กีโต 11 พ.ค.- ตำรวจเอกวาดอร์แจ้งว่า สามารถจับกุมผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำที่เกิดเหตุจลาจลกลับมาได้แล้ว 200 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีผู้ต้องขังยังหลบหนีอยู่ 20 คน
แก๊งอันธพาล 2 กลุ่มที่เป็นอริกันในเรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองซานโตโดมิงโก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ได้ก่อเหตุวิวาทเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน บาดเจ็บ 10 คน ทางการแจ้งว่า มีผู้ต้องขังฉวยโอกาสหลบหนีไป 108 คน แต่ตำรวจแจ้งความคืบหน้าในวันอังคารว่า มีผู้ต้องขังหลบหนีไปทั้งหมด 220 คน จับกุมกลับมาได้แล้ว 200 คน รัฐบาลได้ตั้งเงินรางวัลนำจับสูงสุด 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 104,000 บาท) สำหรับผู้ต้องขังที่ยังหลบหนีอยู่ 20 คน นอกจากนี้ยังได้ส่งกำลังทหารออกช่วยตามหาผู้ต้องขังหลบหนีด้วย ด้านญาติผู้ต้องขังรอฟังข่าวนอกเรือนจำอย่างกระวนกระวายใจ โดยรีบรุดเดินทางมาทันทีที่ทราบข่าวจลาจล ตำรวจระบุว่า พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้ต้องขังที่เสียชีวิตได้แล้ว 41 ศพจากทั้งหมด 44 ศพ ในจำนวนนี้ 2 ศพเป็นชาวเวเนซุเอลา
นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 เรือนจำในเอกวาดอร์เกิดเหตุไม่สงบมาแล้ว 5 ครั้ง ไม่รวมครั้งนี้ มีผู้ต้องขังเสียชีวิตรวมราว 350 คน เนื่องจากมีสภาพแออัด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่เพียงพอ และมีการทุจริต เปิดช่องให้ผู้ต้องขังสามารถซื้อหาสิ่งผิดกฎหมายได้ทุกอย่าง รวมทั้งอาวุธปืนและระเบิด ประธานาธิบดีชี้ว่า ปัญหาในเรือนจำเป็นภาพสะท้อนสถานการณ์นอกเรือนจำที่แก๊งค้ายาเสพติดใช้ความรุนแรงแย่งชิงพื้นที่ค้ายา เอกวาดอร์ซึ่งมีประชากร 17 ล้าน 7 แสนคนกลายเป็นเส้นทางค้ายาสำคัญ เพราะมีช่องโหว่ทางพรมแดน เศรษฐกิจอิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก และมีท่าเรือส่งออกทางทะเลขนาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย