เบอร์ลิน 5 เม.ย.- รัฐบาลเยอรมนีผ่านความเห็นชอบมาตรการปราบปรามความเห็นเกลียดชังและข่าวลวงอย่างเข้มงวดด้วยการขู่ปรับสื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่สูงสุด 50 ล้านยูโร (ราว 1,840 ล้านบาท) หากไม่เร่งลบโพสต์ที่มีเนื้อหาละเมิด
รัฐบาลเยอรมนีแถลงว่า อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังหากไม่ถูกจัดการและดำเนินคดีอย่างจริงจังจะเป็นภัยใหญ่หลวงต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของสังคมที่เสรี เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย นายไฮโก มาส รัฐมนตรียุติธรรมกล่าวว่า สื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่อย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กไม่เร่งลบโพสต์ที่ขัดต่อกฎหมายประเทศ ทั้งที่รับปากในปี 2558 ว่าจะตรวจสอบและลบความเห็นเกลียดชังภายใน 24 ชั่วโมง โดยพบว่าทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กลบโพสต์ที่ถูกร้องเรียนเพียงร้อยละ 1 และ 39 ตามลำดับเท่านั้น เทียบกับยูทูบของกูเกิลที่ลบโพสต์ถูกร้องเรียนถึงร้อยละ 90
มาตรการใหม่ยังครอบคลุมถึงโพสต์ผิดกฎหมาย การอนาจารเด็กและกิจกรรมก่อการร้ายด้วย กำหนดให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ต้องลบโพสต์ขัดต่อกฎหมายออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีผู้ร้องเรียน ส่วนโพสต์ละเมิดอื่น ๆ ต้องลบออกภายใน 7 วันหลังมีผู้ร้องเรียนและประเมินแล้วว่าละเมิดจริง ผู้บริหารบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับเป็นรายบุคคลสูงสุดถึง 5 ล้านยูโร (ราว 184 ล้านบาท)
กฎหมายเยอรมนีกำหนดให้ข้อความใด ๆ ก็ตามที่ปฏิเสธว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวไม่มีจริง การยุงยงให้เกิดความเกลียดชัง และการเหยียดผิวเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้นับตั้งแต่เยอรมนีเปิดประเทศรับผู้อพยพตั้งแต่ปี 2556 และมีคนหลั่งไหลเข้ามาร่วมล้านคน การแสดงความเห็นทางออนไลน์เกลียดชังชาวต่างชาติก็เกิดขึ้นอย่างมากมาย.-สำนักข่าวไทย