โรม 29 มิ.ย.- อิตาลีเผชิญภาวะแห้งแล้งที่สุดในรอบ 70 ปี ทำให้นาข้าวบริเวณที่ราบทางตอนเหนือของประเทศขาดแคลนน้ำ เสี่ยงกระทบต่อการปลูกข้าวพันธุ์ดีสำหรับทำข้าวผัดชื่อดังของอิตาลี
แม่น้ำโป ซึ่งเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดในอิตาลีเหือดแห้งจนกลายเป็นหาดทรายยาวเพราะฝนทิ้งช่วงมานาน ทำให้นาข้าวที่อยู่ระหว่างแม่น้ำโปกับเทือกเขาแอลป์ไม่มีน้ำท่วมถึง ทั้งที่ปกติแล้วจะมีน้ำท่วมนาข้าวสูง 2-5 เซนติเมตร เกษตรกรในเมืองมอร์ตารา แคว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของอิตาลีปลูกข้าวพันธุ์อาร์บอริโอที่ใช้ทำรีซอตโต ซึ่งเป็นข้าวผัดชื่อดังมายาวนานหลายศตวรรษของอิตาลี แต่ขณะนี้ต้นข้าวเกือบทั้งหมดกำลังยืนต้นตายเพราะไม่ได้น้ำมา 2 สัปดาห์แล้ว เหลือต้นข้าวเพียงร้อยละ 10 ที่ยังรอด และต้องได้น้ำภายใน 2-3 วัน ไม่เช่นนั้นจะยืนต้นตายเช่นกัน
แม่น้ำโปและแม่น้ำดอรา บัลเตียที่เป็นแหล่งน้ำหลักของพื้นที่ทางเหนือมีระดับน้ำต่ำกว่าปกติถึง 8 เท่า สมาคมชลประทานในพื้นที่เผยว่า อัตราน้ำไหลในขณะนี้เหลือเพียง 30,000-60,000 ลิตรต่อวินาที จากปกติ 160,000 ลิตรต่อวินาที ทำให้ต้องงดจ่ายน้ำให้แก่สวนพืชชั้นรอง เช่น ผลไม้ เพื่อให้ความสำคัญกับนาข้าวก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งระหว่างโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ตั้งอยู่ต้นน้ำกับเกษตรกรที่อยู่ปลายน้ำแล้ว ด้านนายกเทศมนตรีเมืองมิลาน ซึ่งเป็นเมืองร่ำรวยทางตอนเหนือ ได้ลงนามเทศบัญญัติเมื่อวันเสาร์สั่งปิดน้ำพุประดับตามสาธารณะเพื่อประหยัดน้ำ
ข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ (FAO) ระบุว่า ภาวะแห้งแล้งเป็นอันตรายที่สุดต่อข้าวที่เพิ่งงอกใหม่ ๆ คลื่นความร้อนที่กำลังทำให้อิตาลีมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียสอาจทำให้ผลผลิตข้าวลดลงอย่างมาก ภาวะฝนทิ้งช่วงนานทำให้หลายภูมิภาคในอิตาลีต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสงวนน้ำและบริหารจัดการทรัพยากรที่เหลือเพียงเล็กน้อย กลุ่มล็อบบี้ทางการเกษตรเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ภาวะแห้งแล้งเสี่ยงทำให้ภาคการเกษตรของอิตาลีเสียหายราว 3,000 ล้านยูโร (ราว 110,949 ล้านบาท) ขณะที่สมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าเกษตรประเมินว่า อิตาลีอาจสูญเสียผลผลิตประจำฤดูกาลราวร้อยละ 30-40.-สำนักข่าวไทย