20 มิ.ย. – รัสเซียประกาศว่า สามารถสังหารนายทหารยูเครนกว่า 50 นาย ในคราวเดียว และรุกคืบยึดพื้นที่ต่าง ๆ ทางตะวันออกของยูเครนได้เพิ่มขึ้น
พลตรี อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงล่าสุดถึงผลงานของกองทัพรัสเซียในสนามรบว่า รัสเซียใช้ขีปนาวุธความแม่นยำสูงยิงโจมตีฐานที่มั่นของยูเครนที่หมู่บ้านซีโรกา ดาชา ขณะที่มีการประชุมกำลังพลอยู่ ทำให้สามารถสังหารนายพลและนายทหารของยูเครนไปได้กว่า 50 คน
นอกจากนี้ รัสเซียยังได้ทำลายคลังอาวุธต่าง ๆ ที่ชาติตะวันตกมอบให้ยูเครนไม่ว่าจะเป็นระบบยิงจรวดและรถหุ้มเกราะ พร้อมกับรุกคืบเข้าไปยึดพื้นทีโดยรอบเมือง ซีวีโรโดเน็ตสก์ได้เพิ่มขึ้นด้วย
ด้านยูเครนไม่ได้ยืนยันสิ่งที่รัสเซียกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่ากำลังสูญเสียอย่างหนักเพราะรัสเซียมีกำลังที่เหนือกว่า นางอิวานนา คิมพุชซินซาดเซ่ ส.ส.ยูเครน กล่าวว่า รัสเซียมีอาวุธมากกว่ายูเครนถึง 10 เท่า ทำให้ช่วงชิงความได้เปรียบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ชาติตะวันตกเพิ่มความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเยอรมนี ซึ่งตัวผู้นำได้เดินทางมาเยือนยูเครนและเห็นสภาพการรบด้วยตัวเองไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงควรเร่งให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธให้กับยูเครนอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ก็มีการเยือนสำคัญด้วย โดยคณะเจ้าหน้าที่ของผู้แทนพิเศษสหภาพยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเมืองต่าง ๆ ทางเหนือของกรุงเคียฟ เพื่อสำรวจพื้นที่ที่มีหลักฐานว่า ทหารรัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือน ซี่งจำเป็นต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียดเพื่อนำคนผิดมารับโทษ
ส่วนเบน สติลเลอร์ นักแสดงอเมริกันได้เดินทางไปที่เมืองลาวีฟ เมืองใหญ่ทางตะวันตกของยูเครน ติดกับพรมแดนโปแลนด์ เนื่องจากเขาเป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติ ที่กำลังทำงานช่วยเหลือผู้อพยพชาวยูเครน ซึ่งในวันนี้ตรงกับวันผู้อพยพโลก โดยตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น มีชาวยูเครนอพยพออกนอกประเทศแล้วกว่า 5 ล้านคน และอีกประมาณ 7 ล้านคน ต้องพลัดถิ่นฐาน. – สำนักข่าวไทย