ศรีลังกา 26 มิ.ย. – ศรีลังกาเชื้อเพลิงหมดประเทศ หลังเรือขนส่งน้ำมันหลายลำไม่เดินทางมาเทียบท่าตามกำหนด โดยไม่แจ้งเหตุผลชัดเจน แต่น่าจะมาจากสถานการณ์ด้านการเงินของรัฐบาลศรีลังกา ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ประกาศยอมรับก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศล่มสลายแล้ว
กระทรวงพลังงานของศรีลังกา ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เรือขนส่งน้ำมันหลายลำไม่ได้เดินทางมาเทียบท่าตามกำหนด หลายลำปฏิเสธจอดเทียบท่า ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของศรีลังกา ขณะที่บริษัท ซีลอน ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชัน รัฐวิสาหกิจด้านเชื้อเพลิงของศรีลังกา ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้รับเชื้อเพลิงใหม่หรือไม่และเมื่อใด อีกทั้งตอนนี้ ซีลอน ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชัน จำเป็นต้องระงับการดำเนินงานของโรงกลั่นที่มีอยู่แห่งเดียวเป็นการชั่วคราว ทั้งที่มีการดำเนินการรอบล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้ โดยใช้น้ำมันดิบ 90,000 ตันของรัสเซีย ซื้อผ่านนายหน้าที่นครดูไบของยูเออี
อย่างไรก็ตาม ซีลอน ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชัน มีหนี้สินพอกพูนค้างชำระอยู่มากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,800ล้านบาท) เรื่องนี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่สุด ทำให้ไม่มีรัฐบาลและหน่วยงานเอกชนของประเทศใดกล้าที่จะให้ความไว้วางใจ ซีลอน ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชัน อย่างเต็มร้อย
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ผู้นำศรีลังกา กล่าวอย่างตรงไปตรงมาเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศ “ล่มสลายอย่างสิ้นเชิง” เนื่องจากไม่มีงบประมาณนำเข้าเชื้อเพลิงและอาหารให้เพียงพอแก่ความต้องการของประชาชนเกือบ 22 ล้านคนในประเทศ
ทั้งนี้ ศรีลังกาประกาศ “ชัตดาวน์” ปิดโรงเรียนและหน่วยงานรัฐทุกแห่ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤติขาดแคลนเชื้อเพลิงและพลังงาน ส่งผลกระทบหนักหน่วงมากขึ้นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน เป็นมาตรการตามหลังการอนุมัติให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ และให้หยุดงานทุกวันศุกร์ เป็นเวลา 3 เดือน เปิดทางให้บรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐร่วมทำการเกษตรขนาดเล็ก เพื่อร่วมกันบรรเทาความรุนแรงของวิกฤติขาดแคลนอาหารในประเทศ. – สำนักข่าวไทย