ปารีส 12 มิ.ย.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ตั้งความหวังว่า การเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้จะทำให้เขาได้ครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา เพราะกำลังถูกสั่นคลอนจากกลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้าย
การเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติหรือสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีผู้สมัครมากกว่า 6,000 คน อายุตั้งแต่ 18 ปี จนถึง 92 ปี เป็นการเลือกตั้งรอบแรก ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะได้ชิงชัยรอบสองในวันที่ 19 มิถุนายน เพื่อชิงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 577 ที่นั่ง พันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีมาครง ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนเมษายน ต้องการได้เสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา เพื่อให้สามารถเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้ เช่น ลดภาษี ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 65 ปี เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรมีเสียงชี้ขาดในการออกกฎหมายเหนือวุฒิสภา
ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า พันธมิตรของมาครงอาจมีปัญหาในการกวาดที่นั่งในสภาให้ได้เกินครึ่งหนึ่ง และการจะได้เสียงข้างมากเด็ดขาดอาจต้องต่อรองกับสมาชิกสภา เพราะอุปสรรคหลักน่าจะเป็นพันธมิตรฝ่ายซ้ายที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ประกอบด้วยฝ่ายซ้าย กลุ่มสิ่งแวดล้อม และกลุ่มคอมมิวนิสต์ นายฌอง-ลุค เมลองชง นักการเมืองฝ่ายซ้ายที่เป็นแกนนำ ขอให้ชาวฝรั่งเศสเทคะแนนให้พันธมิตรฝ่ายซ้ายได้เสียงข้างมาก เพราะจะสามารถบีบประธานาธิบดีมาครงให้เสนอชื่อเขาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการบริหารประเทศร่วมกัน พันธมิตรฝ่ายซ้ายชูเรื่องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างมีนัยสำคัญ ลดอายุเกษียณลงเหลือ 60 ปี และตรึงราคาพลังงาน
ผลการหยั่งเสียงคาดว่า พันธมิตรของมาครงน่าจะได้ 260-320 ที่นั่ง พันธมิตรของนายเมลองชงน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 200 ที่นั่ง ส่วนพรรคเนชันนัลแรลลี สายขวาจัดของนางมารีน เลอ เปน ที่พ่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้แก่มาครง หากได้เพิ่มขึ้นจาก 8 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อน เป็น 15 ที่นั่งในครั้งนี้ ก็จะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น อย่างไรก็ดี ผลคะแนนอาจขึ้นกับจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิที่คาดกันว่าจะต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยอาจจะมีไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 48.7 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย