ฟิลิปปินส์ 10 พ.ค.- นายมาร์กอส บองบอง จูเนียร์ วัย 64 ปี ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ สามารถคว้าชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปได้อย่างขาดลอย
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ ล่าสุด มีการนับคะแนนไปแล้วร้อยละ 95 ผลปรากฏว่านายมาร์กอส บองบอง จูเนียร์ วัย 64 ปี ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ได้คะแนนเสียงถึง 30.3 ล้านเสียง เอาชนะนางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญไปได้อย่างขาดลอย โดย นางโรเบรโด ได้คะแนนไป 14.4 ล้านเสียง
ชัยชนะดังกล่าวส่งผลให้ นายมาร์กอส หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า บองบอง กลายเป็นผู้สมัครคนแรกของฟิลิปปินส์ ในรอบหลายสิบปีที่ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย ทำให้คนในตะกูลมาร์กอส หวนคืนสู่อำนาจทางการเมืองอีกครั้ง หลังจากที่ นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นผู้นำจอมเผด็จการถูกประชาชนลุกฮือชึ้น ต่อต้านและโค่นล้มได้สำเร็จเมื่อปี 2529 โดยนายมาร์กอสผูกขาดอำนาจอยู่นานถึง 20 ปี แม้จะได้รับชัยชนะแน่นอนแล้ว แต่นายมาร์กอส จูเนียร์ ปฏิเสธที่จะฉลองชัยชนะ มีเพียงการแถลงขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนทุกกลุ่ม โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก
ด้านรองประธานิบดีโรเบรโด ที่มีคะแนนมาเป็นอันดับสอง เรียกร้องต่อกลุ่มผู้สนับสนุนให้รับฟังเสียงของประชาชนหลังรู้ผลคะแนน และขอให้ทุกคนต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ในความรักชาติต่อไป ขณะที่ผู้สนับสนุน นางโรเบรโด จำนวนไม่น้อย แสดงความไม่พอใจที่คนในตระกูลมาร์กอส ได้รับชัยชนะ
ผู้นำคนใหม่ของฟิลิปปินส์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายน โดยจะมีวาระในการบริหารประเทศเป็นเวลา 6 ปี และจะดำรงตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียวเท่านั้น นอกจากปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรอการฟื้นฟู หลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่นายมาร์กอส จะรับฟังเสียงเรียกร้องที่ต้องการให้ดำเนินคดีกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ที่ใช้นโยบายแข็งกร้าวในการปราบปราม ยาเสพติด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายพันคน.-สำนักข่าวไทย