ซานอันโตนิโอ 29 มิ.ย.- ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐตั้งข้อหาชายเม็กซิโก 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุคนลอบเข้าเมือง 51 คนเสียชีวิตในรถบรรทุกที่ร้อนอบอ้าวและถูกจอดทิ้งไว้ชานเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเทกซัสเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
ชายเม็กซิโกทั้ง 2 คนถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนขณะพักอาศัยในสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่แกะรอยทะเบียนรถบรรทุกไปจนพบที่พักแห่งหนึ่งในเมืองซานอันโตนิโอ และรอจับกุมเมื่อชายแต่ละคนออกจากที่พัก ส่วนผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เป็นพลเมืองอเมริกันที่ขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้แล้วและเตรียมตั้งข้อหา แต่ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีชาวเม็กซิโกอย่างน้อย 27 คน ชาวกัวเตมาลา 3 คน และชาวฮอนดูรัส 4 คน ในรถอาจมีคนลอบเข้าเมืองมากถึง 100 คน แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเล่ารายละเอียดว่า รถบรรทุกคันนี้ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้รางรถไฟ อุณหภูมิในเวลานั้นสูงถึง 39.4 องศาเซลเซียส พบศพทั้งในรถและบนพื้นห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึก ประตูหลังของรถถูกเปิดทิ้งไว้ ภายในรถไม่มีทั้งน้ำและเครื่องปรับอากาศ นายกเทศมนตรีเมืองซานอันโตนิโอกล่าวว่า เป็นโศกนาฏกรรมที่เกินจะบรรยายได้ เมืองนี้ต้องพึ่งพาแรงงานต่างถิ่นเพราะขาดแคลนแรงงาน แต่พวกเขากลับต้องพบจุดจบเช่นนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณามการหากำไรจากผู้อ่อนแอ และประกาศจะกวาดล้างแก๊งลอบส่งคนเข้าเมืองที่ทำให้มีคนข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าสหรัฐมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564.-สำนักข่าวไทย