เบรุต 17 พ.ค.- รอยเตอร์เผยผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปเลบานอนว่า กลุ่มเฮซบอลลาห์และพันธมิตรเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา สะท้อนถึงความขัดแย้งกับกลุ่มชนชั้นนำในเลบานอน
รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มเฮซบอลลาห์ ซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและพรรคพันธมิตรได้ที่นั่งในสภาราว 62 ที่นั่งจากทั้งหมด 128 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งหลังสุดในปี 2561 ที่ครองเสียงข้างมาก 71 ที่นั่ง ขณะที่ผู้สมัครหน้าใหม่สายปฏิรูปได้ 12 ที่นั่ง ถือว่าเกินความคาดหมายในระบอบการเมืองที่ถูกครอบงำโดยกลุ่มเดิม ๆ ส่วนพรรคพลังเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบียได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น และอ้างว่ากลายเป็นพรรคคริสเตียนใหญ่ที่สุดในสภา แซงหน้าพรรคเอฟพีเอ็ม (FPM) ของประธานาธิบดีมีเชล อวน
รอยเตอร์ระบุว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้สภาแตกเป็นหลายกลุ่ม โดยไม่มีกลุ่มใดครองเสียงข้างมาก ส่อแววว่าจะเกิดวิกฤตการเมืองและความตึงเครียดที่จะเตะถ่วงการปฏิรูปเศรษฐกิจเลบานอนที่พังทลาย ตกอยู่ในวิกฤตรุนแรง เพราะปัญหาหนี้สินที่พอกพูนมาจากแต่ละรัฐบาล หลังจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2518 ยุติลงในปี 2533 อีกทั้งยังเกิดเหตุระเบิดโกดังเก็บแอมโมเนียมไนเตรตที่ท่าเรือกรุงเบรุตในปี 2563 สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง มีคนเสียชีวิต 218 คน บาดเจ็บราว 7,000 คน และกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยมากถึง 300,000 คน.-สำนักข่าวไทย