กัมพูชา 30 มี.ค.-กัมพูชาห้ามแม่ลูกอ่อนส่งออกนมจากเต้าไปขายต่างประเทศ หลังรัฐเร่งปราบการค้าอวัยวะและผลิตภัณฑ์จากมนุษย์ ชี้ลูกอดกินนมแม่เพราะนำไปขายหมด
คณะรัฐมนตรีของกัมพูชาส่งจดหมายที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ถึงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการและป้องกัน ห้ามการซื้อขายและส่งออกน้ำนมแม่จากกัมพูชา คำสั่งห้ามซื้อและส่งออกนมแม่มีขึ้นหลังกัมพูชาเพิ่งสั่งระงับการส่งออกน้ำนมแม่ของบริษัทแอมโบรเซีย แลปส์ สำนักงานอยู่ที่รัฐยูทาห์ของสหรัฐ ซึ่งอ้างว่าเป็นบริษัทแรกที่นำนมแม่จากต่างประเทศเข้าไปขายในสหรัฐ เพื่อให้แม่ที่น้ำนมไม่พอเลี้ยงลูกหรืออยากให้ลูกกินนมแม่เป็นอาหารเสริม โดยรับซื้อนมจากหญิงยากจนในกรุงพนมเปญ ออนซ์ละ 50 เซนต์ (ราว 17 บาท) เมื่อผ่านการพาสเจอไรซ์ส่งถึงสหรัฐแล้วจะขายแพ็กขนาด 5 ออนซ์ แพ็กละ 20 ดอลลาร์ (ราว 700 บาท) และยังเข้ามาเปิดสำนักงานรับซื้อนมแม่ในกัมพูชากว่า 2 ปีแล้ว
แอมโบรเซียกล่าวปกป้องธุรกิจของตนว่า ช่วยให้ผู้หญิงชาวกัมพูชาให้นมลูกมีรายได้เสริม และช่วยเติมเต็มธนาคารนมแม่ที่ขาดแคลนในสหรัฐ อีกทั้งจะจ้างเฉพาะผู้หญิงที่ให้นมลูกมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเหมาะสมเพื่อให้นมลูกตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
ขณะที่องค์การยูนิเซฟและกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิด้านเพศและการพัฒนากัมพูชาตอบรับคำสั่งห้ามเด็ดขาดดังกล่าวของรัฐบาลกัมพูชา ระบุแอมโบรเซียกำลังหาประโยชน์จากผู้หญิงยากจน ส่วนน้ำนมแม่ที่เกินมาจากการเลี้ยงดูลูกควรอยู่ในกัมพูชาที่เด็กหลายคนยังขาดโภชนาการที่เหมาะสม หญิงกัมพูชาคนหนึ่งที่เคยทำงานให้แอมโบรเซียระบุว่า ขายน้ำนมให้แอมโบรเซียเป็นเวลา 3 เดือน หลังคลอดลูกชาย ได้รายได้ 7.5-10 ดอลลาร์ (ราว 262-350 บาทต่อวัน) และรู้ว่ามีคนทำเหมือนเธออย่างน้อย 20 คน รู้สึกเสียใจที่ทางการห้าม เพราะถือว่าช่วยหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้.-สำนักข่าวไทย