สหรัฐ 10 พ.ย.-นางฮิลลารี คลินตัน ออกมาประกาศ ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเหนือความคาดหมาย ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเสนอให้ความร่วมมือทำงานกับว่าที่ผู้นำประเทศคนใหม่ ที่เธอหวังว่าจะเป็นประธานาธิบดี ของชาวอเมริกันทุกคน
นางคลินตันกล่าวว่า เธอได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับนายทรัมป์และเสนอ จะทำงานกับทรัมป์ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ เธอยังได้เรียกร้อง ให้กลุ่ม ผู้สนับสนุนเธอ เปิดใจกว้างยอมรับและให้โอกาสทรัมป์เป็นผู้นำประเทศ เธอยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาสร้างความปวดร้าวและเธอรู้สึกผิดหวัง ผลการเลือกตั้ง ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างหนักในสหรัฐ แต่ชาวอเมริกันผู้ลงคะแนนเสียงได้ตัดสินเลือกประธานาธิบดีของพวกเขาแล้ว ขณะเดียวกันประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศว่าเขาพร้อมสำหรับการถ่ายโอนอำนาจ ให้แก่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ และเชื่อมั่นว่ากระบวนการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับนายทรัมป์นั้น หลังชนะการเลือกตั้งแล้วเขามีเวลาเตรียมตัว 10 สัปดาห์ ก่อนทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยตอนนี้ทุกวันเขาจะต้องได้รับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลข่าวกรองแบบเดียวกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ดังนั้นว่าที่ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ จะต้องเริ่มมองหาตัว ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งคงเป็นคนใกล้ชิด ที่เคยช่วยเขาหาเสียงนั่นเอง เช่น นายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ และนาย รูดอล์ฟ จูลีอานี ที่จะมาคอยช่วยเป็นที่ปรึกษาเขา ในการวางตัวบุคคลสำคัญในคณะรัฐบาล เวลานี้หลายฝ่าย กำลังจับตาว่า ทรัมป์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจมาทั้งชีวิต จะปรับเปลี่ยนสไตล์การบริหารธุรกิจ ให้เข้ากับการบริหารงานในทำเนียบขาวที่เป็นแบบราชการได้อย่างไร
คาดว่า ทีมงานเศรษฐกิจจะเป็นชายผิวขาว และเป็นนักธุรกิจโดยอาชีพแทบทั้งสิ้น ซึ่งรวมถึงผู้บริหารเฮดจ์ฟั้นด์ขนาดใหญ่ โดยมีเพียงคนเดียวที่เป็นนักวิชาการ ดานเศรษฐศาสตร์ สำหรับนโยบายหาเสียงบ้าบิ่นของทรัมป์ที่โดนใจคนอเมริกัน จนถึงขั้นทำให้เขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทะลายนั้น มีอยู่ 5 ข้อ ที่โลกกำลังเฝ้าจับตามองว่า เขาจะทำตามคำมั่นนี้หรือไม่ นั่นคือ 1.การสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก เพื่อสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมาย 2. การรื้อคดีอีเมลฉาวของนางฮิลารี เพื่อเอาเธอเข้าคุกให้ได้ 3. ฉีกข้อตกลงการค้านาฟต้า และทีพีพี ที่เขาเคยสัญญากับประชาชนในระหว่างการหาเสียง ในรัฐอุตสาหกรรมสำคัญ ของประเทศ เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐวิสคอนซิน จนทำให้ 2 รัฐนี้ โหวตเลือกตัวแทนจากพรรครีพับลิกันเป็นครั้งแรก ในรอบกว่า 30 ปี
โดยทรัมป์ จะทบทวนข้อตกลงการค้าทั้งหมด ที่ทำลายระบบเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ 4. นโยบายต่างประเทศ ที่ทรัมป์ เน้นสโลแกน “อเมริกาต้องมาก่อน” ดังนั้นความสัมพันธ์กับนาโต้จะไม่ใกล้ชิดเหมือนเดิม ส่วนสงครามซีเรีย ทรัมป์ กล่าวว่า ประธานาธิบดี บาห์ชา อัล อัสซาด แห่งซีเรีย เลวร้ายน้อยกว่าการที่สหรัฐสนับสนุนกลุ่มกบฎในซีเรีย 5.การปฏิรูปลดอิทธิพลของขั้วอำนาจเก่า โดยเสนอออกกฎหมายตีกรอบ 5 ปี ห้ามเจ้าหน้าที่ ของทำเนียบขาว และสส./สว.ทุกคน ซึ่งเกษียณอายุหรือออกจากราชการไปแล้วผันตัวไปทำงานให้กับล็อบบี้ยิสต์.-สำนักข่าวไทย