ซิดนีย์ 31 มี.ค.- ออสเตรเลียจะเพิ่มการตรวจความปลอดภัยเที่ยวบินที่มาจากท่าอากาศยานตะวันออกกลางบางแห่ง แต่ยังไม่ห้ามผู้โดยสารพกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามอย่างสหรัฐและอังกฤษ
นายดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีคมนาคมออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจคัดกรองวัตถุระเบิดกับผู้โดยสารบางคนและกระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งอาจตรวจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางอย่างด้วย เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายตามที่สหราชอาณาจักรประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากกรุงโดฮาของกาตาร์ กรุงอาบูดาบีและนครดูไบของสหรัฐแอร์เวย์ เอทิฮัดแอร์เวย์ เอมิเรตส์ และกาตาร์แอร์เวย์เที่ยวบินตรงจากโดฮา อาบูดาบี และดูไบตั้งแต่สัปดาห์อาหรับเอมิเรตส์จะต้องถูกสุ่มตรวจหาวัตถุระเบิด อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียยังไม่ห้ามการพกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหญ่กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นเครื่องบิน มาตรการเพิ่มการตรวจตรานี้จะมีผลกับเที่ยวบินของสายการบินแควนตัสหน้า เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า ไม่ได้มีภัยคุกคามเจาะจงออสเตรเลียแต่อย่างใด
นายอเล็กซองดร์ เดอ จูนีแอก ผู้อำนวยการสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) กล่าวปาฐกถาเมื่อวันพุธว่า คำสั่งห้ามของสหรัฐและอังกฤษเป็นเรื่องที่ไม่ยั่งยืน เพราะในระยะสั้นก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้ผลจริงหรือไม่ ที่แน่ ๆ คือได้สร้างการบิดเบือนทางการค้าอย่างร้ายแรง สหรัฐอ้างว่า ต้องการสกัดการใช้ระเบิดที่ซุกซ่อนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อเหตุร้ายกับสายการบิน คำสั่งของสหรัฐกระทบต่อ 9 เที่ยวบินจาก 8 ประเทศได้แก่ ตุรกี โมร็อกโก จอร์แดน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และคูเวต ส่วนคำสั่งของอังกฤษกระทบต่อเที่ยวบินจากอียิปต์ ตุรกี จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย ตูนิเซียและเลบานอน.- สำนักข่าวไทย