พอร์ตวิลา 28 พ.ค.- รัฐสภาของวานูอาตู ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศแล้ว หลังจากนายกรัฐมนตรีระบุว่า ต้องใช้งบประมาณมากกว่า 40,000 ล้านบาทรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รัฐสภาวานูอาตูเห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ต่อญัตติให้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ตามที่หลายประเทศทำมาแล้ว เช่น อังกฤษ แคนาดา ฟิจิ ผู้นำในสภากล่าวว่า ภารกิจของวานูอาตูคือการผลักดันให้ประเทศที่มีความรับผิดชอบดำเนินการให้สอดคล้องกับขนาดและความเร่งด่วนของวิกฤตนี้ การใช้คำว่า ภาวะฉุกเฉิน เป็นวิธีส่งสัญญาณว่าต้องเร่งดำเนินการมากกว่าปกติ
รัฐสภาลงมติดังกล่าวหลังจากนายกรัฐมนตรีบ็อบ เลาแมนแถลงว่า ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและสภาพอากาศรุนแรงได้ทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกเกิดผลกระทบที่ไม่สมส่วนกันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นั่นคือพายุไซโคลนโซนร้อนทำลายล้างสูง 2 ลูก และภาวะแห้งแล้งรุนแรง เขาระบุว่า วานูอาตูจะสามารถปฏิบัติตามพันธกิจลดโลกร้อนตามข้อตกลงปารีสภายในปี 2573 ได้ หากใช้งบประมาณอย่างน้อย 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,900 ล้านบาท) ดำเนินการตามแผนที่มุ่งเน้นเรื่องการปรับตัว การบรรเทาผลกระทบ และการดูแลความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งบประมาณส่วนใหญ่จะมาจากประเทศผู้บริจาค
วานูอาตูซึ่งมีประชากรประมาณ 300,000 คน เคลื่อนไหวเรื่องนี้ก่อนที่สหประชาชาติจะมีการลงมติในเรื่องที่วานูอาตูยื่นขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกคุ้มครองประเทศที่เสี่ยงภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้แม้ความเห็นของศาลโลกจะไม่มีผลผูกพัน แต่วานูอาตูหวังว่า จะปูทางให้เกิดกฎหมายสากลให้แก่คนรุ่นหลังเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อความเสียหาย ความสูญเสีย และสิทธิมนุษยชน.-สำนักข่าวไทย