เซี่ยงไฮ้ 12 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ของนครเซี่ยงไฮ้ เมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของจีน พยายามติดตามหาตัวผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ชุดสุดท้ายด้วยความหวังว่าจะเป็นการเปิดทางให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว ในขณะที่กรุงปักกิ่งควบคุมบริการรถแท็กซีเพื่อป้องกันการระบาดขนาดเล็ก
นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากร 25 ล้านคน ยกระดับการล็อกดาวน์ให้เข้มงวดมายิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความพยายามขั้นสุดท้าย ในการกำจัดเชื้อไวรัสให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ การตรวจหาเชื้อแบบหมู่ในนครเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 11 พฤษภาคม พบผู้ติดเชื้อไวรัสเพียง 2 ราย ภายนอกเขตที่มีการควบคุมเข้มงวดที่สุด แต่ก่อนหน้านี้ 1 วัน ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย ผู้ติดเชื้อที่พบนี้อยู่ใน 2 เขตจาก 16 เขตของนครเซี่ยงไฮ้ คือ ซูไห่และเฟิงเซี่ยน ซึ่ง 2 เขตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ 8 เขตที่สัปดาห์นี้ประสบความสำเร็จพบผู้ติดเชื้อเป็นศูนย๋ คือไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในชุมชนเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการเอาชนะไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่ติดต่อกันได้ง่าย แม้จะใช้มาตรการเข้มงวดสุด ๆ นอกจากนั้น การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ายังทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลปักกิ่ง ทางด้านกรุงปักกิ่ง ประกาศเมื่อค่ำวันพุธว่า ระงับบริการแท็กซีและเรียกใช้บริการรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันในเขตเฉาหยาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ และอีก 2 เขตในกรุงปักกิ่ง.-สำนักข่าวไทย