ศรีลังกา 12 ก.ค. – วิกฤติในศรีลังกา หากเป็นไปตามแผนคาดว่าสัปดาห์หน้ารัฐสภาจะเลือกตัวประธานาธิบดีคนใหม่ ไปติดตามรายงานเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดจุดเปลี่ยนแบบล้างบาง นำประชาชนให้ลุกฮือขึ้นขับไล่ผู้นำและรัฐบาลได้สำเร็จ
ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโคลอมโบ วันนี้ยังคงคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่พักของผู้นำได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจไปโดยปริยาย
3 วันมาแล้วที่ผู้ประท้วงเข้ามายึดไว้จนกว่าผู้นำประเทศที่พวกเขามองว่าเป็นต้นเหตุของความทุกข์ยากจะไม่กลับมาทีนี่อีก ทันทีที่เข้ามารู้สึกทันทีว่าคนที่อาศัยอยู่อย่างหรูหรา แต่คนข้างนอกมากมายต้องทนทุกข์
ศรีลังกาได้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ด้วยกระแสการเมือง ในชื่อ อลากัลยา ที่แปลความหมายได้ว่า อุตสาหะ
แกนนำสำคัญผู้ขับเคลื่อน อลากัลยา ที่ได้ดิ้นรนต่อสู้ร่วมกันมา มีอยู่ 3 คน จาก 3 วงการ คือ นักเขียนบทภาพยนตร์ รูวานติ เดชิเกรา , นักยุทธศาสตร์สื่อดิจิทัล ซามิระ เดดูวาเก และบาทหลวง จีวาธา เปรีส
ทั้งสามคนร่วมกันปลุกกระแสประท้วงที่กำลังจะมอดดับไป กำหนดยุทธศาสตร์ วางแผน และลงมือ ปลุกกระแสอุตสาหะขึ้นมาอีกครั้ง โกตาบายา ราชปักษา ให้ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีให้ได้
วิธีการที่ใช้หลากหลาย ไม่มีสูตรสำเร็จ ทั้งแนวทางดั้งเดิม รณรงค์ออนไลน์ ทุกสื่อที่มี หารือเจรจากับพรรคการเมือง สหภาพแรงงาน และนักศึกษา แม้กระทั่งตั้งกลุ่มจิตอาสาเคาะประตูตามบ้านเพื่อขอให้จับมือกันลงถนน ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม
ในวันจริง ทั้งสามแทบไม่เชื่อสายตา คนเรือนแสนจากทั่วทุกสารทิศเดินเท้ามารวมตัวกันที่กรุงโคลอมโบ จนกำลังเจ้าหน้าที่ไม่อาจต้านทานได้ จากที่ประมาณการว่าต้องใช้กำลังคนอย่างน้อยหมื่นคนเพื่อฝ่าแนวต้านตำรวจ แต่คลื่นมหาชนมืดฟ้ามัวดินกลืนซัดจุดตรวจ จุดสกัดอย่างง่ายดาย
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงราวบ่ายโมง ทำเนียบประธานาธิบดีต้องกลายเป็นทำเนียบประชาชนไป ประธานาธิบดีต้องประกาศลาออกและให้รัฐบาลรักษาการรับช่วงต่อ
แกนนำเชื่อว่าด้วยความเจ็บช้ำได้กลายเป็นพลัง ผลักดันให้ผู้คนลุกขึ้นสู้ พวกเขาเพียงแค่สะกิดเตือนและชี้ทางเดินเท่านั้น ทุกอย่างเดินหน้าไปโดยธรรมชาติ ความอุตสาหะจึงเกิดผลขึ้น. – สำนักข่าวไทย
