โซล 9 มิ.ย. – เกาหลีเหนืออาจใช้งบประมาณสูงถึง 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22,400 ล้านบาท) ในการทดสอบยิงขีปนาวุธที่ทำสถิติสูงสุดในปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกาหลีเหนือเผชิญกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 และปัญหาขาดแคลนอาหารที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากคำสั่งปิดพรมแดนของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
ข้อมูลจากสถาบันวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองสังกัดกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ระบุว่า นายคิมได้ใช้งบประมาณราว 400-650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,700-22,400 ล้านบาท) เพื่อสร้างและทดสอบยิงขีปนาวุธ 33 ลูกในปีนี้ โดยที่การทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปใช้เงินมากถึงลูกละ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,034 ล้านบาท) ส่วนการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ใช้เงินมากถึงลูกละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 172 ล้านบาท) ซึ่งใช้เงินน้อยกว่าขีปนาวุธลักษณะเดียวกันของรัสเซียราวครึ่งหนึ่ง
นายชิน วอน-ซิก ส.ส. พรรคพลังประชาชนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน กล่าวว่า นายคิมจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณผิดพลาด โดยทุ่มงบไปกับการทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เกาหลีเหนือจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องอันน่าเศร้าของประชาชนเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้มากถึง 8 ลูกเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งทำสถิติยิงขีปนาวุธรายวันสูงสุดและทำสถิติยิงขีปนาวุธมากที่สุดในปีเดียวภายใต้การปกครองของนายคิมที่เริ่มโครงการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อปี 2560. -สำนักข่าวไทย