เซี่ยงไฮ้ 31 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน เริ่มรื้อถอนรั้วกั้นรอบอาคารที่พักอาศัย เก็บเทปกั้นเขตตามสถานที่สาธารณะและอาคารต่าง ๆ ก่อนที่ทางการจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาเป็นเวลา 2 เดือนตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาวเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากร 25 ล้านคน จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง หลังทางการท้องถิ่นประกาศยกเลิกการใช้บัตรผ่านเข้าออกที่พักอาศัยเพื่อใช้ประชาชนออกไปเดินเล่นข้างนอกได้เป็นเวลาไม่นาน อนุญาตให้ระบบขนส่งสาธารณะกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง และให้ประชาชนกลับไปทำงานที่สำนักงานได้ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป ชาวเซี่ยงไฮ้คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในแวดวงการศึกษาระบุว่า เขาเพิ่งทราบว่าทางการจะอนุญาตให้กลับไปทำงานในสำนักงานได้โดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้รู้สึกวิตกกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นจริง
โฆษกหญิงของนครเซี่ยงไฮ้เผยว่า ชาวเซี่ยงไฮ้ทุกคนต่างเฝ้ารอให้วันนี้มาถึงมาเป็นเวลานานแล้ว ที่ผ่านมาทุกคนต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างมากจนกระทั่งได้มาซึ่งชัยชนะที่ยากลำบากในวันนี้ อย่างไรก็ดี ทางการนครเซี่ยงไฮ้ยังคงกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย ห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะ และห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร ส่วนร้านค้าต่าง ๆ สามารถให้บริการลูกค้าได้สูงสุดร้อยละ 75 ของพื้นที่ และยังคงไม่อนุญาตให้เปิดโรงออกกำลังกาย นอกจากนี้ ชาวนครเซี่ยงไฮ้จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุก 3 วัน เพื่อใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะหรือเข้าไปในสถานที่สาธารณะ
นครเซี่ยงไฮ้รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 31 คนเมื่อวันจันทร์ ลดลงจากวันอาทิตย์ที่มี 67 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มตัวเลขที่ลดลงสอดคล้องกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศที่มีต่ำกว่า 200 คน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.87 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 16,600 คน.-สำนักข่าวไทย