง เสี่ยงกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร คาดว่าคลื่นความร้อนในขณะนี้จะต่อเนื่องไปอีก 2 สัปดาห์
คณะกรรมาธิการทรัพยากรน้ำแม่น้ำแยงซีเผยว่า พื้นที่ลุ่มน้ำในแม่น้ำแยงซีมีฝนตกเพียงร้อยละ 30 ในเดือนกรกฎาคม และมีฝนตกในเดือนสิงหาคมน้อยกว่าปกติถึงร้อยละ 60 พื้นที่ทางตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำแยงซีเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญโทษว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุให้ความกดอากาศสูงกึ่งศูนย์สูตรที่มีอิทธิพลหลักต่ออากาศฤดูร้อนทั่วเอเชียตะวันออกเกิดความแปรปรวน คาดว่าคลื่นความร้อนในขณะนี้จะต่อเนื่องไปอีก 2 สัปดาห์ และจะทำให้จีนต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่อุณหภูมิรุนแรงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการบันทึกในปี 2504
ทะเลสาบโผหยางในมณฑลเจียงซี ทางตอนกลางของจีนที่มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำแยงซีในช่วงฤดูร้อน มีระดับน้ำลดลงเหลือระดับหน้าแล้งในฤดูหนาว เนื่องจากมีฝนตกลดลงร้อยละ 50 ในเดือนกรกฎาคม ทำให้หมู่บ้านที่พึ่งพาน้ำจากทะเลสาบแห่งนี้ต้องหันไปใช้เครื่องสูบน้ำเข้านาข้าว ส่วนที่เทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้เผชิญฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดนับจากเริ่มมีการบันทึกในปี 2504 จนต้องยิงจรวดทำฝนเทียมถึง 900 ลูก ปกติแล้วจีนจะปล่อยน้ำจากเขื่อน 3 ผา ช่วยบรรเทาภาวะน้ำแล้งในแม่น้ำแยงซี แต่ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนในขณะนี้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งของเมื่อปีก่อน จึงไม่สามารถช่วยได้ ด้านกระทรวงเกษตรจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ 25 ชุดไปยังพื้นที่สำคัญเพื่อปกป้องผลผลิตทางการเกษตรแล้ว.-สำนักข่าวไทย
