ปารีส 5 ส.ค.- ผลการศึกษาผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากกว่า 4,000 คน พบว่า ผู้ป่วย 1 ใน 8 คน มีอาการลองโควิด หรืออาการหลงเหลือจากการติดเชื้ออย่างน้อย 1 อาการ และพบว่าผู้ไม่เคยติดเชื้อเลยก็มีอาการลองโควิดได้
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารการแพทย์แลนเซ็ตขอให้ผู้ใหญ่ในเนเธอร์แลนด์มากกว่า 76,400 คน ตอบแบบสอบถามออนไลน์เรื่องอาการลองโควิดทั้งหมด 24 ครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2564 ในระหว่างนั้นมีคนติดโควิดมากกว่า 4,200 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.5 และในจำนวนนี้ราวร้อยละ 21 มีอาการลองโควิดอย่างน้อย 1 อาการจากทั้งหมด 23 อาการ หลังจากติดเชื้อไปแล้ว 3-5 เดือน นักวิจัยสรุปจากผลการศึกษาว่า ผู้ติดเชื้อร้อยละ 12.7 หรือราว 1 ใน 8 มีอาการลองโควิด เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ปวดเมื่อย เสียการรับรสและกลิ่น อ่อนเพลีย
หนึ่งในนักวิจัยเผยว่า อาการลองโควิดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่กำลังมีผลต่อประชาชน ผลการศึกษาครั้งนี้ยังได้พบด้วยว่า ปัญหาสุขภาพบางอย่างไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เพราะเมื่อเปรียบเทียบอาการลองโควิดระหว่างผู้ติดเชื้อกับผู้ไม่เคยติดเชื้อพบว่า ผู้ไม่เคยติดเชื้อร้อยละ 9 ก็มีอาการลองโควิดในลักษณะเดียวกัน ทำให้สามารถชี้เฉพาะอาการลองโควิดบางอย่างที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่น อาการเครียดเพราะมาตรการจำกัดการระบาด นักวิจัยระบุว่า จนถึงขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดโควิดแล้วมากกว่า 500 ล้านคน แต่ยังไม่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบอาการลองโควิดระหว่างผู้ติดเชื้อกับผู้ไม่เคยติดเชื้อเช่นผลการศึกษานี้มาก่อน ดังนั้นการศึกษาในอนาคตจึงควรศึกษาเรื่องอาการทางจิตใจด้วย เช่น อาการเครียด กังวล สมองล้า นอนไม่หลับ รู้สึกไม่สบายแม้ว่าใช้แรงเพียงเล็กน้อย.-สำนักข่าวไทย