นิวเดลี 18 ก.ค.- อินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนมากกว่า 2,000 ล้านโดสแล้ว นับเป็นประเทศที่ 2 รองจากจีน และเป็นความสำเร็จในขณะที่หลายรัฐในอินเดียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
อินเดียเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ หรือที่รัฐบาลอินเดียเรียกว่าวัคซีนเข็มป้องกันไว้ก่อนให้แก่ผู้ใหญ่ทุกคนฟรี เป็นเวลา 75 วัน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อฉลองการประกาศเอกราชครบ 75 ปีในวันที่ 15 สิงหาคม เพราะก่อนหน้านี้มีเพียงบุคลากรด่านหน้า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่เข้าเกณฑ์ฉีดเข็มกระตุ้นฟรี และได้ลดระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 กับเข็มที่ 3 จาก 9 เดือนลงเหลือ 6 เดือน หนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทมส์รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวอินเดียที่เข้าเกณฑ์ฉีดเข็มกระตุ้นยังไม่ได้ฉีดมากถึงร้อยละ 92
อินเดียฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้วมากกว่า 55 ล้านโดส นับตั้งแต่เริ่มฉีดในเดือนมกราคมปีนี้ เริ่มจากบุคลากรด่านหน้า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัว จากนั้นได้ขยายให้แก่ผู้ใหญ่ทุกคน ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มแรกสำหรับคนวัย 15-18 ปี เริ่มในเดือนมกราคมปีนี้ และวัย 12-14 ปี เริ่มในเดือนมีนาคม กระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า มีผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 98 และฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วร้อยละ 90 อินเดียเริ่มการฉีดวัคซีนล่าช้าเพราะติดขัดเรื่องโลจิติกส์ ปริมาณวัคซีนที่มีอยู่ และประชาชนลังเลที่จะฉีด ประกอบกับการระบาดระลอก 2 ในขณะนี้ทำให้การกระจายวัคซีนสะดุด
อินเดียมียอดติดเชื้อสะสมประมาณ 43 ล้าน 5 แสนราย มากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตรวม 525,242 คน มากเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐและบราซิล ส่วนในวันนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,528 คน สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน.-สำนักข่าวไทย