แคลิฟอร์เนีย 21 ก.ค. – เทสลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐที่มีอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเป็นเจ้าของ เผยว่า ได้ขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ร้อยละ 75 ที่มีมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (73,800 ล้านบาท) ในช่วงสิ้นปี 2564 ซึ่งในปีนี้บิตคอยน์มีมูลค่าร่วงกว่าร้อยละ 50
บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เทสลาได้ตัดสินใจเทขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ร้อยละ 75 ในช่วงปลายปี 2564 หลังบิตคอยน์มีมูลค่าลดลงและร่วงหนักกว่าร้อยละ 50 ในปีนี้ เทสลากล่าวว่า บริษัทนำเงินที่ได้จากการขายบิตคอนย์ไปซื้อเงินปกติตามมาตรฐานเป็นเงิน 936 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (34,500 ล้านบาท) ขณะที่อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของเทสลา เผยเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า เทสลาจำเป็นต้องขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ เนื่องจากเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการใช้มาตรการล็อกดาวน์ของจีน ทำให้บริษัทต้องเพิ่มสถานะเงินสดให้อยู่ในระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้ เทสลาได้ประกาศทุ่มเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (55,300 ล้านบาท) เพื่อลงทุนในบิตคอยน์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนทำให้บิตคอยน์ได้รับความนิยมอย่างมากและมีราคาพุ่งสูงถึงหน่วยละเกือบ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (2.58 ล้านบาท) ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนมีราคาร่วงลงต่อเนื่องในปีนี้ ขณะนี้ บิตคอยน์มีราคาเหลือเพียงหน่วยละไม่ถึง 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (922,000 บาท) มัสก์เป็นหนึ่งในบุคคลมีชื่อเสียงที่ถือครองคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมาก และมักใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมซื้อขายในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ทั้งนี้ มัสก์เคยระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า เทสลาจะไม่มีทางขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย